จอมนักรบทรงเกียรติยศ นิยาย บท 793

“คุณชาย เป็นอย่างที่คุณพูดเลยครับ บนถนนที่อยู่ห่างกับตระกูลฟางไปหนึ่งถนนเต็มไปด้วยซากศพ แถมพวกเขาล้วนโดนยิง” เหล่าติงเห็นฟางเหมี่ยวอยู่ด้านนอกตระกูลฟาง รีบบอกอย่างตื่นเต้น

คิ้วฟางเหมี่ยวขมวดมุ่นจนเป็นโบว์ พูดเสียงต่ำว่า “รู้ไหมว่าใคร?”

“คุณชาย ผมไม่ทราบครับ คนพวกนั้นแปลกหน้าทั้งนั้น ไม่เคยเจอมาก่อนเลย เพียงแต่ว่า...”

ฟางเหมี่ยวซักถามอย่างร้อนใจ “พูดสิ”

“ผมเหมือนเห็นพวกเขาเข้าไปในตระกูลหลี่ ซึ่งก็คือบ้านคุณนายใหญ่ครับ!”

“ว่าไงนะ!” ฟางเหมี่ยวสะดุ้งเฮือกราวกับโดนไฟช็อต กระชากคอเสื้อเหล่าติงเข้ามาหาอย่างร้อนรน “นายแน่ใจว่านายไม่ได้มองผิด?”

“คุณชาย พวกเขาเจ้าเล่ห์นัก ตอนแรกน่ะเดิน เดินเร็วมาก แถมยังกลับรถหลายรอบ สุดท้ายก็แอบเข้าไปทางประตูหลังตระกูลหลี่ ไม่งั้นผมกลับมานานแล้วครับ”

ฟางเหมี่ยวดวงตาเหม่อลอย คล้ายคนไร้วิญญาณ เขาไม่คิดเลยว่าแม่ตนจะจ้างมือปืนเพื่อยับยั้งการกลับมาของน้องเหยียน วิธีการช่างต่ำช้านัก! ไม่ว่ายังไงก็ตาม ฟางเหยียนถือเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลฟาง ถ้าเรื่องนี้แพร่ออกไป คงทำคนหัวเราะฟันร่วงกันแน่!

การชิงดีชิงเด่นในตระกูลดัง เป็นสงครามที่ไม่มีเขม่าควันมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว!

มีซากศพ แปลว่าฟางเหยียนมาแล้ว และคนที่ตายพวกนั้นก็ตายด้วยน้ำมือฟางเหยียนด้วย คนที่สามารถจัดการขวังซือได้ชะงัดนัก มีหรือจะตายง่ายๆ? แถมฟางเหยียนยังเป็นเทพแห่งสงครามที่บุกฝ่ากระสุนปืนรอดมา ถ้ามาโดนพวกลูกกระจ๊อกพวกนี้ฆ่าตาย คงทำคนหัวเราะท้องแข็งแน่?

ยิ่งไปกว่านั้นฟางเหยียนไม่ใช่คนธรรมดา แต่เป็นประหนึ่งเทพก็ไม่ปาน!

“ตระกูลตงฟางละ?”

“คุณชาย ตระกูลตงฟางเงียบสงบมาก นอกจากเจ้าตระกูลที่ก่อนนี้แวะมาเยี่ยมคุณท่านแล้ว ก็ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆอีกเลย!”

ฟางเหมี่ยวถอนหายใจอย่างโล่งอก ตงฟางหยุนเอ๋อร์จะทรยศเขาได้ยังไงกัน? พวกเขารักใคร่กันดี ความสัมพันธ์สองสามีภรรยาหนักแน่นมาก จะมาลอบทรยศหักหลังเขาได้ยังไงกัน!

“งั้นดี นายจับตาดูตระกูลหลี่ต่อไป ฉันกลับไปก่อนล่ะ”

เหล่าติงร้องเรียกฟางเหมี่ยวไว้พลางว่า “คุณชายครับ ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง ไม่รู้ว่าควรพูดหรือไม่?”

“ว่ามา”

“นอกจากตระกูลหลี่แล้ว ดูเหมือนนอกสวนตระกูลฟางยังมีคนจำนวนมากหลบๆซ่อนๆอยู่ คนพวกนั้นดูแล้วไม่เหมือนคนดีเลย”

ฟางเหมี่ยวรู้ดี คนพวกนั้นน่าจะเป็นคนของหูจิงเหว่ย ดูท่าเขาไม่ได้พูดปากเปล่าตีมั่ว ที่แท้ก็เตรียมตัวมาพร้อมแล้วนี่เอง

“เอาล่ะ จับตาดูตระกูลหลี่กับตระกูลตงฟางต่อไป”

“ผมเข้าใจครับ คุณชาย”

ฟางเหมี่ยวกำลังจะเดินไป กลับพบว่าหมอในห้องฟางจินหยวนเตรียมขับรถจากไป เขารีบตามเข้าไปอย่างไม่ลังเลเลย

“คุณชายฟาง มาขวางผมไว้ทำไมครับ?”

“ทำไมคุณออกมาล่ะ?”

หมอยิ้มเศร้าบอก “คุณชายฟาง มีข่าวสองข่าว หนึ่งเป็นข่าวดี สองเป็นข่าวร้าย อยากฟังอันไหนก่อนครับ?”

พอเห็นสีหน้าขมึงทึงของฟางเหมี่ยว หมอยิ้มแห้งๆว่า “พูดข่าวร้ายก่อนละกัน ท่านฟางวันนี้ใกล้ถึงขีดสุดเต็มที ทำอะไรไม่ได้ ดูท่าจะรอดได้ยาก ข่าวดีคือ พอมีผู้ชายคนหนึ่งปราฏตัวขึ้น ท่านฟางอาการดีขึ้นมาก ไม่เพียงเท่านั้น ขวังซือที่คอยเฝ้าอยู่ กลับหมอบกราบแทบเท้าต่อหน้าผู้ชายคนนั้น จนเหมือนกับแมวน้อยตัวหนึ่ง บางทีท่านฟางอาจจะพอมีทางรอดก็ได้”

“พอพูดถึงอสูรเพลิง ต้องพูดถึงคนคนหนึ่งเลย นั่นก็คือพ่อของหลาน ฟางไห่เฟิง คนที่เป็นอัจฉริยะที่สุดของตระกูลฟาง ไม่ว่าจะเป็นมันสมองในการทำธุรกิจหรือฝีมือ ล้วนแต่เป็นระดับอัจฉริยะ เป็นสุดยอดคนที่หลายร้อยปีจะมีสักคนของตระกูลฟาง แต่เพราะการปรากฏตัวของเขา ไม่ได้นำพาความสว่างไสวกับเกียรติยศมาให้ตระกูลฟาง กลับเกือบจะทำลายทั้งตระกูลฟาง!”

ฟางจินหยวนชะงักไป ดวงตาอิดโรยปรากฏแววประหลาดขึ้น ใบหน้าแก่ชราอันเหี่ยวย่นมีรอยยิ้มบางปรากฏขึ้น

“ไห่เฟิงเป็นคนที่มีความเป็นไปได้มากที่สุดในการนำตระกูลฟางเพิ่มพูนระดับ แต่เพราะระดับความอัจฉริยะของเขาทำให้อสูรเพลิงหมายตา อสูรเพลิงคิดจะเลี้ยงไห่เฟิงไว้ ให้กลายเป็นคนของอสูรเพลิง ตอนนั้นทั่วทั้งตระกูลฟางต่างคัดค้าน เพราะไห่เฟิงอยู่ที่ตระกูลฟาง ทำให้ไม่มีใครกล้ามารุกราน เป็นปัจจัยชี้ขาดกำหนดความอหังการ์ของตระกูลฟาง”

“ความสำเร็จของไห่เฟิงเรียกได้ว่าไม่เคยมีมาก่อนเลยไม่ว่าจะในอดีตหรืออนาคต เขาไม่คิดจะสืบทอดกิจการตระกูลฟาง พยายามฝึกฝนนินจาเป็นชีวิตจิตใจ ใช้คำพูดพวกหลานคือ เขาเป็นพวกบ้าคลั่งฝึกยุทธ์”

“จำได้ว่าตอนไห่เฟิงเกิด ปรากฏมังกรเก้าตัวบินท่ามกลางหมู่เมฆบนฟ้า มังกรทุกตัวผงกหัวขึ้นจ้องมองตระกูลฟาง เรียกได้ว่านิมิตเมฆมงคล ถือเป็นนิมิตอันเป็นมงคลยิ่ง วันนั้นยังจำติดตาปู่อยู่เลย ลืมไม่ลงจริงๆ และเป็นวันนั้นเองที่ตระกูลฟางมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่ว กลายเป็นตระกูลสูงตระกูลหนึ่ง”

“ไห่เฟิงเกิดมาไม่ร้องไม่โยเย และที่ทำให้คนตกตะลึงมากที่สุดคือ ด้านหลังเขามีมังกรเก้าตัวกำลังกางกรงเล็บอยู่! เรียกได้ว่าเป็นนักบุญจากสวรรค์ที่แท้จริง ไห่เฟิงไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง เป็นอัจฉริยะตั้งแต่เด็ก หยิบจับอะไรก็เป็นหมด ประหนึ่งอัจฉริยะพรสวรรค์เต็มเปี่ยม!”

ฟางเหยียนฟังจบ ในใจพลันรู้สึกพรั่นพรึงตะลึงมาก พ่อตนนี่เก่งเกินไปไหม! นี่เป็นสุดยอดอัจฉริยะในหมู่อัจฉริยะเลยนี่นา เขาพลันรู้สึกว่าความสำเร็จพวกนั้นของเขาเมื่อมาอยู่ต่อหน้าพ่อเขา ดูทาบไม่ติดเลยทีเดียว!

ถ้าเพียงฟางไห่เฟิงยังอยู่ น่ากลัวจะเป็นคนที่ไร้คู่ต่อสู้คนหนึ่งเป็นแน่!

หลังจากไอค่อกแค่กพักหนึ่ง ฟางจินหยวนสูดหายใจเข้าลึก ถึงพูดต่อว่า “จำได้ว่าตอนสามขวบ เขาก็ค้นพบการคงอยู่ของขวังซือแล้ว ศาลบรรพชนเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ห้ามบุกรุกที่สุดของตระกูลฟาง อย่าว่าแต่เด็กคนหนึ่งเลย ต่อให้เป็นเจ้าตระกูล หากต้องการจะเข้าไปยังแทบเป็นไปไม่ได้ เพราะนั่นไม่เพียงเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของตระกูลฟาง ยังเป็นที่อยู่ของสัตว์ในตำนานผู้คุ้มครองตระกูลฟางอย่างขวังซือด้วย”

“วันนั้นฟางไห่เฟิงก้าวเร็วราวเหาะเข้าศาลบรรพชน พลังมากจนน่าตกใจ เปรียบเสมือนพลังเทพมาตั้งแต่เกิด ชายร่างใหญ่สิบกว่าคนยังต้านเขาไว้ไม่อยู่ ส่วนเขาเป็นแค่เด็กสามขวบที่พึ่งหัดเดินเท่านั้นเองนะ สุดท้ายเขาเข้าไปในศาลบรรพชน ทุกคนต่างคิดว่าเขาจะโดนกินเพราะทำให้ขวังซือไม่พอใจ แต่สุดท้ายเขากลับเดินออกมาอย่างไม่เป็นอะไรเลย แค่ออกมาช้าไปสามวันเท่านั้น”

“สามวันต่อมา และเป็นวันแรกที่ปู่ได้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของขวังซือซึ่งเป็นสัตว์ในตำนานผู้คุ้มครองตระกูลฟาง ขวังซือดูราวกับกลัวไห่เฟิง แต่ไห่เฟิงกลับราวกับราชาแต่กำเนิด ไถลลงจากตัวขวังซือ เดินกางแขนกางขาออกจากศาลบรรพชน ขวังซือทำเพียงมองดูและหมุนตัวกลับเข้าศาลบรรพชน”

“วันนั้น ไห่เฟิงแสดงออกถึงสิ่งที่เขาให้ความสนใจ นั่นก็คือวิชานินจา ไม่ต่างจากที่คาดไว้ ต่อมาเลยได้เป็นอัจฉริยะ ฝีมือยากแท้หยั่งถึง!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ