ฟางเหยียนส่ายหัวแล้วพูดว่า“ไม่รีบ ฉันจัดการเอง”
เทียนขุยถอนหายใจหนึ่งครั้ง แล้วพูดตอบกลับไป
“พวกนายมาทำอะไรที่นี่?”ชายหัวล้านคนหนึ่งใช้สายตาประเมินทั้งสองคน แล้วเอ่ยถามอย่างเย่อหยิ่ง ชายหัวล้านคนนี้อายุประมาณสี่สิบปี บนตัวสวมชุดรักษาความปลอดภัย ดูจากเสื้อผ้าของเขา ก็รู้ได้แล้วว่าคนผู้นี้คือหัวหน้าทีมรักษาความปลอดภัย นั่นก็คือพ่อของหลงซิ่วซิ่ว หัวหน้าทีมรักษาความปลอดภัยแห่งเขตหนานซาโจว!
ฟางเหยียนไม่ได้พูดอะไร เขายกมือเป็นสัญลักษณ์ให้ชายที่สวมชุดเครื่องแบบเดินไปทางฟางเหยียนและเทียนขุย ชายสวมชุดเครื่องแบบเดินผ่านทั้งสองคนไป แล้วตรงเข้าไปภายในห้อง ผ่านไปไม่นานเขาก็เดินออกมาอย่างรีบร้อน สายตาที่มองมายังพวกเขาหวาดกลัวและระมัดระวังตัวเอง ในตอนที่เดินผ่านข้างๆทั้งสองคนยังเร่งเท้าอย่างไม่รู้ตัว
มาอยู่ข้างๆชายหัวล้าน แล้วเขาก็พูดเสียงอู้อี้“หะๆหัวหน้าครับ ด้านในมีคนตายหนึ่งคน!”
“ว่าไงนะ?ทันใดนั้นเขาก็เบิกตากว้าง แล้วพูดออกไปอย่างตกใจ”พวกนาย พวกนายฆ่าคน“!”
“ฟึบๆๆ!”ในตอนที่หัวหน้าหลงพูดจบ ทีมรักษาความปลอดภัยสามสิบกว่าคนก็เงื้อปืนขึ้นมาแล้วหันปลายกระบอกชี้ไปยังเทียนขุยและฟางเหยียน
พอเห็นอาวุธเย็นเฉียบจ่อมาฝั่งทั้งสองคน ทำให้หลายคนตะลึงไม่น้อย
แต่สีหน้าของทั้งสองกลับไม่เปลี่ยนไปเลย แม้แต่คิ้วยังไม่แม้แต่ขมวด
ปืน ฟางเหยียนไม่กลัว แต่เขาจำเป็นต้องชี้แจง เพื่อไม่ให้คนเข้าใจผิด เขาจึงพุ่งตรงไปยังหัวหน้าหลงแล้วพูดขึ้นมาว่า “ถ้าผมบอกว่าคนในนี้พวกผมไม่ได้เป็นคนฆ่า คุณเชื่อไหม?”
แน่นอนว่าหัวหน้าหลงไม่เชื่อ เขาขมวดคิ้วอย่างไม่รู้ตัว ใบหน้าของเขาเผยให้เห็นถึงความน่าเกรงขาม!
สายตาของเขาจึงย้ายไปที่สมาชิกหนุ่มในทีมคนนั้น สมาชิกหนุ่มคนนั้นก็เข้าใจและพูดขึ้นว่า“คนคนนั้นพึ่งตาย ร่างกายยังอุ่นอยู่เลย!ดูท่า น่าจะถูกสองคนนี้ฆ่าตายแล้ว”
ชายหัวหน้าหน้าสีมากยิ่งขึ้น หน้าของขรึมลง แล้วเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแห้งผาก“พวกนายสองคน ยังจะพูดอะไรอีกไหม?”
พูดจบ เขายื่นหน้าเข้าไปแล้วมองประเมินภายในห้อง จากตำแหน่งของเขามองเห็นหน้าต่างภายในห้องเปิดอยู่ เบื้องหลังของทั้งสองคนมีคนนอนอยู่คนหนึ่งจริงๆ!ไม่สิ ถ้าพูดตามตรง คือศพร่างหนึ่ง!
หลังจากที่มั่นใจแล้วว่าคือศพ เขาจึงรีบล้วงปืนของตัวเองออกมาชี้ไปที่ทั้งสองคน แล้วตะโกนขึ้นมาว่า“ยกมือขึ้น แล้วนั่งลง!”
หัวหน้าหลงไม่เคยเห็นการฆาตกรรมมาก่อน เขาดำรงตำแหน่งในเขตหนานซาโจวมานานขนาดนี้ ส่วนมากเขาก็แค่จัดการเรื่องทะเลาะวิวาท ปล้นชิงวิ่งราว หรือเหตุการณ์อุบัติเหตุทางรถยนต์ สำหรับเรื่องฆ่าคนแบบนี้ เขาพึ่งเคยพบเจอเป็นครั้งแรก ไม่ยอมรับคงไม่ได้ ครั้งนี้เขากระวนกระวายมาก คาดไม่ถึงว่าจะมีคนฆ่าคนตายในถิ่นของตัวเอง นี่ยังไม่ตื่นตกใจอีก?
ฟางเหยียนจ้องมองไปที่หัวหน้าหลงที่เปลี่ยนเป็นระมัดระวังตัวมากขึ้น แล้วพูดอย่างเย็นชา“ผมบอกแล้ว ว่าเราไม่ได้เป็นคนฆ่า!”
“ฉันบอกให้นายยกมือกุมหัว นั่งลง!เชื่อไหมฉันเอาปืนยิงแน่!”หัวหน้าหลงเริ่มประหม่า ใบหน้าของเขาสั่นไม่หยุด แม้แต่มือที่ถือปืนพกก็ยังสั่น เขาต้องใช้มืออีกข้างช่วยพยุงมือข้างนั้น
เมื่อพบเจอกับฆาตกรสองคนนี้ เขาก็รู้สึกประหม่ามาก!
พอได้ยินชายหนวดวัยหกสิบพูดแบบนั้น แน่นอนว่าหัวหน้าหลงไม่กล้าพูดอะไรอีก เขาจึงตอบรับอืมพลางพยักหน้า แล้วเอ่ยถาม“พวกนายก่อเรื่องที่นี่ใช่ไหม?ยังทำขาของปีเตอร์หักอีก?ยังทำร้ายคนในร้านอาหารฝรั่งจนปางตาย?”
เห็นได้ชัดว่าชายผมทองทำสีหน้าหมดคำพูด เขาพูดกับหัวหน้าหลงไปว่า“นี่ยังต้องถามอีกเหรอ?ผมบอกแล้วไงว่าพวกเขาเป็นคนทำ คุณกำลังสงสัยว่าผมพูดเรื่องจริงหรือโกหกอยู่เหรอ?”
“จริงด้วยค่ะ คุณพ่อ พ่อกำลังสงสัยคำที่พวกเราพูดอยู่เหรอคะ?พ่อพูดกับพวกเขาเยอะแยะทำไม?เขาสองคนเป็นคนทำนั่นแหละ พ่อลงคำสั่งให้พวกเขาตายซะเถอะ!พวกเขาทำร้ายปีเตอร์ ยังทำขาเขาหักอีก”
คนทั้งสองพึ่งเล่าเหตุการณ์ไปหนึ่งรอบ ครั้งนี้ยังถือว่าเล่าอีกครั้ง
หัวหน้าหลงพูดด้วยสีหน้าลำบากใจ“พ่อกำลังพยายามทำความเข้าใจสถานการณ์อยู่ม่ใช่เหรอ?”
ถึงจะพูดยังไงเขาก็คือคนที่มีกฎระเบียบ ทำอะไรก็ตามต้องทำตามกฎ
“สถานการณ์!”หลงซิ่วซิ่วร้อนใจมาก เธอด่ากราดออกไป“พ่อยังต้องพยายามเข้าใจสถานการณ์อะไรอีก!หรือที่หนูพูดยังไม่ชัดเจนพออีกเหรอ?ถ้าหนูยังพูดชัดเจนไม่พอ ยังมีพยานจากคนในร้านอาหารฝรั่งอีกตั้งเยอะ ว่าคนคนนี้เป็นคนทำขาปีเตอร์หัก เขายังด่าหนูด้วย พ่อเป็นพ่อประสาอะไรเนี่ย พ่อมักจะพูดว่านี่คือถิ่นของพ่อไม่ใช่หรอคะ?”
“หนูไม่สนใจ ถึงยังไงพ่อก็ต้องตัดสินใจพวกเราด้วย!”
“ปีเตอร์ คุณวางใจเถอะ พ่อของฉันจะต้องให้คำอธิบายกับคุณแน่ สองคนนี้ต้องตาย!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ