จอมนักรบทรงเกียรติยศ นิยาย บท 740

ดอกไม้เลือดยังคงเบ่งบานไม่หยุด ส่วนหลินเทียนตกใจสุดขีดจนยืนตัวแข็งทื่อ!

ผู้ชายคนนั้นที่ถูกเขาเหยียดหยาม ผู้ชายคนนั้นที่โดนเขาดูถูกว่าเป็นคนป่วย ผู้ชายคนนั้นที่โดนเขาเหยียบย่ำมาตลอด กลับสามารถทำลายลมพายุทอร์นาโดของเขาได้ในชั่วพริบตา ไม่เพียงเท่านั้น เขารู้สึกได้ว่าพลังชีวิตของเขาได้ไหลออกไปอย่างรวดเร็ว!

จะตายแล้วเหรอ?

นี่เป็นความคิดที่อยู่ก้นบึ้งหัวใจของหลินเทียน

จะเป็นไปได้ยังไง?

มันเป็นแค่คนป่วยที่หน้าตาซีดเซียวคนหนึ่ง เป็นไอ้สวะ เป็นแค่สวะที่เอาแต่พึ่งพาชายร่างกำยำที่อยู่ข้างกายมัน

ทันใดนั้น เขาคิดย้อนไปถึงรายละเอียดปลีกย่อย วินาทีที่ไอ้ขี้โรคนั่นลงมือ เขารู้สึกได้ถึงแรงกดทับที่หนักหนาเหมือนภูเขาไท่ถาโถมเข้ามา แรงกดทับนี้เป็นสิ่งที่เขาไม่สามารถต้านทานได้ ได้แต่ยอมรับความเจ็บปวด ตอนที่แรงกดทับนี้ปะทะเข้ามา เขากลับรู้สึกถึงจิตสังหารที่ยิ่งใหญ่มหึมา เป็นจิตสังหารที่เข้มข้นดุเดือดมากกว่าไอ้หน้าโง่นั่นอีก

จิตสังหารนี้ต้องเป็นจิตสังหารที่ผ่านการต่อสู้นองเลือด เหยียบย่ำศพและกระดูกมามากมาย เด็ดขาด สงบนิ่ง ลงมือร้ายกาจ มีพลังอันยิ่งใหญ่

หรือว่า......

หลินเทียนไม่กล้าคิดต่อไปแล้ว เขาเงยหน้ามองไปยังไอ้ขี้โรคอย่างกะทันหัน สีหน้าดูเคร่งขรึมมากขึ้นเรื่อย ๆ

จากที่ตกใจจนช็อกไปทุกคนก็ได้ดึงสติกลับมาได้ แต่ละคนมองไปที่ไอ้ขี้โรคด้วยท่าทางตกตะลึงอ้าปากค้าง สุดท้ายละสายตามามองที่หลินเทียน เมื่อเห็นบนลำตัวศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเขา ก็ยิ่งมีสีหน้าช็อกตาตั้งมากขึ้นไปอีก

ศิษย์พี่ใหญ่แพ้แล้ว!

ผู้มากความสามารถของสำนักฉิวหลงพ่ายแพ้แล้ว!

เป็นไปได้ยังไง!

เรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย

คนที่ทำให้เขาพ่ายแพ้เป็นไอ้ขี้โรคคนหนึ่ง โลกนี้มีเรื่องบ้าบอแบบนี้ด้วยเหรอ?

ไอ้ขี้โรคนั่นดูไม่มีลมปราณภายในเลยสักนิด จะทำลายลมพายุทอร์นาโดที่แข็งแกร่งของศิษย์พี่ใหญ่ได้ยังไง หากไม่ใช่เพราะร่างกายของเขามีเลือดสาดเต็มไปหมดทั้งตัวล่ะก็ ทุกคนคงคิดว่าไอ้หน้าโง่ที่อยู่ข้างไอ้ขี้โรคคนนั้นต่างหากที่เป็นคนจัดการ

ทันใดนั้นพวกลูกน้องที่ปิดปากเงียบเริ่มส่งเสียงร้องอย่างตกใจออกมา เสียงเริ่มดังและวุ่นวายมากขึ้นเรื่อย ๆ

“ศิษย์พี่ใหญ่ พี่ไม่เป็นไรใช่ไหม?”

“ศิษย์พี่ใหญ่ พี่รีบห้ามเลือดสิ มัวเหม่ออะไรอยู่ล่ะ?”

“ศิษย์พี่ใหญ่......”

หลินเทียนที่เดิมทีอดกลั้นไว้จนถึงขีดสุด ตอนนี้รู้สึกเหมือนเลือดลมพลุ่งพล่านขึ้นมา ใช่แล้ว เขาถูกทำให้โมโห! เลือดออกมากขนาดนี้ จะไม่เป็นไรได้ยังไง?

“หุบปากให้หมดเลยนะ!”

เสียงทั้งหมดเงียบลงทันที แต่ละคนมองหลินเทียนด้วยท่าทางตัวสั่นงันงก ไม่กล้าพูดมาก

เขาไม่อยากห้ามเลือดเหรอ?

วินาทีที่ฟางเหยียนถอยกลับไปอยู่ที่เดิม เขาก็เริ่มห้ามเลือด แต่แม่งถ้าห้ามเลือดได้ สีหน้าเขาคงไม่ซีดเผือดอย่างนี้หรอก ทั้งตัวเหมือนตกลงไปในบ่อน้ำแข็ง หนาวเย็นผิดปกติ หนาวเหน็บเข้าไปถึงกระดูก

เทียนขุยเอ่ยถาม : “จอมพลโผ้จวิน จะฆ่าคนพวกนี้ด้วยไหม?”

“ฆ่า!”

เทียนขุยพุ่งตัวออกไปทันที คนที่หลินเทียนพามาคิดอยากจะหนี แต่ความเร็วของพวกเขาจะเร็วสู้เทียนขุยที่เป็นทหารผ่านศึกประสบการณ์โชกโชนอีกทั้งยังองอาจห้าวหาญไร้ผู้ใดเทียมได้ยังไง? เทียนขุยเป็นเหมือนเทพจุติมาเกิด พุ่งเข้าไปในกลุ่มคนพวกนั้น การต่อสู้จบลงอย่างรวดเร็ว

หญ้ารกร้าง เหมาะกับเป็นที่ฝังศพได้ดีจริง ๆ

ใบหน้าที่ซีดเผือดของหลินเทียนดูตื่นตระหนก โหดเหี้ยมอำมหิต เด็ดเดี่ยวแน่วแน่ ไม่พูดให้มากความ เขาเริ่มกลัวขึ้นมาแล้ว

ใช่แล้ว

เขาเหมือนจะรู้ฐานะที่แท้จริงของคนคนนี้แล้วล่ะ เขาคือจอมพลโผ้จวินของประเทศหวานั่นเอง!

เสี่ยวหยู่ตกใจหน้าถอดสีไปนานแล้ว ได้แต่มองฟางเหยียนอย่างเหม่อลอย ลืมแม้กระทั่งคำขอบคุณ

“วรยุทธ์เอาไว้ใช้ฆ่าคน ไม่ใช่เอามาใช้แสดง อัจฉริยะของสำนักฉิวหลงก็แค่นี้เองเหรอ”

หวืด!

เทียนขุยสีหน้าเปลี่ยนไป ลูกธนูลับได้ลอยเฉียดด้านข้างเขาไป!

“หืม?” หลินเทียนผิดหวังเป็นอย่างมาก เทียนขุยกลับหลบลูกธนูลับไปได้

ไม่ใช่สิ!

มันจะหลบพ้นได้ยังไง?

ทันใดนั้นเอง สายตาของเขาก็จับจ้องไปที่จอมพลโผ้จวิน เขาตวาดด้วยความโมโห : “เป็นมึงนี่เอง!”

“หรือว่าลูกศิษย์สำนักฉิวหลงมีแต่พวกดูดีแค่เปลือกนอกแต่ภายในชั่วร้าย?” ฟางเหยียนเอ่ยเสียงเรียบ : “แอบลอบทำร้ายคนอื่นด้วยธนูลับ เป็นการกระทำของคนกระจอก สำนักฉิวหลงแบบนี้ ไม่เหลือไว้ก็ดี!”

“พาตัวไป!”

เทียนขุยมัดหลินเทียนได้อย่างราบรื่น แล้วโค้งตัวขอโทษ : “จอมพลโผ้จวินผมประมาทเองครับ ถ้าหากไม่ได้คุณช่วยไว้ เกรงว่าผมจะ......”

“เทียนขุย ความผิดไม่ได้อยู่ที่นายหรอก แต่นายประเมินจิตใจของคนดีเกินไป ดั่งคำกล่าวที่ว่าใจคนเรายากแท้หยั่งถึง ในใจของทุกคนจะมีด้านที่ดำมืดที่สุดอยู่ทั้งนั้น เมื่อตกอยู่ในสถานการณ์ที่เป็นอันตรายต่อชีวิต ก็เผยด้านนั้นออกมา และเมื่อด้านนั้นปรากฏขึ้น เขาก็พร้อมจะลงมือฆ่าได้”

เทียนขุยพยักหน้าเล็กน้อย “จอมพลโผ้จวิน เทียนขุยได้บทเรียนแล้วครับ คราวหน้าจะระวังอย่างแน่นอน”

จนถึงตอนนี้เสี่ยวหยู่จึงเพิ่งดึงสติกลับมาได้ เธอมองไปยังหลินเทียนที่ถูกมัดคอมัดมือไขว้หลัง เธอรู้สึกเหมือนอยู่กันคนละโลก ยังคงอยู่ในม่านหมอกที่เหมือนจะไม่ใช่เรื่องจริง เธอยังมีชีวิตอยู่ คนที่ช่วยเธอกลับเป็นจอมพลโผ้จวินที่ฆ่าเจ้าสำนักแห่งสำนักฉิวหลง!

ตุ๊บ!

เสี่ยวหยู่คุกเข่าลงตรงหน้าฟางเหยียน บุญคุณที่ช่วยชีวิตกับความเคียดแค้น ล้วนเป็นเรื่องที่สำคัญมากทั้งนั้น เธอสมควรที่จะต้องตอบแทนผู้มีพระคุณ

ความตั้งใจที่ช่วยชีวิตเสี่ยวหยู่นั้น เป็นเพราะเห็นแก่หน้าของซ่งหยิง

หลังจากที่เสี่ยวหยู่ขอบคุณแล้ว ฟางเหยียนกลับเมินเฉยไม่สนใจไยดี

และขณะที่เขากำลังเดินไปข้างหน้า จู่ ๆ เสี่ยวหยู่ก็เอ่ยขึ้นว่า : “จอมพลโผ้จวิน ตอนนี้ทางที่ดีคุณอย่าเพิ่งไปสำนักฉิวหลงเลยค่ะ เพราะผู้อาวุโสใหญ่ได้ควบคุมสำนักฉิวหลงไว้หมดแล้ว และจะแก้แค้นจนกว่าจะตายกันไปข้างหนึ่ง อีกทั้งตอนนี้คุณจับตัวลูกชายเขาไว้ เกรงว่าคุณยังไปไม่ทันถึงสำนักฉิวหลง จะตายเอาเสียก่อน!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ