คนเหล่านั้นของแก๊งท่านชาย ตระกูลไหนไม่ใช่ค่าตัวมูลค่าหลายร้อยล้าน พ่อแม่ต่างก็เป็นบุคคลที่ชื่อเสียงและบารมีอยู่ในระดับสูงสุดของหนานหลิง เป็นบุคคลที่มีหน้ามีตา แต่กลับไม่มีใครกล้าพูดอะไร ทำอะไรกับเขา ตัวเองก็คือไอ้โง่!ไอ้โคตรโง่!
เหลียงเจิ้งกลัวจนถอยไปข้างหลังหลายก้าว ถูกออร่าของฟางเหยียนที่เดินเข้ามาทางเขากดจนสติหลุดไปเลย
ในที่สุด เขาก็ยืนหยัดไม่ได้อีกต่อไป ขาทั้งสองข้างอ่อนแรง ล้มคุกเข่าดังตึกลงบนพื้น คนมากมายขนาดนั้นเห็นคนๆนี้ต่างก็ราวกับเห็นผีก็ไม่ปาน ตัวเองจะดื้อรั้นยังไงอีก แข็งแกร่งยังไงอีก จะยังมีคุณสมบัติอะไรไปสู้กับเขา!
“ขอร้องคุณ ปล่อยผมไปเถอะ!ล้วน ล้วนเป็นความผิดของผมทั้งหมด พ่อผมเคยบอกผมว่า ให้ผมอย่าไปยุแหย่คุณ ผมคุกเข่าให้คุณแล้ว หวังว่าคุณจะไว้หน้าพ่อผมสักครั้ง ปล่อยผมไปได้ไหมครับ? ผมรับประกันว่าต่อไปจะไม่ทำเรื่องแบบนี้อีก ไม่อย่างงั้น ผมก็ตัดนิ้วตัวเองนิ้วหนึ่งก็แล้วกัน? ไม่ สองนิ้ว ผมตัดสองนิ้ว!” เหลียงเจิ้งเปลี่ยนไปจนพูดจาสะเปะสะปะ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเปลี่ยนไปจนหมดหนทางทำอะไรไม่ถูกขนาดนี้
เขายั่วยุฟางเหยียนมาแล้วสองครั้ง ตัดสองนิ้ว นี่น่าจะเห็นว่าสมเหตุสมผลมากได้ง่ายหน่อย!
ฟางเหยียนมองเขาอย่างเยือกเย็นทีหนึ่ง เดินตรงผ่านไปจากข้างลำตัวของเขา ไม่ได้พูดอะไรออกมาแม้แต่ประโยคเดียว!
เหลียงเจิ้งหยุดชะงักไปชั่วขณะ นี่เป็นเพราะอะไร? หรือว่าเขาไม่คิดจะต่อกรกับตัวเองแล้วหรอกหรอ? หรือว่ามีแผนการอะไรใหม่?
คิดถึงตรงนี้ เหลียงเจิ้งหันศีรษะมองไปทางเขาทีหนึ่ง
เวลานี้เอง ฟางเหยียนเดินไปถึงด้านหน้าของแมวป่าพอดี เขายืนหยุดส้นเท้าเอาไว้ การเคลื่อนไหวนี้ทำเอาแมวป่าตกใจจนเหงื่อไหลเต็มตัว
หลังจากนั้นสามวินาที ฟางเหยียนเอ่ยกับแมวป่าอย่างเยือกเย็นว่า “ทำให้มันใช้การไม่ได้ซะ!”
พูดจบเขาก็ก้าวขาไปข้างหน้าต่อไป!ประโยคเดียวที่เยือกเย็นเป็นอย่างมาก แต่ว่าส่งผ่านเข้าไปในหูของเหลียงเจิ้งแล้ว กลับเหมือนได้ยินคำสั่งจากผู้ตัดสินชะตาในนรก!ใช่แล้ว นี่ก็คือคำสั่งจากผู้ตัดสินชะตาในนรก!
เห็นท่าแล้ว พวกพ้องที่คุกเข่าอยู่บนพื้น ขวางทางไปเหล่านั้นก็ทยอยกันหลีกทาง ให้ทางไปกับเขาเส้นหนึ่ง
เหลียงเจิ้งก็ราวกับถูกฟ้าผ่าก็ไม่ปาน คนทั้งคนต่างก็เปลี่ยนเป็นเหม่อลอยขึ้นมา
เมื่อกี้เขาพูดว่า ทำให้ตัวเองใช้การไม่ได้!ใช่แล้ว เขาพูดประโยคแบบนี้ออกมา ทำให้ตัวเองใช้การไม่ได้!
จบแล้ว ทัศนคติต่อโลกของตัวเองก็พังทลายแล้ว!
ทุกสิ่งทุกอย่างนี้ต่างก็เป็นเพราะเขารนหาที่เอง เขาช่างคิดว่าตัวเองถูกต้องอยู่ตลอดเวลาจริงๆ เขารู้สึกเสียใจในภายหลังแล้วที่ไม่ได้ฟังคำพูดของพ่อตัวเอง
รอจนกระทั่งเงาร่างของฟางเหยียนหายไปจากสายตาของทุกคนโดยสมบูรณ์แบบ แมวป่าและเสือดาวดำก็ทยอยกันลุกขึ้นมา ลูกน้องทั้งกลุ่มก็ลุกขึ้นมาในชั่วพริบตาเช่นเดียวกัน ทุกคนต่างก็จ้องไปทางเหลียงเจิ้งอย่างโหดเหี้ยม
เหลียงเจิ้งในเวลานี้เปลี่ยนไปจนตบมือข้างเดียวยากที่จะดังได้ จ้าวก่วงและหยางซิงรีบตัดความสัมพันธ์ในทันที กลัวถูกลูกหลงไปด้วย
เหลียงเจิ้งคิดที่จะหนี แต่หนึ่งพันกว่าคนล้อมเอาไว้ ล้อมเขาไว้ที่ตรงกลาง นอกเสียจากมีพลังเหนือธรรมชาติแล้ว เขาไม่มีหนทางที่จะหนีได้จริงๆ
“คุณชายเหลียง ขอโทษล่ะครับ จะโทษก็โทษได้แค่คุณที่ยั่วยุคนที่ไม่ควรยั่วยุเข้าให้ การได้รับการปฏิบัติของคุณดีกว่าของคุณชายหม่า คุณชายหม่าได้เสียชีวิตไปแล้ว อย่างน้อยคุณก็ยังสามารถมีชีวิตต่อไปได้” แมวป่าเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าที่เศร้าใจ จากนั้นหยิบเอาท่อเหล็กท่อนหนึ่งออกมา
ในเวลานี้เอง เหลียงเจิ้งก็เพิ่งจะได้รู้ว่า ที่แท้คุณชายหม่าคือถูกเขาฆ่าตาย การตายของคุณชายหม่าสั่นสะเทือนไปทั้งหนานหลิง แต่บอกกับสังคมภายนอกว่าเป็นการเสียชีวิตโดยอุบัติเหตุ เหลียงเจิ้งสะอึกเล็กน้อย เอ่ยถามว่า “หม่าซวี่ซง ไม่ใช่เสียชีวิตโดยอุบัติเหตุหรอกหรอ?”
เสือดาวดำพยักหน้าพร้อมกับเอ่ย “ใช่สิครับ คืออุบติเหตุ!อุบัติเหตุถูกคนฆ่าตาย คุณอย่าคิดว่าพวกเราจะปล่อยคุณไป หรือว่าทำอะไรขัดขืนอย่างกล้าหาญ พวกเราไม่กล้าท้าทายคำสั่งของเขา คุณอย่าทำให้พวกเราลำบากใจ ให้ความร่วมมือหน่อยเถอะครับ!”
หลินถงเดินขึ้นมา นั่งที่เบาะด้านหลังด้วยกันกับฟางเหยียน ยังคงเป็นที่นั่งแบบหันหน้าเข้าหากันอีกด้วย ด้านหน้ามีคนขับรถหนึ่งคน ด้านหลังยังตามด้วยรถธุรกิจคันหนึ่ง เหมือนกับที่หลินถงได้พูดเอาไว้ เธอถูกคนของตระกูลถังจับตาดูอยู่
“คุณฟาง ต้องพูดขอบคุณก็ควรจะเป็นฉันขอบคุณคุณ ขอบคุณคุณยื่นมือช่วยตระกูลถังของเรา หากไม่ใช่คุณยื่นมือ บางทีตอนนี้เรื่องนี้อาจจะยังไม่จบ” หลินถงพูดกับฟางเหยียนอย่างค่อนข้างมีความซึ้งใจเล็กน้อย
ฟางเหยียนยิ้มขึ้น เอ่ยว่า “ที่จริงแล้วผมไม่ได้ทำอะไรเลย ก็แค่โชคดีหน่อยก็เท่านั้น”
หลินถงส่ายศีรษะพร้อมกับเอ่ย “คุณฟางถ่อมตัวเกินไปแล้วจริงๆค่ะ สามารถมีสไตล์การทำงานที่กล้าหาญเช่นนี้ ยังมีฝีมือทางการแพทย์เช่นนี้อีก ตำแหน่งสถานะของคุณฟางจะต้องสูงมากอย่างแน่นอน หลินถงสามารถถามสักหน่อยได้ไหมคะว่า คุณฟางคุณคือคนของกองทัพหรือคะ?”
หลินถงไม่ใช่คนโง่ แน่นอนว่าต้องรู้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั่นไม่ใช่ความบังเอิญ สามารถทำให้เย่เฟยทหารรับจ้างแบบนั้นตกใจกลัวจนหนีกระเจิงได้ จะต้องเป็นคนที่มีความสามารถจริงๆอย่างแน่นอน ในควมคิดของเธอ ฟางเหยียนมีส่วนเกี่ยวข้องกับนั่นที่เมื่อสักครู่นี้บินผ่านจากบนฟ้าและกองกำลังระดับภูมิภาค
ก่อนหน้านี้เธอเคยตรวจสอบฟางเหยียน รู้ว่าฟางเหยียนเคยเป็นทหารมาก่อน เพียงแต่คิดไม่ถึงว่าเขาจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับกองทัพ
ฟางเหยียนไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง ส่านศีรษะปฏิเสธมองเธอพร้อมเอ่ยขึ้นว่า “ไม่ใช่ครับ ผมก็แค่เสนารักษ์คนหนึ่ง!”
หลินถงเข้าใจความหมายของฟางเหยียนเป็นอย่างยิ่ง ก็คือไม่อยากพูด หากถามต่อไปอีก นั่นก็คือทำให้เขาเจอกับเรื่องไม่สบอารมณ์
เธอก็เลยเม้มปากเล็กน้อย ไม่ถามลงไปอีก
เพียงแต่เอ่ยขึ้นอย่างค่อนข้างที่จะเก้อเขินว่า “คุณฟาง เรื่องเมื่อสักครู่นี้ ฉันขอขอโทษคุณก่อน!คนของตระกูลถังของพวกเราก็เป็นเช่นนี้ เจอกับเรื่องอะไร ก็จะวุ่นวายใหญ่ เมื่อครู่นี้เกิดเรื่องแบบนั้น ต้องขออภัยจริงๆค่ะ!”
ตอนที่พูดนั้น หลิงถงจงใจลากลงเสื้อผ้าของตัวเองเล็กน้อย ใช้สายตาที่งดงามน่าหลงใหลไปมองฟางเหยียนอย่างเหมือนตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ