ภูเขาเสินเจี้ย ช่องทางเดิน ในห้องหนังสือ
เวสวียนเจิ้นเปิดอ่านหนังสือโบราณเล่มแล้วเล่มเล่าอย่างจิตใจวุ่นวาย แทบจะอ่านหนังสือไปรวดเร็ว เปิดอย่างอดทน มองออกไปนอกหน้าต่างเป็นครั้งเป็นคราว แล้วก็เหม่อลอยในบางครั้ง คนทั้งคนก็เหมือนไม่กระปรี้กระเปร่า
ในขณะนี้ ผู้อาวุโสจางเปิดประตูและเข้ามา เวสวียนเจิ้นลุกขึ้นมาในทันที และถามว่า: “เป็นยังไง?”
แทบไม่ให้โอกาสเขาได้ตอบโต้ ท่าทางที่เฉียบขาดของผู้สูงส่ง ทำให้เขาตกใจ และอ้าปากพูดออกมาโดยไม่รู้ตัว: “ไม่มีข่าว”
“ไม่มีข่าวเหรอ?”เวสวียนเจิ้นถามกลับ สีหน้าไม่พอใจเล็กน้อย: “มีคนทั้งหมดหลายร้อยคนในสาขาเหลือง แต่ไม่มีเคยข่าวปล่อยออกมาเลยงั้นเหรอ? ทั้งหมดก็เลี้ยงเสียข้าวสุกเหรอ?”
“ราชา อย่าได้โมโห”ผู้อาวุโสจางพูดอย่างระวังตัวจนไม่สบายใจ: “ผมได้เรียกคนไปตรวจสอบแล้ว เชื่อว่าก็จะได้รับข่าวในไม่ช้านี้”
“จัดการกับพวกทหารกระจอกเหล่านั้น สาขาเหลืองยังจำเป็นต้องส่งกองกำลังทั้งหมดเข้ามารุกราน เศษสวะจริงๆ!”เวสวียนเจิ้นพูดด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น: “เรื่องราวง่ายๆ จะต้องใช้คนไม่เหมาะกับงานอย่างแน่นอน เรื่องราวง่ายดาย จะต้องทำให้ซับซ้อนขนาดนี้ โง่อย่างสุดขีดจริงๆ!”
ผู้อาวุโสจางทำได้เพียงยิ้มตอบ ไม่กล้าพูดเรื่องไร้สาระ ในใจก็ไม่พอใจ: “นี่เป็นสัญญาณของคุณไม่ใช่เหรอ? ทำให้ผู้คนมากมายก็รู้ จุดจบที่ไม่เชื่อฟัง ตอนนี้ก็รังเกียจที่มีความยิ่งใหญ่อีก? ใช้คนไม่เหมาะกับงานเหรอ?”
แม้ว่าจะพูดแบบนี้ เขาไม่กล้าพูดเรื่องไร้สาระ และก็ไม่กล้าเปล่งเสียงตั้งคำถาม
ในขณะนี้ ทันใดนั้นก็มีลวดลายที่ดุร้ายปรากฏขึ้นนอกหน้าต่าง ผู้อาวุโสยังไม่ทันได้ตอบสนอง เวสวียนเจิ้นได้เปิดหน้าต่างแล้วไล่ตามออกไป แต่หลังจากที่นิ่งอึ้งอยู่ครู่หนึ่ง ก็พึมพำด้วยสีหน้าเคร่งขรึม: “เกิดเรื่องแล้ว!”
ห้องโถง ผู้คนมากมาย เงียบกริบ นอกเหนือจากบรรยากาศที่หนักใจ เหลือเพียงความเคร่งขรึมเท่านั้น
เมื่อเวสวียนเจิ้นปรากฏตัว ทุกคนก็จ้องมองเขาอย่างเป็นระเบียน
“เกิดอะไรขึ้น?”
“ราชา คนหลายร้อยคนหายตัวไปในภูเขาทิพท์”
ทันทีที่คำพูดนี้ออกมา ก็เกิดความโกลาหลขึ้นทันที!
ใบหน้าของเวสวียนเจิ้นหม่นหมองอย่างสุดขีด ตบโต๊ะและตะโกนด้วยความโกรธ: “แกพูดอะไรนะ!”
ทั้งห้องโถงเงียบกริบ ทุกคนก็ก้มหน้าลงทั้งหมด โดยไม่มองเวสวียนเจิ้นที่โกรธจัด!
ผู้อาวุโสที่รีบมาก็สั่นเทาเหมือนกับถูกฟ้าผ่าอย่างรุนแรง เกิดเรื่องจริงๆ
“ตามคำสั่งของราชา ปิดล้อมครอบตระกูลร่ำรวยสำนักต่างๆที่ดื้อรั้นทั้งหมด ต่อจากนั้นรวบรวมจัดการ ก็เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่ตามมาในอนาคต รวมทั้งสำนักต่างๆและครอบครัวตระกูลร่ำรวย มีหยินฮว่าถังจู่(แปลว่าหัวหน้า)ของสาขาเหลืองรับผิดชอบหลายร้อยคนมุ่งหน้าไปกำจัดศัตรูให้หมดสิ้น แต่จนถึงตอนนี้ ทุกคนหายกันไปหมด คนของพวกเราก็มุ่งหน้าไปตรวจสอบ และในที่สุดก็พบเบาะแสที่น้ำตกผาจินสุ่ย ที่นั่นดูเหมือนจะเกิดสงครามใหญ่”
คนคนนั้นพูดอย่างตัวสั่นเทา: “หลังสงครามใหญ่ ทั้งน้ำตกก็ย้อมไปด้วยสีแดงของเลือด ขนาดอันธพาลเจ้าถิ่นในท้องถิ่นก็มีส่วนร่วมด้วย ที่น่าแปลก็คือ หลังจากที่อันธพาลเจ้าถิ่นกลับจากผาจินสุ่ยกลับมา ยุบสลายลูกน้องทุกคน ออกจากตำบลจินสุ่ยเจิ้นในกลางดึก เพียงแต่ตอนที่ถูกคนค้นพบ เสียชีวิตบนภูเขาด้านหลังของคนอื่น หยินฮว่าและคนอื่นก็ขัดจังหวะในเบาะแสนี้”
จมดิ่ง ราวกับจมอยู่ในตาย!
ทั้งห้องโถงราวกับปกคลุมด้วยน้ำแข็ง ทำให้ผู้คนหวาดกลัว!
ความโกรธของราชา ไม่มีใครกล้าหยุดยั้ง!
กดดัน ในใจของทุกคนเหมือนกับกดทับไปด้วยภูเขาที่สูงตระหง่านสูงโดดเด่น!
ในขณะนี้ เสียงหนึ่งได้ทำลายความเงียบ และทุกคนก็ถอนหายใจยาวอย่างยกภูเขาออกจากอก
“ขออนุญาต!”
เวสวียนเจิ้นขมวดคิ้วเล็กน้อย และพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม: “เข้ามา!”
สายตาของทุกคนก็มองตามไปด้วย สีหน้าเปลี่ยนไปมาก คนคนนั้นกลับถือหัวของคนคนหนึ่ง!
คนคนนี้ไม่ใช่ใครอื่น ก็คือหยินฮว่า! ถังจู่(แปลว่าหัวหน้า)สาขาเหลือง!
ทั้งห้องโถงตะลึงงัน ตื่นตะลึง!
โดยเฉพาะเวสวียนเจิ้น!
เขาให้สาขาเหลืองไปทำงานนี้ ทำงานไม่สำเร็จไม่ว่า หยินฮว่าถูกคนฆ่าแล้ว!
จะไม่โกรธได้อย่างไร!
เวสวียนเจิ้นคำนวณได้ว่าสำนักเจ็ดพิฆาตจะเป็นอุปสรรคในนั้น เพื่อความไม่ประมาณ ถึงได้ให้ไม้ตายที่ช่วยชีวิตกับหยินฮว่า นั่นก็คือยาเพิ่มแดน มียาตัวนี้ ราวกับโกง ต่อให้รองผู้นำทั้งห้าคนของสำนักเจ็ดพิฆาตลงมือพร้อมกัน เขาหยินฮว่าก็ไม่ถึงกับถูกฆ่า!
“ราชา อย่าได้โมโห โมโหมากจะทำร้ายร่างกาย!”ผู้อาวุโสจางพูดอย่างกระวนกระวายใจ
“แกให้ฉันอย่าโมโห! อย่าโมโหยังไง! หา!”
เสียงคำรามนี้ ทำให้กลัวจนผู้อาวุโสจางคุกเข่าลงกับพื้นในทันที และกลัวตัวสั่นงันงกไม่กล้าพูด
“ตอนนั้นใครสัญญากับฉันว่า เทพเจ้าแห่งสงครามร่วงหล่นอยู่ที่ภูเขาทิพท์ พวกเราควรดันทุรังเดินหน้าแผนการ ปราศจากอุปสรรคอย่างจอมพลโผ้จวิน พวกเราสามารถที่จะทุนน้อยได้ผลตอบแทนคุ้มค่า แต่ว่าตอนนี้ล่ะ? เพราะว่าพวกเรารีบร้อนเกินไปจนไม่ระมัดระวัง ไม่เพียงเปิดเผยองค์กรสัตว์เพลิงอยู่ตรงหน้าของสำนักเจ็ดพิฆาต ยังได้รับบาดเจ็บสาหัสจากเรื่องนี้ นำไปสู่ควายตายของหยินฮว่าถังจู่(แปลว่าหัวหน้า)สาขาเหลือง และหลายร้อยคนทั้งสาขาเหลืองตายด้วยเรื่องนี้ แต่ไหนแต่ไรมาตัวตลกคือตัวของฉันเอง! ฉันกลับไม่ได้สังเกตเลย”
จิตใจของผู้อาวุโสจางก็สั่นเทา นี่คือตั้งใจจะคิดบัญชีย้อนหลัง!
“เป็นพวกแก! ทั้งหมดนี้ก็ล้วนเป็นพวกแกคิดว่าตัวเองเป็นใหญ่ ก่อให้เกิดโศกนาฏกรรมในวันนี้! เป็นฉันที่ได้ข่าวลือแล้วเชื่อ ถูกพวกแกสะกดจิต หมกมุ่นในนั้น ทะเยอทะยานเกินตัว รีบร้อนเกินไปจนไม่ระมัดระวัง พวกแกจะต้องชดใช้กรรมในเรื่องนี้!”
ทุกคนในห้องโถงสั่นเทาอีกครั้ง คุกเข่าลงบนพื้น และสั่นเหมือนตะแกรง
เมื่อเทียบกับความโกรธของเวสวียนเจิ้น จอมพลโผ้จวินไม่เคยร่วงหล่นถึงได้เป็นภูเขากดทับอยู่ในใจของพวกเขา ความโกรธของจอมพลโผ้จวิน ไม่มีใครหยุดยั้งได้!
ผู้อาวุโสจางเหงื่อเต็มหัว พูดอย่างสั่นเทา: “ราชา เรื่องราวยังไม่ถึงขั้นนั้น ต่อให้จอมพลโผ้จวินแกล้งตายแล้วยังไง? พวกเราก็ไม่ได้แย่ อย่างเขาคนเดียวก็สามารถพลิกผันอุปสรรคมากมายอะไรได้ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีอีกตรงจุดนี้ นั่นก็คือโหยวฟาง มีจอมพลโผ้จวินไปจัดการโหยวฟางกลับช่วยพวกเราหมดห่วงความต้องการไป!”
เวสวียนเจิ้นที่โกรธฟังไม่เข้าไป จ้องมองผู้อาวุโสจางอย่างโกรธจัด และพูดอย่างเยือกเย็น: “แกคิดว่าจอมพลโผ้จวินปัญญาอ่อนเหมือนกับแกเหรอ? ถ้าแกเอาความสามารถประจบสอพลอใช้ในทางที่ถูกต้อง ตอนนี้ก็ไม่ถึงกับเป็นเพียงคนแก่คนหนึ่ง!”
ผู้อาวุโสจางหมดคำพูด และยิ้มแย้ม“ราชา พูดถูก คนแก่ใช้ไม่ได้”
“ไสหัวไป ไสหัวออกไปให้หมด!”
ทุกคนในห้องโถงหนีกระเจิดกระเจิง ท่าทางนั้นแทบอยากจะให้ขางอกเพิ่มมาหลายข้าง!
สีหน้าของเวสวียนเจิ้นที่ทรุดตัวลงบนเก้าอี้มังกรก็เยือกเย็นน่ากลัว และพูดอย่างเยือกเย็นว่า: “ผู้นำจอมพลโผ้จวิน ทำให้ผู้คนเปลี่ยนมุมมองใหม่จริงๆ!”
อากาศข้างหลังชักกระตุกเล็กน้อย เวสวียนเจิ้นเปลี่ยนแปลงจากความสิ้นหวัง แทนที่ด้วยความเยือกเย็น“แกมาดูเรื่องตลกของฉันเหรอ?”
ไอ้ชุดเผ่าดำปรากฏตัว ส่ายหน้าพูดว่า: “ราชา เส้นทางแห่งการเติบโตไม่สามารถที่จะทุกอย่างราบรื่น พระถังซัมจั๋งอัญเชิญพระไตรปิฎกยังผ่านความยากลำบากเก้าๆแปดสิบเอ็ด และในที่สุดเขาก็กลายเป็นพระพุทธเจ้า ราชา เส้นทางการเติบโตผ่านการล้มลุกคลุกคลาน ถึงได้ประโยชน์ไม่น้อยของประสบการณ์อันล้ำค่า!”
“พ่ายแพ้ครั้งหนึ่ง ไม่สามารถยันยืนได้ทุกอย่าง!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ