หลังจากที่เสียงหัวเราะหมดไป เขาเริ่มพูดด้วยน้ำเสียงเลือดเย็น เขาตอบกลับว่า “ใช่ ฉันคืออ๋าวไท่!หาแกหาจนเหนื่อย ถ้าไม่ใช่เพราะตระกูลถังเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนั้น ฉันก็ไม่รู้เลยว่าแกมีความสัมพันธ์กับคุณหนูของตระกูลถัง ตอนนี้คุณหนูตระกูลถังอยู่ในมือของฉัน ตอนนี้เธอยังไม่ตาย ถ้าแกไม่อยากให้เธอตาย...”
เขายังพูดไม่ทันจบ ก็ถูกฟางเหยียนขัดจังหวะ “ทำไม?แกข่มขู่ฉัน?”
อ๋าวไท่ลังเลไปสักพัก แล้วกล่าว “ฮ่าๆๆ แกคิดว่าฉันไม่กล้าข่มขู่แกหรือไง?ถ้าจะช่วยคุณหนูตระกูลถัง ก็มาหาฉันโรงงานกระจกเทมเปอร์ที่เขตเมืองเก่าของภาคตะวันตกของเมือง”
เมื่อพูดจบก็วางสายไป ฟางเหยียนหลับตาลง
ที่ฟางเหยียนหลับตาลงไม่ใช่เพราะเขาลักพาตัวคุณหนูตระกูลถังไป แต่นึกไม่ถึงว่าเขาจะหาไม่เจอว่าเย่ชิงหยู่เป็นภรรยาของเขา!เขาประมาทเกินไปหรือเปล่า สืบเจอถังยู่ แต่ไม่เจอเย่ชิงหยู่?
เป็นไปไม่ได้ คนที่ฆ่าคนเป็นนิจจะพลาดไม่ได้ เขาต้องสืบเกี่ยวกับตัวเองแล้วแน่นอน!
หรือ เขาลงมือกับเย่ชิงหยู่แล้ว?คนที่ฟางเหยียนส่งไปให้คุ้มกันเย่ชิงหยู่ก็เป็นแค่ลูกน้องที่เป็นนินจาระดับสูง ถ้าเขาจะฆ่าเย่ชิงหยู่จริงๆ ก็เป็นเรื่องที่ง่ายดายมาก
เมื่อนึกถึงจุดนี้ ฟางเหยียนจึงรีบโทรหาเย่ชิงหยู่ ปลายทางไม่รับสาย!
เขาโทรติดกันสามสาย ไม่มีคนรับ!
นี่เป็นการโทรสามในครั้งเดียวเพียงครั้งเดียวของเขา และมีเพียงเย่ชิงหยู่ที่คุ้มค่าแก่การที่จะให้เขาร้อนรน
“จอมพลโผ้จวิน ทำไมเหรอครับ?” เทียนขุยเห็นสีหน้าของฟางเหยียนบูดบึ้งขึ้น จึงได้ถามอย่างเศร้าโศก
ถังเสี่ยนจงก็ก้าวไปข้างหน้าแล้วถาม “เป็นยังไงบ้างแล้วครับ?เทพหมอฟาง!”
สีหน้าของฟางเหยียนบูดบึ้งขึ้น ผ่านไปสักพัก เขาถือมือถือไว้ในมืออย่างแน่น แล้วค่อยๆตั้งสติ แล้วกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ไปกับผม”
เมื่อพูดจบ เขามองไปที่ถังเสี่ยนจงแล้วกล่าว “ท่านถังวางใจได้ครับ ผมจะพาถังยู่กลับมา”
ถังเสี่ยนจงถามอย่างร้อนรน “แล้วเหล่าเห้อล่ะ?เหล่าเห้อไม่เป็นไรใช่มั้ย?”
ฟางเหยียนส่ายหน้า แล้วกล่าว “เขา อาจจะตายไปแล้ว”
คำพูดนี้กระทบถังเสี่ยนจงหนักหน่วงอย่างไม่ต้องสงสัย เหล่าเห้อตายแล้ว เป็นไปได้ยังไง?เหล่าเห้ออยู่กับตนมาตั้งหลายปี แล้วเขาจะตายได้อย่างไรกัน?ทันใดนั้นถังเสี่ยนจงก็รู้สึกวิงเวียน ถอยหลังไปโดยไม่รู้ตัวหลายก้าว
เหล่าเห้อสำหรับถังเสี่ยนจงแล้ว ไม่ได้เป็นแค่คนรับใช้ธรรมดาตั้งนานแล้ว เหล่าเห้อเป็นเพื่อนรู้ใจของตน ทั้งตระกูลถัง มีเพียงเหล่าเห้อที่จะมีโอกาสได้ฟังความในใจของเขา และก็มีเพียงเหล่าเห้อที่รู้ว่าตนคิดอะไร ทั้งคู่เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของกันและกัน และเป็นคนที่รู้ใจกันและกันตั้งนานแล้ว เรื่องที่เกิดขึ้นนี้สำหรับถังเสี่ยนจงแล้ว เป็นสิ่งที่สะเทือนจิตใจอย่างหนักอย่างหนึ่งเลยทีเดียว
น้ำตาของเขาไหลรินออกมาตามใบหน้า นี่เป็นความผูกพันของผู้ชายกับผู้ชาย มีเพียงความสัมพันธ์ที่แท้จริงที่สุดจึงจะมีน้ำตาที่จริงใจที่สุดไหลออกมา นี่ไม่ใช่ความรัก นี่เป็นมิตรภาพ มิตรภาพที่เกินกว่าความรัก!
เมื่อเห็นท่าทีทุกข์ทรมานอย่างนั้นของถังเสี่ยนจง ฟางเหยียนขมวดคิ้วแล้วกล่าว “บางที อาจจะยังไม่ตาย!”
เขาปลอบคนไม่เป็น นี่ถือเป็นการปลอบประโลมอันน้อยครั้งของเขาแล้ว
ใช่ เหล่าเห้อตายแล้ว มองผ่านแสงอาทิตย์ไป ฟางเหยียนเห็นเลือดที่แข็งตัวแล้ว เทียนขุยขมวดคิ้ว แล้วกล่าว “จอมพลโผ้จวิน เขาตายแล้วจริงๆ”
ฟางเหยียนไม่พูดอะไร เพียงแต่ขยับตัวอย่างช้าๆ เดินเข้าไปที่ศพของเหล่าเห้อทีล่ะก้าว เทียนขุยเห็นดังนี้ ก็รีบเดินตามฟางเหยียนไป หันไปมองรอบๆเป็นพักๆ ดูว่าคนนั้นแอบซ่อนตัวอยู่ที่นี่หรือไม่
และแล้ว ตอนที่ฟางเหยียนเดินไปอยู่ห่างจากศพของเหล่าเห้ออีกห้าสิบเมตรโดยประมาณ เขาได้หยุดเดินลง หลังจากไม่มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นแล้ว รอบๆก็เงียบขึ้นไปอีก ไม่ได้ยินความเคืองแค้นแม้แต่น้อย
และแล้ว ในขณะที่ไม่มีเสียงใดๆ ด้านหลังได้มีเข็มเหล็กลอยมาหลายเข็ม เป็นเข็มเหล็กที่เล็กกว่านิ้วก้อยนิดเดียว เป็นอาวุธลับที่ไว้ฆ่าคนโดยเฉพาะ อาวุธนั้นพุ่งมาที่สองคน ลอยมาที่ฟางเหยียนและเทียนขุยอย่างเร็ว
มันเร็วกว่าที่คิดไว้ ความรู้สึกของฟางเหยียนรับรู้ได้ถึงความอันตรายที่กำลังเข้ามา เขารีบยกมือขึ้นมาผลักเทียนขุยที่อยู่ข้างๆออก ตนก็รีบหลบไปเช่นกัน หลบการโจมตีของเข็มเหล็กทั้งสามไปได้
“ฟิ่วๆๆ!” เข็มเหล็กทั้งสามปักเข้าไปที่ศพของเหล่าเห้ออย่างรุนแรง หลังจากที่ถูกเข็มทั้งสามปักเข้าไปแล้ว ศพของเหล่าเห้อก็ไถลลงกับพื้น หัวทิ่มพื้น ก้นโด่งขึ้นมา
หลังจากที่ฟางเหยียนยืนมั่นคงแล้ว ในโรงงานกระจกเทมเปอร์มีเสียง“ต็อก”“ต็อก”“ต็อก”ดังขึ้น อย่างเป็นจังหวะ เหมือนกับเสียงฝีเท้าที่เหยียบพื้นดังขึ้นมา
ดังสะเทือนอยู่ในโรงงานกระจกเทมเปอร์อันว่างเปล่าแห่งนี้
“ออกมา!หยุดทำอะไรกระบิดกระบวนได้แล้ว!” เทียนขุยตะคอกในโรงงานกระจกเทมเปอร์อย่างคลั่ง เมื่อเทียนขุยตะโกนออกมา ทำให้ในโรงงานกระจกเทมเปอร์มีเสียงสะท้อนดังสนั่นอย่างที่สุด
“ฮ่าๆๆ!” และแล้ว ก็มีเสียงหัวเราะดังขึ้นมา มีคนๆหนึ่งปรากฏตัวขึ้นตรงที่ทั้งสองเพิ่งจะเดินเข้ามาเมื่อกี๊นี้ ไม่สิ พูดให้ถูกก็คือ มีสองคน เพราะมีคนหนึ่งถูกเขากอดไว้ เป็นคนที่เปลือยกายท่อนบน ผู้เฒ่าตัวเล็กที่หลังค่อม ใบหน้าเขาเต็มไปด้วยหนวดเครา ตรงกลางกระหม่อมไม่มีผม ดูๆแล้วเหมือนกับเทพมารไฟเมฆที่อยู่ในหนังกังฟู
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ