จอมนักรบท้าโลก นิยาย บท 14

บทที่ 14 แหวนเพชร

ในเวลาพลบค่ำ เจียงชื่อกลับไปที่ทาวน์เฮาส์ในหมู่บ้านอพาร์ทเม้นหมิงเยี่ยน

ทันทีที่เข้าไปในบ้านก็เห็นครอบครัวของพ่อตานั่งอยู่บนโซฟา พูดคุยและหัวเราะกับชายคนหนึ่ง เมื่อเห็นเจียงชื่อกลับมา ซูฉินก็กวักมือเรียกเขา

"ชื่อ มาสิ จะให้แนะนำเธอรู้จัก นี่คือลูกชายของป้าจ้าวเพื่อนบ้านเรา…จ้าวเต๋อเฉิง"

"ไม่กี่ปีก่อนเสี่ยวจ้าวไปเรียนต่างประเทศมา เพิ่งกลับมาวันนี้เอง"

จ้าวเต๋อเฉิงยื่นมือไปหาเจียงชื่อ "สวัสดีครับ"

"สวัสดีครับ"

เจียงชื่อจับมือกับจ้าวเต๋อเฉิง รู้สึกได้อย่างรวดเร็วว่าแรงที่มือของจ้าวเต๋อเฉิงเพิ่มขึ้นมาบางส่วน

อีกฝ่ายมีรูปร่างสูงใหญ่ กล้ามเนื้อแน่นปึ้ก เห็นปุ๊บก็รู้เลยว่าต้องออกกำลังกายโรงยิมมาเป็นปี ๆ แน่ ในตอนนี้แอบใช้กำลังอย่างลับ ๆ ถ้าเป็นคนธรรมดา จะต้องถูกจ้าวเต๋อเฉิงบีบจนเจ็บปวดแทบทนไม่ได้แน่

เพียงแต่ว่า……

สำหรับเทพแห่งสงครามชูร่าที่ต่อสู้มาหลายต่อหลายปีแล้ว เขายังอ่อนเกินไป

เจียงชื่อเองก็เพิ่มแรงเข้าไปบ้าง มือคู่นั้นก็จับมือของจ้าวเต๋อเฉิงเอาไว้แน่นราวกับคีมเหล็ก ออกแรงอย่างหนัก จนได้ยินเสียงกรอบแกรบ กรอบแกรบดังออกมา กระดูกแทบจะแตกร้าว

"อา~~" จ้าวเต๋อเฉิงอดทนต่อความเจ็บปวดไม่ได้ตะโกนออกมา เขามองเจียงชื่อด้วยความประหลาดใจ สงสัยว่าทำไมชายคนนี้ถึงได้มีกำลังมือที่แข็งแกร่งอย่างนี้กัน?

เมื่อเขาปล่อยมือ มือของจ้าวเต๋อเฉิงก็กลายเป็นสีแดงไปแล้ว

ทั้งสองต่างคนต่างนั่งลง

จ้าวเต๋อเฉิงสะบัดมือ และพูดด้วยรอยยิ้มว่า "คุณนี่เองเหรอเจียงชื่อ? ได้ยินมาว่าคุณไปเป็นทหารในแดนตะวันตกอยู่ห้าปีมาแล้ว?"

"ครับ"

"จิ๊ ๆ ปล่อยภรรยาที่สวยขนาดนี้เอาไว้ แล้วออกไปเป็นทหาร คุณตัดใจทิ้งได้ลงจริง ๆ เหรอ?"

เจียงชื่อขมวดคิ้ว สายตาของเขาเผยรังสีอำมหิตออกมา

ในเวลานี้เอง ติงเมิ่งเหยนเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเดินออกมา ในขณะนี้เธอสวมที่คาดผม และชุดสีขาวสะอาดอยู่บนตัว งดงามหมดจด จนทำเอาจ้าวเต๋อเฉิงที่มองอยู่ตาค้างไปเลย

ติงเมิ่งเหยนนั่งลงข้างเจียงชื่อ จ้าวเต๋อเฉิงฮึดฮัดเสียงเย็น อิจฉาอย่างเห็นได้ชัด

เขาจงใจพูดว่า "ตั้งแต่ผมไปเรียนที่ต่างประเทศ ก็ไม่ได้เจอน้องเมิ่งเหยนมาหลายปีแล้ว"

ติงเมิ่งเหยนยิ้ม "นับเวลาดูแล้ว ก็เกือบหกปีแล้วใช่ไหมคะ?"

“ใช่แล้ว หกปีแล้ว ยังจำได้อยู่เลยว่าตอนเด็กเราเคยเล่นด้วยกันอยู่บ่อย ๆ ตอนนั้นเธอบอกว่าพอโตขึ้นถ้าไม่ใช่พี่ก็จะไม่ยอมแต่ง พอพี่โตขึ้นถ้าไม่ใช่เธอก็ห้ามไปขอใครแต่งงาน”

พอพูดประโยคนี้ออกมา เหตุการณ์ก็น่าอึดอัดขึ้นมา

รอยยิ้มบนใบหน้าของติงเมิ่งเหยนค่อย ๆ หายไป เธอกระแอมไอ และก้มหน้าดื่มชา

จ้าวเต๋อเฉิงกลับไม่สนใจ และพูดว่า "แค่พูดเล่นน่ะ ถ้าหกปีก่อนพี่ไม่ได้ไปเรียนที่ต่างประเทศล่ะก็ บางทีตอนนี้เราอาจจะเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วก็ได้นะ ฮ่าๆๆๆ"

สิ่งที่เขาคิดว่าเป็นเรื่องตลก แต่กลับไม่มีใครหัวเราะออกมาสักคน

ใบหน้าของซูฉินไม่มีค่อยพอใจ ติงเมิ่งเหยนเป็นผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว ยังจะมาพูดแบบนี้ต่อหน้าสามีของเธออีกได้ยังไง?

เจียงชื่อพูดเรียบ ๆ "ถ้าคุณไม่มีเรื่องอื่นอีก คุณก็ไปได้แล้ว"

จ้าวเต๋อเฉิงฮึดฮัดเสียงเย็น“คุณจะมาเร่งรัดอะไร? ผมไม่ได้มาหาคุณ ผมมาหาป้าซูกับน้องเมิ่งเหยน เจียงชื่อ ถ้าคุณมีเวลาคุณควรเอาใจใส่น้องชายที่ตายไปมากกว่านะ”

"จ้าวเต๋อเฉิง!" ติงเมิ่งเหยนโกรธขึ้นมา ในขณะเดียวกันก็กดเจียงชื่อเอาไว้ด้วย ไม่ให้เจียงชื่อระเบิดอารมณ์ออกมา

"ขอโทษด้วยนะครับ ผมเป็นคนปากไวใจเร็วไปหน่อย จริงสิ กลับมาครั้งนี้พี่ยังเอาของขวัญชิ้นหนึ่งมาให้น้องเมิ่งเหยนด้วยนะ" จ้าวเต๋อเฉิงยื่นมือนำกล่อง ๆ หนึ่งออกมาวางลงบนโต๊ะ

"น้องเมิ่งเหยน ลองเปิดดูสิ"

เจียงชื่อเหลือบมองไปที่แหวนเพชรอย่างสงบ และพูดว่า "สิ่งนี้มีมูลค่าสองแสนจริงเหรอ?"

"แน่นอน! คุณคิดว่าเป็นของปลอมงั้นเหรอ? ผมสามารถหาคนมาตรวจสอบได้ทันทีเลยนะ"

"ผมไม่ได้บอกว่าแหวนวงนี้ของคุณเป็นของปลอม แต่เพียงแค่ตัวผมในฐานะทหารหลายปีมานี้เคยเห็นเพชรแบบนี้มามากเกินไป พูดตามตรง มันมีอยู่เกลื่อนกลาดเต็มถนน ตกอยู่บนพื้นก็ยังไม่มีใครเอา มันยากมากจริง ๆ ที่จะจินตนาการว่าของแบบนี้จะมีมูลค่าถึงสองแสน"

"บ้านแม่แกสิ!" จ้าวเต๋อเฉิงเสียดสี "นายซื้อไม่ไหวก็ซื้อไม่ไหวสิ มาทำตัวเป็นหมาป่าอวดหางอะไรกัน แหวนเพชรวงละสองแสนเกลื่อนกลาดเต็มถนน? เอาสิ งั้นนายก็เอาออกมาโชว์ให้ดูหน่อย เอาออกมาได้ไหมล่ะ!”

ซู่ฉินก็ส่ายหัว

เธอรู้ว่าเจียงชื่อนี่เป็นคำพูดที่ออกมาด้วยความโมโหชั่วขณะ แต่ไม่ว่าจะโมโหแค่ไหน ก็ต้องพูดให้มีบันยะบันยังบ้าง

พูดว่าเกลื่อนกลาดเต็มถนนอะไรกัน นี่มันจะโง่เง่าเกินไปแล้ว

นี่ไม่ใช่แค่การพูดให้เป็นขี้ปากคนหรอกเหรอหรือ?

ซูฉินกล่าวแก้ต่างให้เจียงชื่อ "บางทีชื่ออาจจะมองผิดไป...... "

"ไม่ครับ ผมมั่นใจมาก"

ซูฉินโกรธแทบระเบิด นี่ช่วยพูดให้นายแล้วนะ ทำไมนายถึงได้ทำให้มันหนักขึ้นอีกกันเล่า?

"เฮ้อ…… " เธอถอนหายใจ ค่อนข้างผิดหวังกับเจียงชื่อ คิดว่าลูกเขยคนนี้อาจไม่มีอนาคตอะไรแล้วจริง ๆ ยอมตายดีกว่ายอมเสียหน้า

จ่าวเต๋อเฉิงเอนกายพิงพนักโซฟา "โอเค เกลื่อนกลาดเต็มถนนใช่ไหม? งั้นนายก็ไปหยิบมาให้ฉันสักสองวงสิ ให้ฉันคนแซ่จ้าวได้เปิดประสบการณ์หน่อย!"

"อือ เฉิง ฉันจะโทรหาเพื่อน ฉันจำได้ว่าเขาคิดว่าเพชรนี่หยิบกลับไปทำเป็นลูกแก้วเล่นได้ หยิบมาไม่น้อยเลย เหมือนจะมีอยู่ตะกร้าหนึ่ง ฉันจะให้เขาส่งมาละกัน"

"อุ๊บ…" จ้าวเต๋อเฉิงหัวเราะจนตัวโยนไปมา "หนึ่งตะกร้า? แล้วยังทำเป็นลูกแก้วเล่น? โอเค นายเจ๋งมาก ทักษะการโม้นี่ไม่มีเกินเลย ป้าซู น้องเมิ่งเหยน พวกคุณช่างสรรหาของกลับมาบ้านซะจริง ฮ่าๆ ๆ ๆ ไม่ไหวแล้ว ขำจะตายแล้ว”

เจียงชื่อยักไหล่ และโทรออก

"ฮัลโหล ซวงหยู่ นายมาถึงซูหังแล้วใช่ไหม? เอาตะกร้า “ลูกแก้ว” ที่หยิบมาให้ฉันยืมเล่นสักสองวันสิ"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบท้าโลก