ฟางเหมี่ยวสามารถมีความคิดได้แบบนี้ ฟางจินหยวนก็ดีใจ เขามั่นใจตัวเองมาตลอดว่าตัวเองมองคนไม่ผิด โดยเฉพาะฟางเหมี่ยว เขาอาจจะได้เป็นเจ้าตระกูลฟางคนต่อไป! จะโทษก็ต้องโทษที่เขาเกิดมาผิดเวลา เลยไม่มีทางได้เป็นคนที่ถูกเลือกของตระกูลฟาง เพราะทุกอย่างที่เขากระทำนั้น มันเพียบพร้อมที่จะได้เป็นเจ้าตระกูล
ให้กำเนิดจิวยี่มา เหตุใดต้องให้คนเก่งกว่าอย่างขงเบ้งเกิดมาด้วย
ฟางจินหยวนรู้ความคิดของฟางเหมี่ยวผู้เป็นหลานของตนเอง เขาก็ยังไม่เปลี่ยนความคิดแรกเริ่มของตนเอง จุดนี้ถือว่าสูงส่ง และหาได้ยาก จริงๆ แล้วเรื่องที่ฟางจินหยวนกังวลที่สุดก็คือ เขากลัวสองพี่น้องจะสู้กันเพื่อแย่งตำแหน่งเจ้าตระกูล แล้วจะวุ่นวายกันไม่จบไม่สิ้น
แต่ฟางเหมี่ยวก็ไม่เคยทำให้ฟางจินหยวนผิดหวัง ครั้งนี้ก็เหมือนกัน
“พี่เหมี่ยว พี่คิดได้แบบนี้ ผมก็พอเดาได้ แต่ว่า........” ฟางเหยียนพูดถึงจุดนี้ ก็หยุดไปทันที “เรื่องวุ่นวายนี้ พี่ไม่ควรเข้ามาเกี่ยวข้อง!”
ฟางเหมี่ยวหลุดหัวเราะออกมา เขารู้ว่าฟางเหยียนหมายถึงอะไร ก็เพื่อที่จะไม่อยากให้เขาเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องราวคาวมแค้นของฟางจินหยวน ส่วนเหตุผลนั้นก็รู้ๆ กันอยู่ ฟางจินหยวนไม่ควรเอาความรู้สึกของพี่น้องมาเล่นจนเปลี่ยนแปลงไป!
“น้องเหยียน พี่รู้ว่าตัวเองมีความสามารถแค่ไหน ไม่มีทางนำพาและดูแลตระกูลฟางได้ทั้งหมด แต่เอ็งไม่เหมือนกัน พี่ยอมทั้งกายและใจ จะให้ติดตามเอ็ง พี่ยินยอม ปู่ก็ได้......” พอพูดถึงจุดนี้ ฟางเหมี่ยวก็สะอึกพูดไม่ออก “หลายปีมานี้ ปู่ก็ได้รู้สึกผิดและโทษตัวเองมามากแล้ว”
“นั่นมันก็สมควรแล้วล่ะ!”
พอพูดออกไปดังนี้ บรรยากาศในห้องก็เยือกเย็นขึ้นทันที ทุกคนเริ่มหน้าแหยเหงื่อตก
ฟางเหยียนโมโหแล้ว!
แม้แต่ขวังซือเองก็หันตัวหนีไปด้วย ไม่กล้าคำรามออกมา
ฟางเหมี่ยวก็ทำท่าสงบเสงี่ยม แล้วยิ้มแหยพูดว่า “น้องเหยียน ความแค้นมันลบล้างไปได้ยาก แต่ว่า......”
ฟางเหยียนพูดขัดฟางเหมี่ยวขึ้นมา น้ำเสียงเย็นชามาก “ก่อนที่ผมจะโกรธเต็มที่ พี่ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว!”
ฟางเหมี่ยว “……”
เขาก็ไม่กล้าพูดอะไรออกมาแล้วจริงๆ
ในห้องก็เงียบสงัด
แล้วเสียงไอของฟางจินหยวนก็มาทำลายความเงียบไป
ไอกระอักเลือด!
เขาหมดแรงเหมือนตะเกียงสิ้นน้ำมันแล้วจริงๆ !
นอกจากฟางเหยียน สามคนที่เหลือในห้องก็ตกใจมาก ขวังซือก็รีบกระโจนเข้าไปตรงหน้า แล้วใช้อุ้งมือที่เต็มไปด้วยขน ออกแรงกดไปที่ฟางจินหยวน เห็นได้ชัดว่าอยากจะห้ามเลือดให้เขา ฟางจินหยวนส่ายหัวเบาๆ บอกเป็นนัยว่าไม่ต้องเปลืองแรงเปล่าๆ หรอก
ฟางไห่อิงดูเหมือนจะคิดอะไรออก แล้วก็หน้ากากออกซิเจนเข้าไปปิดปากให้ฟางจินหยวน น้ำตาก็ไหลออกมาอย่างไม่มีเสียง
พอหน้ากากออกซิเจนใส่เข้าไปแล้ว ก็เกิดเป็นไอน้ำขึ้นมาทันที เห็นได้ชัดว่า ตอนที่ชีวิตมาถึงสุดทางแล้วนั้น ฟางจินหยวนก็ยังอยากจะอยู่ให้มากกว่าเดิมสักหลายนาทีหลายวินาที โดยเฉพาะหน้าอกที่สูดอากาศเข้าไป พองขึ้นยุบลง ชวนให้คนเห็นแล้วสงสาร
ใครๆ ก็รู้ว่าฟางจินหยวนกำลังแย่งชิงเวลากับเทพแห่งความตาย ก็เพื่อที่จะอยู่พูดคุยกับฟางเหยียน และจะคืนตระกูลฟางให้กับฟางเหยียน ดังนั้นฟางไห่อิง ฟางเหมี่ยวรวมทั้งขวังซือ ก็แทบจะกลั้นหายใจด้วยความลุ้น ยายามไม่รบกวนเขาคุยกัน
ฟางเหยียนแทบจะไม่ให้โอกาสเขาเลย และพูดไปนิ่งๆ ว่า “ฟางจินหยวน ไม่ต้องพยายามหรอก บอกผมมา ว่าผู้หญิงคนนั้นคือใคร!”
ฟางจินหยวนที่กำลังสูดเอาออกซิเจนเข้าปอด พยายามออกแรงส่ายหัว แต่แทบจะแรงทั้งหมดในตัว ก็ขยับตัวได้เพียงเล็กน้อย ดูไปแล้วเหมือนจะไม่ขยับอะไรได้เลย
“ในเมื่อคุณไม่รู้ ก็ไม่ต้องมีชีวิตต่อไปแล้ว!”
พูดไป ฟางเหยียนก็หันหลังเดินออกไป เขาอยากให้ฟางจินหยวนเจ็บปวดก่อนตาย!
“เฮือกๆ ......” หน้าอกของฟางจินหยวนสั่นอย่างมาก เหมือนจะพยายามพูดอะไรออกมา แต่พูดออกมาไม่ได้
ฟางไห่อิงทนไม่ไหว เธอรู้ดีว่าฟางจินหยวนก่อนตาย อยากจะเห็นฟางเหยียน แต่ตอนนี้ฟางเหยียนเดินออกไปแล้ว เขาก็จะตายตาไม่หลับ
ดังนั้น!
เธอตัดสินใจจะเป็นคนไม่ดี เข้าไปขวางฟางเหยียนไว้
“เสี่ยวเหยียน ป้ารู้ว่าป้าไม่ควรเอ่ยปากพูดรั้งแกไว้ แต่ว่าป้าปวดใจมาก เจ็บปวดจนหายใจไม่ได้ ความอค้นที่แกมีต่อปู่แก ป้ารู้ดี แต่ที่ป้าอยากจะพูดก็คือ เขาเป็นพ่อของป้า เป็นคนที่ให้เลือดเนื้อแก่ป้า ป้าไม่อยากเห็นเขาตายไปพร้อมกับความเสียดาย เขารักแกมากนะ และเป็นหนี้แกมากด้วย เสี่ยวเหยียน ป้าขอร้องล่ะนะ”
พูดไป ฟางไห่อิงก็คิดจะคุกเข่าลงไปด้วย!
ผู้อาวุโสคุกเข่าให้คนอ่อนกว่า!
นี่มันจะไม่ผิดระเบียบงั้นหรือ?
เธอรู้ดีว่า นี่คือการเอาความรู้สึกดีที่ฟางเหยียนมีต่อเธอ มาลองใจ มาขัดเกลาความรู้สึก และไม่รู้เหมือนกันว่าโอกาสแบบนี้มันจะยืดยาวไปถึงแค่ไหน!
ในห้องก็กลับมาเงียบสงัดอีกครั้ง แถมยังเงียบขึ้นกว่าเดิมไปอีก!
ฟางไห่อิงที่เหมือนจะพูดได้ดีที่สุด ตอนนี้ก็เหมือนจะเกลี้ยกล่อมอะไรฟางเหยียนไม่ได้ คิดดูก็รู้ว่าเรื่องนี้มันเร่งด่วนมากแค่ไหน ก็จริงอยู่ นี่คือการความรู้สึกที่เป็นญาติกันมาแลกเปลี่ยน สิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่าความรู้สึกของความเป็นญาติกันนี้ พอทิ้งมันไป ก็จะมีผลกระทบมาก แตกหักแยกย้าย ห่างเหิน สุดท้ายก็กลายเป็นคนแปลกหน้า!
ไม่มีใครกล้ายืนยันว่า ในความรู้สึกแห่งความเป็นญาติกันนี้ เมื่อเอาอะไรอย่างอื่นเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยแล้ว และมันจะไม่เปลี่ยนไป!
บรรยากาศยิ่งตึงเครียดมากขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้คนเริ่มไม่สบายใจ
ทั้ง3คนก็จ้องมองฟางเหยียนที่หันหลังให้ตาปริบๆ มีคำพูดมากมาย แต่ตอนนี้พูดไม่ออกสักคำ
เวลาผ่านไปทีละวินาทีๆ ลมหายใจของทุกคนก็เร็วตามจังหวะการเต้นของหัวใจ
ฟางเหยียนนิ่งไปครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า “ป้าครับ ผ้าทำแบบนี้ ฟางจินหยวนจะสำนึกในความดีของป้างั้นหรือครับ? ผมบอกตามตรงเลยนะว่า ถ้าฟางจินหยวนตาย ตระกูลฟางจะต้องวุ่นวายมากแน่ๆ !”
ฟางไห่อิงคิดๆ แล้วก็พูดว่า “ผ้าเชื่อว่าแกจะไม่ยอมทนดูอยู่เฉยๆ แน่ แกจะปกป้องพวกเราใช่ไหม? แกเคยบอกไว้”
ฟางเหยียน “……”
เห็นได้ชัดว่าฟางไห่อิงตั้งใจพูดออกมาแบบนี้ เพื่อที่จะรั้งตัวฟางเหยียนไว้ให้ได้สักพัก
ฟางจินหยวนก็ดีใจอย่างเห็นได้ชัด อดกลั้นต่อความเจ็บปวด หน้าแกก็ไม่ได้พองขึ้นลงแล้ว คงจะปรับตัวได้แล้ว ไม่ ไม่อาจจะพูดว่าปรับตัวได้แล้ว นี่คืออาการก่อนตาย เห็นได้ชัดว่า มีสติดีกลับขึ้นมามาก แม้แต่หน้ากากออกซิเจนก็ถูกเขาดึงออกไป!
ฟางไห่อิงตกใจมาก คิดอยากจะเอาปิดกลับไปให้ แต่เขากลับส่ายหัวปฏิเสธ
“ไห่อิง ขอบใจลูกมากนะ เรื่องที่พ่อทำผิดที่สุด ก็คือให้แกไปแต่งงานกับกาวหรง พ่อขอโทษนะลูก พ่อพูดอะไรมากไม่ได้ งั้นพ่อก็จะขอพูดทีเดียวเลยนะ” พูดถึงจุดนี้ เขาก็มองไปยังฟางเหยียน “เสี่ยวเหยียน ขอบใจเอ็งมากที่ก่อนปู่จะตาย เอ็งได้ไว้หน้าความเป็นญาติกันของเรา แน่นอนว่าแกทำไปเพราะป้าของแก ปู่ก็ได้อานิสงส์จากป้าแกไปด้วย ปู่หวังว่าเอ็งจะกลับไปคิดเกี่ยวกับเรื่องที่ปู่พูดไว้ ตระกูลฟางจะขาดเอ็งไม่ได้นะ”
“อีกอย่าง แล้วก็.......” ฟางจินหยวนตัวสั่นแรงขึ้นมา ดูเหมือนกำลังจะสิ้นใจ เขารีบพูดอย่างติดๆ ขัดๆ ว่า “จะ จะต้องระวัง พวกเพลิงเสวน สุด สุดท้ายนี้ ฝากตระกูลฟางด้วย”
พอสิ้นเสียง ฟางจินหยวนก็หลับตาลง ใบหน้าก็มีรอยยิ้มค้างไว้แบบนั้น!
ฟางจินหยวนตายแล้ว!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ