ฟางเหยียนและเทียนขุยท่าทีนิ่งสงบ เขาพูดต่อว่า “ฉันล่ะแปลกใจมากว่าแกไปเอาความกล้ามาจากไหน นึกไม่ถึงว่ากล้าพูดว่าจะไว้ชีวิตฉันได้อย่างไม่ละอายใจ หรือตัวแกเองไม่คิดว่ามันน่าขำหรือไง?ไว้ชีวิตฉัน แกคิดว่าแกเป็นใครวะ?แกคิดว่าแกมีปัญหาตัดสินความเป็นความตายของฉันได้เหรอ?พูดกับแกตรงๆทุกคนที่ถูกฉันฆ่าล้วนพูดว่าจะตัดสินความเป็นความตายของฉัน สุดท้ายจุดจบของพวกมันก็เหมือนๆกัน ตาย!จะบอกให้นะ บนโลกนี้นอกจากยมบาล ใครก็ไม่กล้าพูดเรื่องความเป็นความตายกับฉันทั้งนั้น!แก ก็ไม่ต่าง!”
ในสายตาของเขา ฟางเหยียนก็เป็นแค่วัยรุ่นที่อายุยี่สิบกว่าปีที่ลืมตัวเท่านั้น ฝีมือของเขามากสุดก็แค่เก่งกว่าเทียนขุยนิดหน่อย ไม่ได้อยู่ในสายตาของเขาเลย
อ๋าวไท่เป็นใคร ยอดฝีมือระดับต้าชี่ ที่สุดของประเทศหวา เขาเพียงแค่ยืน ก็สามารถสั่นสะเทือนทั้งงานได้แล้ว
ในความเข้าใจของอ๋าวไท่ ที่ประเทศหวาไม่มียอดฝีมือระดับต้าชี่ที่อายุยี่สิบกว่าๆ ดังนั้นคนที่อยู่ข้างหน้านี้ไม่มีทางเป็นระดับต้าชี่ได้ เมื่อนึกถึงจุดนี้ ความมั่นใจภายในจิตใจของเขาก็เกิดขึ้นทันใด เขาเปลี่ยนท่าทีเป็นอกผ่ายไหล่ผึ่ง
เมื่อพูดจบ เขาคิดว่าคนนั้นจะเกรี้ยวกราดขึ้นมา แล้วลงมาฆ่าเขาทันที แต่เรื่องที่เขาคาดคิดไว้ไม่เกิดขึ้น กลับกัน คนนั้นกลับนิ่งสงบ ใช้สายตาเย็นชาจ้องตน
แววตาของคนนี้ การกระทำทุกอย่างของเขา เป็นการเหยียดหยามตนอย่างเห็นได้ชัด
เมื่อนึกถึงจุดนี้ อ๋าวไท่กัดฟัน แล้วพูดต่อฟางเหยียนว่า “ลงมือเถอะ!ให้ฉันดูหน่อยสิว่าแกมีสิทธิ์ที่จะพูดว่าไว้ชีวิตฉันมั้ย”
ฟางเหยียนจ้องอ๋าวไท่ เกิดเป็นความสงสัยขึ้นมา หรือเขาไม่ใช่คนที่เพลิงเสวน?
ที่เดาว่าอ๋าวไท่เป็นคนของเพลิงเสวน ก็เป็นเพราะเขาฆ่าเหล่าเห้อในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวาน เหล่าเห้อกับตนได้นัดกันไว้แล้ว หลังจากที่ตนรักษาคุณชายของตระกูลเจี่ยหายแล้วจะเล่าเรื่องเพลิงเสวนให้ตนฟัง แต่ไม่คาดคิดว่าตนเพิ่งจะรักษาคนเสร็จ เขาก็ถูกฆ่าแล้ว นี่จึงทำให้ฟางเหยียนอดคิดไม่ได้ว่าผู้เฒ่าคนนี้เป็นคนของเพลิงเสวน
ใครที่ไม่อยากให้ฟางเหยียนรู้เรื่องเพลิงเสวนมากที่สุด ก็มีแค่คนของเพลิงเสวนเองนั่นแหละ!
บนโลกนี้คนที่จะหลอกลวงฟางเหยียนได้ ก็มีแค่เพลิงเสวนองค์กรที่ไม่เคยปรากฏกายมาก่อนนี่แหละ ดังนั้นฟางเหยียนจึงคาดเดา ว่าผู้เฒ่าคนนี้เป็นคนที่เพลิงเสวนส่งมาฆ่าเหล่าเห้อ ถ้าใช่ งั้นเขาก็เป็นคนของเพลิงเสวนโดยปริยายอยู่แล้ว
ถ้าเขาเพียงแค่อยากล้างแค้นให้ลูกศิษย์ของตน คิดจะหาจุดอ่อนของตน คิดจะดึงดูดตน เขาควรจะไปหาเย่ชิงหยู่ แต่ไม่ใช่ถังยู่
แต่เขาไปหาถังยู่ ชัดเจนมาก ว่าเพื่อฆ่าเหล่าเห้อ การฆ่าเหล่าเห้อถึงจะเป็นเป้าหมายที่สุดของเขา การฆ่าตน เป็นแค่เรื่องรองเท่านั้น
ไฟแห่งความโกรธของเทียนขุยยิ่งอยู่ยิ่งทวีขึ้น เขาเลียนแบบท่าทางอ๋าวไท่ หัวเราะฮ่าๆออกมา แล้วกล่าว “แกคิดว่าตัวเองเป็นใคร?แกคิดว่าตัวเองมีสิทธิ์ให้จอมพลโผ้จวินออกโรงมั้ย?แกทำแบบนี้ให้ความสำคัญตัวเองไปหรือเปล่า?”
พูดพลาง เทียนขุยก็เดินไปข้างหน้าอย่างเร็ว เขาอ้าแขน แสดงท่าทางดุดันออกมา
อ๋าวไท่เห็นดังนี้ จึงมองเทียนขุยอย่างสบายๆ ไม่สนใจใคร
จากนั้นก็มองไปที่ฟางเหยียนแล้วถาม “แกใช่มั้ยที่ฆ่าลูกศิษย์ของฉัน?”
ตอนนี้ โอกาสมาถึงแล้ว เขาสามารถฆ่าคนนี้ได้อย่างไม่ต้องหวาดระแวงใดๆอีก คำพูดนั้นที่จอมพลโผ้จวินได้พูดไว้ลอยเข้ามาให้หัวของเขาอีกครั้ง แค้นของตัวเองก็ล้างแค้นเอง คนที่ตัวเองต้องการฆ่าก็ฆ่าเอง
“แปดทิศ!” หมัดของเทียนขุยปะทุขึ้นไปอีก นี่เป็นพลังทั้งหมดที่มีมารวมกันกลายเป็นเปลวไฟ
เขากัดฟันอย่างมั่นใจ ทันใดนั้น ก็ก้าวไปข้างหน้า ตะคอกออกมาอย่างดังคำสุดท้าย “ปัง!”
หมัดทั้งสองเปลี่ยนเป็นเสือดุร้าย พุ่งไปที่อ๋าวไท่ เป็นกำลังภายในรวมกันขึ้นมา โดยตัวเทียนขุยเองก็เป็นคนที่แข็งแกร่ง เสือดุก็เป็นสัตว์ที่ดุร้ายที่สุดในบรรดาสัตว์ ใช้พลังภายในรวมเป็นค้อน เหมือนกับที่ฟางเหยียนใช้พลังภายในรวมกันเป็นมีด
เขาลอยขึ้นไป ใช้ค้อนเหล็กสองอันทุบลงไปบนหัวของเสือดุจากด้านบน ตอนที่จะทุบลงไปนั้น ได้ทุบลงไปพร้อมกับพลังยิ่งใหญ่อย่างมหาศาล ทุบลงมา สามารถทำให้หัวของคนแตกละเอียดได้เลยทีเดียว แล้วยังฆ่าตายได้อีกด้วย!รุนแรงมาก แข็งแกร่งมาก นี่เป็นการต่อสู้ระหว่างผู้ชายแข็งแกร่งทั้งสองคน!
ได้ยินเสียงปังดังสนั่นหวั่นไหว ค้อนและเสือชนเข้าด้วยกัน ทำให้แผ่นเหล็กเก่าผุพังในโรงงานกระจกเทมเปอร์บิดเบี้ยว พื้นที่โรงงานกระจกเทมเปอร์ที่ว่างเปล่าทั้งหมดเกิดเป็นพายุหมุน
ค้อนของอ๋าวไท่ไม่ได้ทุบลงไปที่หัวของเสือดุ แต่ถูกเสือดุทั้งสองจับไว้ได้ การต่อสู้ของทั้งสอง ได้หยุดลง!
สายตาของอ๋าวไท่ที่จ้องเทียนขุย กลายเป็นไม่คาดคิด ในใจขอเขาเกิดเป็นความรู้สึกอันตรายขึ้น!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ