จอมนักรบทรงเกียรติยศ นิยาย บท 856

สัตว์ไม้พิชิตภัย!

ไม่ใช่ ควรจะบอกว่าเป็นเทาเที่ยไม้มากกว่า!

บทเป่ยซานของซานไห่จิง กล่าวไว้ว่า บนภูเขาอู๋ มีหินหยกจำนวนมาก ตีนเขามีแร่ทองแดงมาก บนเขามีสัตว์ชนิกหนึ่ง รูปร่างคล้ายแกะ แต่กลับมีใบหน้าเหมือนมนุษย์ มีดวงตาอยู่ใต้รักแร้ เขี้ยวเหมือนเขี้ยวเสือ กรงเล็บคล้ายเท้ามนุษย์ เสียงคำรามเหมือนเสียงเด็กร้องไห้ สัตว์ชนิดนี้มีชื่อว่า เผาเซียว เป็นสัตว์จำพวกกินคน เผาเซียว ก็คือ เทาเที่ย

พอเห็นสัตว์ไม้พิชิตภัย ฟางเหยียนก็รู้เลยว่า หินเหล็กนิลอยู่ใกล้ๆ นี้!

แต่เขามองอยู่นานมาก แต่ก็ไม่ได้เจออะไรเลย ไม่มีแม้แต่หินสักก้อน!

เสียงหวีดดังขึ้น สัตว์ไม้พิชิตภัยขยับ แต่ว่ามันไม่ได้ไปทางฝั่งฟางเหยียน แต่หนีไปทางข้างหลังอย่างรวดเร็ว!

พอเห็นดังนั้น ฟางเหยียนก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย ยังไม่ทันได้สู้เลยก็จะหนีแล้วงั้นหรือ?

ไม่ว่าจะเป็นกับดักหรือไม่ เขาก็จำเป็นต้องมุ่งหน้าเข้าไป แล้วกเขาก็ตามเข้าไป อย่างแทบจะไม่ลังเลอะไรเลย

ยิ่งวิ่งเข้าไปด้านในมากเรื่อยๆ เขาก็รู้ว่าผิดปกติ

ความร้อนโดยรอบ มันร้อนเหมือนถูกคนจับไปย่างไฟอย่างนั้นเลย แต่จากนั้นก็มีความเย็นยะเยือกเข้ามาปะทะกายอีก ต่างกันสุดขั้วของจริง!

ทันใดนั้นฟางเหยียนก็เข้าใจขึ้นมาได้ทันที สัตว์ไม้พิชิตภัยมันคิดจะฆ่าเข้าทั้งเป็น!

ไร้เดียงสาไปหน่อยหรือเปล่า!

ต้องบอกเลยว่า ด้านนอกกับด้านในมันคนละความรู้สึกกันเลย ต่างกันสุดขั้วของด้านนอก มันเหมือนกับฤดูใบไม้ร่วง แต่ด้านในมันอุณหภูมิติดลบเลยล่ะ!

กุ่ยกู๋จื่อมีชื่อเสียงสมคำร่ำลือจริงๆ ความสามารถที่สูงส่งแบบนี้ ทำให้คนที่อยากได้หินเหล็กนิล อกสั่นขวัญแขวนได้จริงๆ

พอสัตว์ไม้พิชิตภัยวิ่งเร็วขึ้น ฟางเหยียนก็เร่งฝีเท้าตามไปอีก ไม่รู้ว่าวิ่งมานานแค่ไหนแล้ว ต้นไม้สูงใหญ่รอบๆ กลายเป็นพุ่มไม้เตี้ยๆ แล้วก็เห็นกองกินไม่ใกลข้างหน้า กองดินนี้ไม่ค่อยสูงเท่าไร สูงประมาณเมตรกว่าๆ มาอยู่ในป่าก็ถือว่าเป็นกองดินที่ใหญ่พอสมควร แต่พอหลังจากสัตว์ไม้พิชิตภัยมุดเข้าไป สถานการณ์ก็ไม่เหมือนเดิมแล้ว

มาถึงตรงหน้ากองดิน ฟางเหยียนก็ค่อยๆ ตรวจสอบดูรอบๆ รอบๆ นอกจากมีพุ่มไม้แล้ว ก็ไม่มีทางเดินไปที่ไหนอีก มาถึงจุดสิ้นสุดแล้ว

ดินหน้าของกองดิน มีป้ายไม้ปักอยู่ นอกจากตัวอักษรจะเลือนรางไปไม่ชัดเจนแล้ว ป้ายไม้นั้นก็ไม่ได้เสียหายไปตามกาลเวลาหลายพันปีเลย

ใครบุกเข้ามา ตาย!

แม้แต่ตัวอักษรบนป้าย ก็ยังทำให้คนรู้สึกถึงแรงกดดันได้ เย็นวาบๆ ที่สันหลัง

ฟางเหยียนมุดเขาไปในกองดิน อย่างแทบจะไม่ลังเลอะไรเลย พอเข้าไปก็รู้สึกว่ามีลมเย็นๆ พัดมาในอากาศเต็มไปกลิ่นเหม็นเน่า กลิ่นเหมือนกลิ่นสาปของพวกหนู

หลังจากสำรวจทางเดินแคบยาวด้านในแล้ว ตรงหน้าฟางเหยียนก็มีบ้านไม้ค่อนข้างใหญ่หลังหนึ่ง แล้วเขาก็หยุดฝีเท้าลง

สุสานใต้ดินงั้นหรือ?

ถูกต้อง บ้านไม้หลังนั้น เหมือนกับว่าเป็นสุสานที่ถูกสร้างให้กับคนที่ล่วงลับไป!

ส่วนด้านข้างของบ้านไม้นั้น สัตว์ไม้พิชิตภัยก็อยู่ตรงนั้น ราวกับเป็นพระนั่งเข้าฌาน ไม่ขยับเลย

บ้านไม้นั้นไม่สูง เหมือนกับศาลเจ้าที่ แต่ที่แปลกก็คือ ประตูของบ้านไม้นั้น มันปิดอยู่

ฟางเหยียนก็ไม่ได้จะบุ่มบ่ามบุกเข้าไป ความอัจฉริยะของกุ่ยกู๋จื่อและเทพอารักษ์หลู่ปัน เขาจะบุกเข้าไปมั่วๆ ไม่ได้ โดยเฉพาะเส้นทางด้านหน้าของบ้านไม้นี้ เกรงว่าคงจะเดินไม่สะดวก!

สายตาก็จ้องว่ามีของล้ำค่าอยู่ตรงหน้า มีหรือเขาจะทิ้งมันไปโดยไม่สนใจ!

ไม่รอรี แล้วก็ยกมือขึ้นใช้พลังซัดลงไปที่พื้นดินตรงหน้าบ้านไม้นั้น

ซู่ๆๆ …

บนพื้นดินและบนอากาศล้วนเป็นลูกธนู!

ถ้าเข้าไปแม้แต่ก้าวเดียว ก็คงจะต้องถูกยิงจนเป็นเม่นแน่นอน!

ลูกธนูมีอาบยาพิษ ก็ทำเอาทั้งพื้นดินนั้นกลายเป็นสีดำไปหมด!

ต่อให้ฟางเหยียนที่ไม่ค่อยตกใจอะไร ตอนนี้ก็กระตุกจิตเหมือนกัน โชคดีที่เขาทดลองก่อน ไม่อย่างนั้นล่ะก็ สิ่งที่รอเขาอยู่ตรงหน้า ก็คือลูกธนูที่ยิงเข้ามาฆ่านับไม่ถ้วน!

ลูกธนูมากเหมือนเม็ดฝน ตกลงมาไม่หยุด ไม่มีวี่แววว่าจะหยุดเลย

ห่าฝนลูกธนู!

สัตว์ไม้พิชิตภัยก็นั่งรอนิ่งๆ อยู่ตรงนั้น ราวกับห่าฝนลูกธนูมันไม่เกี่ยวอะไรกับมันเลย

“จะรอไปแบบนี้ไม่ได้ ชักช้าไปจะเกิดอะไรขึ้นมาอีก!” ฟางเหยียนบ่นกับตัวเอง จ้องมองห่าฝนลูกธนูนั้น แล้วก็เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว พุ่งเข้าไปในบ้านไม้นั้น!

แต่ไม่นานก็ต้องกลับมาที่เดิม เพราะห่าฝนลูกธนูมันขวางทางเขาไว้!

เขารับมือไม่ได้แบบนี้เป็นครั้งแรก เทาเที่ยสมกับเป็นสัตว์ร้ายในตำนานจริงๆ สมคำร่ำลือ เขาได้แต่หลบหลีกเท่านั้น พยายามไม่รับมือโดยตรง

หลบไปวนมาหลายรอบ ฟางเหยียนก็เริ่มโมโหขึ้นมา หลบอย่างเดียว มันอัดอั้นใจจริงๆ !

ไม้แข็งไม่ได้ผล งั้นก็ใช้ไม้อ่อนแล้วกัน!

ฟางเหยียนตั้งใจแกล้งวิ่งหนีไปรอบๆ บ้านไม้ ยั่วโมโหสัตว์ไม้พิชิตภัย แบบนั้นมันก็เหมือนถูกเหยียบหาง อ้าปากกว้างแดงเถือกออกมาด้วยอารมณ์ร้าย อยากจะชนฟางเหยียนให้แหลกเป็นชิ้น

เป็นอย่างที่เขาคิดไว้ ความแข็งแกร่งของสัตว์ไม้พิชิตภัย น่าจะเกี่ยวข้องกับหินเหล็กนิล!

วิ่งวนไปหลายรอบ ฟางเหยียนก็หยุดอยู่ที่หน้าบ้านไม้ทันที เปลี่ยนมือเป็นดาบ แล้วสับไปยังบ้านไม้นั้น สัตว์ไม้พิชิตภัยก็รีบกระโดนขึ้นราวกับสายฟ้า แล้วก็นิ่งไป พร้อมกับจ้องจะขย้ำฟางเหยียน

ฟางเหยียนไม่สนความโกรธของสัตว์ไม้พิชิตภัย รีบไปเปิดประตูบ้านไม้ แล้วก็เห็นหินเหล็กนิลสีดำสนิทก้อนนั้น ดำจนเป็นเงา ขนาดประมาณฝ่ามือ

ได้หินเหล็กนิลมาในมือ พลังอันยิ่งใหญ่ก็ส่งเข้ามา แฝงไปด้วยพลังของฟ้าดิน ไม่ธรรมดาจริงๆ ถ้าไม่ใช่เพราะว่าฟางเหยียนใช้ความสามารถของตัวเองได้ทันเวลาล่ะก็ บางทีอาจจะถูกพลังฟ้าดินนี้จัดการไปแล้วก็ได้!

เหมือนกับที่กู่ผินบอกไว้ไม่มีผิด หินเหล็กนิลเป็นของชั่วร้าย ถ้าไม่ได้สัตว์ไม้พิชิตภัยมาผนึกไว้ บางทีฟ้าดินคงจะถูกทำลายไปหมดแล้ว!

หินเหล็กนิลปรากฏ ภัยพิบัติถือกำเนิดอีกครั้ง!

และในตอนนี้เอง สัตว์ไม้พิชิตภัยก็เผยสัญชาตญาณสัตว์มากกว่าเดิม พุ่งมาทางฟางเหยียน เร็วมาก จนเขาตั้งตัวไม่ทัน

โครม!

ฟางเหยียนรู้สึกกระดูกทั้งตัวแทบจะแหลก มึนหัวดังวิ๊งๆ !

สัตว์ไม้พิชิตภัยไม่อยากให้ฟางเหยียนเอาหินเหล็กนิลไป ก็เลยโมโหออกมาแบบนี้ แทบจะไม่ให้โอกาสฟางเหยียนเลย จะฆ่าเขาให้ตายอย่างเดียว!

พอได้หินเหล็กนิลมาแล้ว ฟางเหยียนก็ไม่อยากจะเสียแรงกับมันอีก ก็เลยใช้วิชาหลบหลีกไป

ออกมาจากกองดิน ฟางเหยียนก็วิ่งหนีอย่างเดียว

เทียนขุยที่รออยู่ข้างๆ ก็ถามว่า “จอมพลครับ คุณวิ่งทำไม........”

“ให้ตายเถอะ!” ลูกตาของเทียนขุยแทบจะถลนออกมา “นี่มันตัวอะไรวะเนี่ย!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ