เมื่อเห็นท่าทางตึงเครียดของเย่ชิงหยู่ ก็รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ดังนั้นเฉินหย่าพยักหน้าแล้วพูดว่า: “อ๋อ ชิงหยู่ เธอพูดมา ตราบใดที่เขาสามารถทำได้ เขาก็จะทำให้ฉัน เพราะเขาตามจีบฉันอยู่”
ถ้าเป็นเวลาปกติ เย่ชิงหยู่จะพูดจาล้อเล่นกับเธอไม่กี่คำ แต่ตอนนี้เธอไม่มีอารมณ์มาล้อเล่นจริงๆ ดังนั้นจึงพูดเข้าประเด็นว่า: “คือแบบนี้ ฟางเหยียนโดนเซียวเจิ้นเที่ยนพาคนมาจับตัวไปแล้ว ฉันแจ้งตำรวจ แต่ว่าคนระดับบนบอกว่าไม่รับแจ้งความเรื่องนี้ ฉันอยากจะรู้มาก ใครออกคำสั่งกันแน่ ทำไม่ไม่รับแจ้งข้อเรื่องนี้”
“ฟางเหยียนโดนจับเหรอ?” เฉินหย่าเบิกตากว้างถามเย่ชิงหยู่
เย่ชิงหยู่พยักหน้าแล้วพูดว่า: “ใช่แล้ว โดนจับที่หอตระกูลหง”
เฉินหย่าเบิกตากว้าง รู้สึกน่าเหลือเชื่อ ฟางเหยียนเป็นคนที่หลิวเหอฉางเถ้าแก่ของร้านหยกตี้เซิ่งหยวนเห็นยังต้องคุกเข่าให้ จะโดนคนของตระกูลเซียวจับตัวไปได้อย่างไร?
เธอสะอึกครู่หนึ่ง พยักหน้าแล้วพูดว่า: “เธอวางใจเถอะ ชิงหยู่ ฉันจะโทรหาเขาเดี๋ยวนี้ ให้เขาช่วยฉันถามดู”
“ได้ ขอบคุณเธอ เฉินหย่า”เย่ชิงหยู่พูดด้วยความซาบซึ้ง
ผ่านไปครู่หนึ่ง เฉินหย่ากวางโทรศัพท์ลง และหันหน้ามองไปที่เย่ชิงหยู่แล้วพูดว่า: “เดี๋ยวอาจจะได้ผลแล้ว เธอก็อย่ากังวลมากเกินไปนะชิงหยู่ คนอย่างฟางเหยียน น่าจะไม่มีทางเกิดเรื่องได้ง่ายดายขนาดนั้น”
“แต่ อีกฝ่ายเป็นตระกูลเซียว!” เย่ชิงหยู่พูดคำเหล่านี้ออกมาอย่างแผ่วเบา ในหัวของเธออดไม่ได้ที่จะคิดถึงเรื่องก่อนหน้านี้ที่แม่บอกกับเธอ ตระกูลเซียวต้องการฆ่าปิดปากคนอย่างชัดเจน
แต่ตอนนี้เธอก็ไม่กล้ากระทำอะไรออกมา ถ้าหากเกิดเรื่องขึ้นกับเธอ ถ้าอย่างนั้นก็ไม่มีความสามารถช่วยฟางเหยียนได้แล้ว
เฉินหย่ากำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่โทรศัพท์ก็ดังขึ้นมา เฉินหย่ารับสายโทรศัพท์
“ฮัลโหล ว่าไงบ้าง?”
“อือ!”
“อะไรนะ? เป็นแบบนี้ได้อย่างไร?”
“นายแน่ใจว่าระดับบนพูดแบบนั้นเหรอ?”
“ได้ ขอบคุณนาย”
หลังจากวางสาย ใบหน้าของเฉินหย่าเผยให้เห็นความผิดหวังเล็กน้อย ต่อจากนั้นพูดกับเย่ชิงหยู่ว่า: “ชิงหยู่ เขาบอกเรื่องนี้ไม่สามารถไปสอบถามได้ ต่อให้เป็นคนระดับบนสุดก็ไม่มีทางรู้ พวกเขาเพียงแค่ทำตามคำสั่ง และนี่เป็นคำสั่งที่ไม่อาจคัดค้านได้ ใครกล้ายุ่งเรื่อง ก็โดนฆ่าตาย!”
“อะไรนะ?” เย่ชิงหยู่ก็ขมวดคิ้วขึ้นมา และถามอย่างไม่สบายใจ: “เป็นอย่างนั้นไปได้อย่างไร? หรือว่าจะเป็นตระกูลฟางจริงๆเหรอ?”
“ชิงหยู่ เธอว่าอะไรนะ?” เมื่อเฉินหย่าได้ยินเย่ชิงหยู่พูดพึมพำกับตัวเอง จึงถาม
เย่ชิงหยู่ส่ายพูดว่า: “ไม่มีอะไร”
เฉินหย่าตอบอือพยักหน้าแล้วพูดว่า: “เธออย่ากังวลมากเกินไป ฟางเหยียนเป็นมหัศจรรย์ เขาจะต้องแปลงเหตุร้ายให้กลายเป็นดีได้อย่างแน่นอน”
เย่ชิงหยู่ทำได้เพียงถอนหายใจ และไม่ได้พูดอะไรอีก
...
งานเลี้ยงวันเกิดของเซียวเจิ้นเที่ยน
ตระกูลเซียวประดาด้วยผ้าและโคมไฟสวยงาม ตกแต่งในคฤหาสน์ได้น่าเฉลิมฉลองอย่างมาก ตัวอักษรโซ่ว(ตัวอักษรโซ่วหมายถึงอายุยืน)ขนาดใหญ่ก็ยิ่งสะดุดตา
“ก็ร่วมงานกับตระกูลฟางแล้ว ยังจะมีเรื่องอะไรอีก? ต่อให้มีเรื่องอะไรจริงๆ นั่นก็เป็นเรื่องที่ดี!”
“โธ่! ไม่ว่ายังไง ฉันรู้สึกว่าวันเกิดปีนี้จัดได้แปลกๆ ไม่เชิญคนของมหาเศรษฐีมาสักคน”
เซียวเจิ้นเที่ยนได้ยินคำวิพากษ์วิจารณ์ของหลายคน เขาถอนหายใจ แล้วพูดว่า: “หรือว่าพวกแกไม่ได้ยินเหรอ? วันนี้นายน้อยตระกูลฟางจะมาพูดคุยเรื่องการร่วมงานกับพวกเรา ยังจะจัดการกับคนที่ฟันขาของฉันขาด คุณปู่กำลังคิดว่า หยาดเลือดในห้องโถงจะโชคร้ายหรือเปล่า”
“พี่หัว จริงเหรอที่ลูกเขยที่แต่งเข้าบ้านตระกูลเย่ทำให้ตระกูลของพวกเรากลายเป็นแบบนี้?”
เซียวฮั่วส่งเสียงเย็นชา หรี่ตาแล้วพูดว่า: “ไม่ต้องสนใจหรอกว่าจริงหรือเปล่า เวลาของเขาก็ไม่มากแล้ว!”
หลังจากที่พูดจบ เซียวฮั่วกำหมัดไว้แน่น เขาไม่เคยเรียนกังฟูมาก่อน และไม่สามารถทำให้ข้อต่อนิ้วส่งเสียงดังก๊อกแก๊กได้
เซียวเหอเห็นเซียวเจิ้นเที่ยนที่หนักใจ ก็เดินไปที่เขา แล้วพูดว่า: “พ่อ ผมได้ตรวจสอบนายน้อยของตระกูลฟางแล้ว ฐานะของเขาทำให้ตระกูลฟางให้ความสำคัญมาก ก็คือว่า เขามีความเป็นไปได้ที่จะเป็นผู้สืบทอดของตระกูลฟาง เป็นผู้มีอำนาจที่สามารถพึ่งพาได้อย่างแน่นอน พ่อวางใจเถอะ ฟางเหยียนไม่มีพลังอะไรขัดขืนได้”
เซียวเจิ้นเที่ยนเงยหน้าขึ้นมาตอบอือคำหนึ่ง แล้วพูดว่า: “ฉันไม่ได้กังวลเรื่องฟางเหยียน เพียงแค่ตื่นเต้นจะได้พบเจอกับคนเท่านั้นเอง”
เซียวเหอพูดว่า: “พ่อไม่ต้องกังวล!”
เซียวเจิ้นเที่ยนถอนหายใจ ไม่ได้พูดอะไรอีก เซียวเหอก็พูดด้วยความบังเอิญไม่ได้ตั้งใจอย่างกะทันหันว่า: “ก็ไม่รู้ว่าครั้งนี้นายน้อยจะมาหรือเปล่า!”
นี่คือความสงสัยในหัวใจของเซียวเหอ เขามักจะรู้สึกว่าคุณชายฟางทำตัวค่อนข้างแปลก
ให้ตระกูลเซียวทำสิ่งต่างๆเหมือนเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่กลับไม่เคยโผล่หน้าออกมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ