เทียนขุยถูกละเลยอีกครั้ง!
เขาไม่มีความสุขจากการปลดปล่อย ตรงกันข้ามมันกลับไปกระตุ้นจิตวิญญาณการต่อสู้ของเขา!
ดูจากสถานการณ์การต่อสู้ ฝีมือของเขาต่างจากกับชิงตี้ไม่มาก
ต้องต่อสู้กันสักครั้งถึงจะรู้ว่าฝีมือของเขาชิงตี้ห่างกันแค่ไหน!
“เทียนขุย ฝีมือของคุณพัฒนารวดเร็วเป็นอย่างมาก ยินดีด้วย”
เทียนฝู่ สถานการณ์ภายนอกเป็นอย่างไรบ้าง?”
“ไปเถอะ เข้าไปคุยกันข้างใน”
เมื่อเดินเข้าไปในบ้านไม้ หลังจากทั้งหกคนนั่งลงแล้ว เทียนฝู่กล่าวว่า “สถานการณ์ภายนอกได้เปลี่ยนจากความโกลาหลเป็นมั่นคงแล้ว และประชาชนหายจากความตึงเครียดและตื่นตระหนกแล้ว สิ่งที่ควรชดเชยก็ได้ชดเชยไปหมดแล้ว และจัดการปัญหาที่เหลือเรียบร้อยแล้ว เพียงแต่พี่น้องรู้สึกไม่สะใจเล็กน้อย เพราะขณะที่กำลังฆ่าอย่างเมามัน คนขององค์กรสัตว์เพลิงเหมือนเต่าหัวหด ชั่วพริบตาเดียวพวกเขาก็หายตัวไปหมด พวกเราพี่น้องทั้งหมดจึงปรึกษาหารือกันว่าจะบุกไปที่รังของพวกเขาดีกว่า!”
เมื่อเทียนขุยได้ยินก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมามันที จากนั้นเหมือนมีคนเอาน้ำเย็นสาดใส่ และกล่าวยิ้มเจื่อน ๆว่า “เป็นความคิดที่ไม่เลวดี แต่เสียดายที่ชิงตี้ไม่ยอมพูด สิ่งเดียวที่รู้สึกเสียใจคือก่อนหน้านั้นตอนที่ผมกับจอมพลโผ้จวินไปที่อาณาเขตของเจ้านายเธอ และสิ่งเดียวที่รู้สึกเสียใจคือพวกเราถูกชิงตี้ปิดตา เลยไม่รู้ว่าสถานที่นั้นมันคือที่ไหน ถ้าพวกเรารู้คงจะดี”
เทียนซิงกล่าวแทรกว่า “คุณลองนึกดูว่ามีสถานที่อะไรพิเศษหรือเปล่า?”
ผู้คนที่เหลือต่างถามตามอย่างพร้อมเพรียง
เทียนขุยหลับตาลงแล้วครุ่นคิดและกล่าวพึมพำว่า “ตอนแรกผมกับจอมพลโผ้จวินได้พบกับสัตว์ประหลาดที่ตระกูลโจวบนภูเขาทิพย์ จากนั้นพวกเราถูกชิงตี้พาไปขึ้นเครื่องบิน และถูกปิดตาตลอดทาง ฟังเสียงของเครืองบินแล้วเป็นเฮลิคอปเตอร์พลเรือน แบบเดียวกับเฮลิคอปเตอร์โรบินสันซีรีส์ เฮลิคอปเตอร์ออกจากดินแดนตะวันตก และบินลงใต้ประมาณสามชั่วโมง แล้วพวกเราก็ถูกโยนออกจากเครื่องบิน ถูกต้อง มันเหมือนกับการกระโดดร่ม ความเร็วในการตกลงมานั้นสูงมาก ดูเหมือนเวลาไม่ถึงหนึ่งนาทีก็ลงสู่พื้นดิน ผมเดาว่าตอนนั้นความสูงของเฮลิคอปเตอร์น่าจะประมาณหนึ่งพันเมตร”
“หลังจากตกลงมาสู่พื้นแล้ว มีกลิ่นใบไม้เน่าเหม็นไปทั่ว ซึ่งใบใต้ฝ่าเท้าก็นุ่มราวกับกำลังเหยียบชายหาด นอกจากนั้นดูเหมือนว่ามีต้นไม้อยู่รอบ ๆ และยังสามารถได้ยินเสียงของนกต่าง ๆ และแสงแดดรอบ ๆ ก็ไม่แรง เพียงพอที่จะเดาได้ว่าตอนนั้นพวกเราอยู่ในป่า”
คนทั้งห้าไม่ได้พูดขัดจังหวะเทียนขุยให้เขาพูดต่อไปเรื่อย ๆ การคาดเดาเหล่านั้นของเทียนขุย มีน้ำหนักมากพอที่เชื่อได้ นี่เป็นวิชาบังคับสำหรับการทำสงคราม และยังเป็นประเด็นที่ต้องเรียนรู้เพื่อเข้าสู่สำนักเจ็ดพิฆาต ขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้
“ยิ่งเดินเข้าไปข้างในป่าลึกมากเท่าใด ทางก็ยิ่งเดินยากขึ้นมากเท่านั้น เหมือนกับกำลังปีนภูเขาอยู่ตลอดเวลา ยิ่งเดินเข้าไปลึกเท่าใด กลิ่นของใบไม้เหม็นเน่ายิ่งจางลงเท่านั้น และมีกลิ่นหอมฟุ้งลอยอยู่บนอากาศ สำหรับกลิ่นหอมนั้นคล้ายกับกลิ่นของไม้จันทน์ ยิ่งเดินขึ้นไปสูงเท่าใด กลิ่นหอมยิ่งแรง ราวกับว่าเป็นกลิ่นของดอกไม้จันทน์ทั้งหมด”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ เทียนขุยก็หยุดพูด ลืมตาขึ้นและกล่าวว่า “หลังจากเปิดผ้าปิดตา พวกเราพบว่าตนเองได้มาอยู่ในวังที่ใหญ่งดงามตระการตาแล้ว หลังจากนั้นพวกเราเห็นนายน้อยเสวียนเย่ขององค์กรสัตว์เพลิง และไอ้หมอนั้นต้องการยืมมือจอมพลโผ้จวิน เพื่อช่วยให้เขาแย่งชิงตำแหน่งในองค์กรสัตว์เพลิง!”
หลังจากนั้นเทียนขุยกล่าวอย่างตื่นเต้นว่า “พวกคุณไม่รู้ว่าตอนที่อยู่ในอาณาเขตของเสวียนเย่ ผมฆ่าคนได้สะใจมากขนาดไหน ผมฆ่าคนไปทันทีสองร้อยกว่าคน ฮ่า ๆ.......สะใจมาก นั้นเป็นครั้งแรกที่ผมฆ่าคนขององค์กรสัตว์เพลิงอย่างใกล้ชิด!”
ทันใดนั้นดวงตาของเทียนกางที่ตั้งใจฟังมาโดยตลอดก็เปล่งประกาย และกล่าวอย่างตื่นเต้นว่า “เทียนขุย ทำไมคุณไม่เรียกผมไปด้วย? ให้ผมได้สะใจด้วยกัน!”
เทียนขุยมองเทียนกางด้วยสายตาที่เหยียดหยาม “พูดเหมือนกับว่าตอนนี้คุณยังสะใจไม่พออีกหรือ? พอหอมปากหอมคอก็ได้ล่ะมั้ง? คุณคิดว่าผมไม่รู้จักนิสัยของคุณเลยหรือ!”
“แล้วอะไรที่เรียกว่าสะใจล่ะ?” เทียนกางยิ้มอย่างขมขื่น “ก่อนที่ผมจะลงมือ ลูกน้องก็ได้เตรียมอาวุธพร้อม และตอนที่ผมไปถึง การต่อสู้จบลงแล้ว แม่ฉิบหาย ไอ้พวกนี้ไม่เชื่อฟังคำสั่ง ทำให้ผมรู้สึกหงุดหงิดมาก!”
“ฮ่า ๆ ๆ” เมื่อมองสีหน้าที่ขมขื่นของเทียนกาง เทียนขุยหัวเราะเสียงดัง
“เอาล่ะ เรื่องหลักสำคัญกว่า” เทียนเต๋อหยุดพวกเขาสองคน แล้วมองไปที่เทียนฝู่และกล่าวว่า “เทียนฝู่ คุณคิดอย่างไรกับเรื่องนี้?”
สุดท้าย เทียนฝู่มองไปที่เทียนขุยและกล่าวว่า “คุณไปพักผ่อนก่อนเถอะ นอกจากดูแลพี่ใหญ่แล้ว คุณจับตาดูชิงตี้ ผมรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดา และไม่ผิดที่จะป้องกันไว้ก่อน”
เทียนขุยพยักหน้า “คุณวางใจเถอะ เรื่องนี้คุณไม่บอกผมก็รู้ดี ผมรู้จักผู้หญิงคนนี้เป็นอย่างดี ผมระมัดระวังผู้หญิงคนนี้มาโดยตลอด ถ้ามีปัญหาอะไร ติดต่อผมทันที”
“โอเค เรื่องของพี่ใหญ่มอบให้คุณดูแล พวกเราจะกลับไปก่อน”
หลังจากที่ทุกคนจากไป เทียนขุยเปิดประตูและเดินออกมาแล้วได้พบกับชิงตี้
“หรือว่านี่เป็นเงื่อนไขพิเศษสำหรับพวกพี่?”
“ชิงตี้ บอกมาตามตรงว่าคุณต้องการทำอะไร? ผมขอเตือนคุณยกเลิกความคิดนั้นซะ แม้แต่ผมก็มองออกว่าคุณไม่หวังดี คุณคิดว่าจอมพลโผ้จวินจะมองไม่ออกหรือ? ดังนั้นถ้าหากคุณมีความคิดที่ชั่วร้าย แม้ว่าต้องแลกด้วยชีวิต ผมก็ฆ่าคุณ!”
ชิงตี้ทำเป็นหูทวนลม และยิ้มเยาะเย้ย “ในสายตาของคุณนั้นฉันเลวร้ายขนาดนั้นเชียวหรือ? คุณอย่าใช้สองมาตรฐานเช่นนั้นได้ไหม?”
“ถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่น ผมจะไม่สนใจ แต่เป็นคุณไม่สนใจไม่ได้!”
“การคุยกับคุณมันเป็นการทำให้เสียเวลาจริง ๆ แล้วคุณก็ลืมตามองให้ดี ๆ จะได้ไม่สงสัยคนอื่น!”
เทียนขุยกล่าวอย่างไม่ลดราวาศอกว่า “ในเมื่อคุณไม่มีความลับอะไร งั้นคุณก็บอกตำแหน่งที่ตั้งศูนย์บัญชาการขององค์กรสัตว์เพลิงออกมาสิ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ