สถานการณ์เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน!
ฟางเหยียนยังไม่ตาย!
ไม่ใช่ไม่ตายเท่านั้น แต่ดูเหมือนจะลงมือแล้ว!
ก่อนที่จะตาย พวกเขาทั้งสามคนยังคงไม่เข้าใจ การฟางเหยียนชี้นิ้วไปที่พวกเขา มันหมายความว่าอย่างไร!
ดูเหมือนนิ้วที่ชี้มานั้นจะเป็นการเหยียดหยามอย่างแรง!
การทำลายล้างไม่สูง แต่มีความเหยียดหยามอย่างรุนแรง!
ไม่ถูกสิ! การทำลายล้างค่อนข้างสูง เพราะทั้งสามคนรู้สึกว่าชีวิตของพวกเขากำลังจะสิ้นสุดแล้ว และความเร็วนั้นมันเร็วจนน่าสะพรึงกลัว!
ยังไม่ทันได้ทำอะไรทั้งสิ้น!
ทั้งสามคนตายแล้ว ขณะที่ยังมองไม่ชัดเจนว่าเขาลงมืออย่างไร!
ตุ๊บ!……
ทั้งสามคนล้มลงบนพื้นและเสียชีวิตทันที
ผู้คนที่อยู่ข้างหลังเขาต่างหวาดกลัว ฉากที่รุนแรงและน่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ทำให้ท้องฟ้าและโลกเปลี่ยนสี เพราะฟางเหยียนนั้นสามารถจัดการพวกเขาได้อย่างง่ายดาย? เขามีความแข็งแกร่งขนาดไหน? ในบรรดาพวกเขาคนที่ตกใจที่สุดคือชิงตี้ ตั้งแต่ฟางเหยียนฟื้นขึ้นมา เธอไม่สามารถเดาความแข็งแกร่งของเขาได้ สิ่งเดียวที่เธอสัมผัสได้คือฟางเหยียนแข็งแกร่งและแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
ไอ้ชุดเผ่าดำเป็นคนตกใจที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะเขารู้ว่าพลังที่ผู้อาวุโสทั้งสามปล่อยออกมานั้น กล่าวว่าอยู่ในระดับปรมาจารย์ก็ไม่เกินไป แต่ทั้งสามคนกลับไม่สามารถรับได้แม้แต่กระบวนท่าเดียว เขาแข็งแกร่งขนาดไหน? เขายังเป็นฟางเหยียนที่พวกเขาคิดว่าป่วยอยู่อีกหรือไม่?
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง ไอ้ชุดเผ่าดำกล่าวว่า “จอมพล นี่คือหุบความตาย ถ้าข้ามหุบความตายไปแล้ว คุณจะเห็นตำหนักเทพคุนหลุน”
ตำหนักเทพคุนหลุน เป็นชื่อที่ดี!
กองทัพยังคงเดินหน้าต่อไป
ตอนนี้ไอ้ชุดเผ่าดำเข้าใจแล้ว กล่าวได้ว่าการกระทำของฟางเหยียนนั้น ถ้าไม่บรรลุวัตถุประสงค์เขาจะไม่ยอมรามือแน่นอน และไม่มีความลังเล ดังนั้นเขาจึงได้เล่าประวัติความเป็นมาของตำหนักเทพคุนหลุนและสถานการณ์ต่าง ๆ อย่างละเอียด กล่าวได้ว่าเขาเล่าทุกอย่างที่รู้โดยไม่ปกปิดแม้แต่น้อย และตอนนี้ไม่มีใครรู้ว่าเขาคิดกำลังอะไรอยู่ แต่เขารู้สึกว่าการยั่วยุฟางเหยียนนั้นเป็นความผิดพลาดที่ใหญ่สุด!
หลังจากรู้ว่านินจาระดับต้าชี่มากมายทำหน้าที่เฝ้าตำหนักเทพคุนหลุน รองผู้นำตกใจเล็กน้อย แน่นอนว่าองค์กรที่ดำรงอยู่ยืนยาวกว่าสองพันปี ความแข็งแกร่งนั้นไม่ธรรมดาแน่นอน!
ไม่มีใครรู้ว่าทำไมฟางเหยียนถึงมาอย่างเอิกเกริก ทุกคนรู้เพียงสิ่งเดียว นั่นคือองค์กรสัตว์เพลิงไม่สามารถหลีกหนีความตายได้!
หลังจากเดินทางครึ่งชั่วโมง ทุกคนเห็นตำหนักเทพคุนหลุนจากระยะไกล ตำหนักสวยงามวิจิตรตระการตาเหมือนพระราชวังปรากฏขึ้นต่อหน้าทุกคน และทำให้คนไม่น้อยรู้สึกอิจฉาความมั่งคั่งเช่นนี้ ซึ่งงดงามมากกว่าตำหนักของจักรพรรดิสมัยโบราณเสียอีก และตำหนักของจักรพรรดิโบราณนั้นยังไม่สามารถเทียบตำหนักเทพคุนหลุนได้!
ทุกคนไม่คิดว่าจะมีตำหนักที่งดงามวิจิตรตระการตาตาเช่นนี้อยู่ในคุนหลุน!
เมื่อเทียบกับตำนานเล่าขานเหล่านั้นแล้ว ตำหนักเทพคุนหลุนเป็นตำนานเล่าขานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภูเขาคุนหลุน!
กองทัพทรงพลังและน่าเกรมขาม กองทหารม้าเกราะ เสียงดังกึกก้องไปทั่ว ปรากฏตัวต่อหน้าทุกคน ทำให้คนที่เฝ้าประตูตกตะลึงอยู่พักใหญ่ และไม่อยากจะเชื่อ นึกไม่ถึงว่าผู้คนมากมายพวกนี้จะสามารถผ่านหุบความตายมาได้!
ผู้อาวุโสทั้งสามคนอยู่ที่ไหน?
ไม่มีใครตอบคำถาม สิ่งที่ตอบพวกเขามีแต่ความตายเท่านั้น!
ฆ่าทันทีที่เห็นคนโดยปราศจากเงื่อนไขใด ๆ!
ฟางเหยียนเดินขึ้นไปบนบันไดที่ส่องประกายสีทอง ทุกย่างก้าวที่เดินทำให้เจตนาฆ่าบนใบหน้าเด่นชัดขึ้น สิ่งที่เท้าเหยียบอยู่นั้น ไม่รู้ว่าต้องฆ่าเผาแย่งชิงทรัพย์สินและชีวิตของประชาชนมากเพียงใด ถึงจะสามารถสร้างอาคารที่สง่างามน่าเกรงขามเช่นนี้ได้!
เป็นดังที่ไอ้ชุดเผ่าดำเคยกล่าว แม้แต่คนที่เฝ้าประตูยังเป็นนินจาระดับต้าชี่ ซึ่งก็เพียงพอที่จะทำให้เห็นว่าภูมิหลังขององค์กรสัตว์เพลิงนั้นแข็งแกร่งเพียงใด!
ตราบใดที่ยังไม่ได้กำจัดองค์กรสัตว์เพลิง เขาจะไม่มีวันสบายใจ!
ปราบ ปราบอย่างรุนแรง และปราบจนคนที่เฝ้าประตูไม่มีแรงจะโต้ตอบ!
ขณะนี้ คนจำนวนมากสวมชุดยาวปรากฏขึ้นตรงขั้นบันได ถึงแม้ว่าทุกคนที่ปรากฏตัวจะเห็นเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้า แต่เปลือกตาก็อดไม่ได้ที่จะกระตุกอย่างดุเดือด
คนที่มาเยือนมากมาย และการกระทำนั้นโหดเหี้ยม แทบไม่ให้โอกาสทุกคนได้ตอบโต้ มีความโกรธแค้นมากขนาดไหน!
ไอ้ชุดเผ่าดำลังเลอยู่ครู่หนึ่ง “เซียวเหยาจื่อ ถ้าคุณไม่เสแสร้งอีก คุณอาจจะยังมีชีวิตรอด!”
“คุณจะให้ผมขอความเมตตากับเจ้าหนูที่ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมหรือ? ฮ่า ๆ ๆ......” เซียวเหยาจื่อลูบเคราแล้วหัวเราะเสียงดัง ยิ่งหัวเราะ เสียงหัวเราะก็ยิ่งเย็นชาขึ้นเท่านั้น “ไอ้ชุดเผ่าดำ อย่างไรเสียคุณก็เคยเป็นอาจารย์ของท่านราชา ไม่คิดว่าคุณจะกล้าทำผิดศีลธรรมเช่นนี้ได้ คุณทำให้ท่านราชาต้องอับอาย ก็ควรต้องทนรับความพิโรธของท่านราชา อ้อ! แล้วใครเป็นคนที่ทำให้คุณพิการ?”
ยโสโอหัง!
นี่คือทัศนคติของถังจู่ของสาขาดำ!
ไอ้ชุดเผ่าดำพูดไม่ออกอยู่ชั่วขณะ และอดไม่ได้ที่จะกล่าวพึมพำว่า “ทุกวันนี้พูดความจริงแต่ไม่มีใครเชื่อ ยโสโอหัง ไม่เห็นใครอยู่ในสายตา!”
“คุณกล่าวพึมพำอยู่ที่นั่นทำไม?” เซียวเหยาจื่อกล่าวอย่างเย็นชา “ไอ้ชุดเผ่าดำ เนื่องจากไม่ใช่พวกเดียวกันแล้ว งั้นผมจะช่วยท่านราชากำจัดคนชั่วขององค์กรสัตว์เพลิงอย่างคุณ คุณจัดการตนเองเถอะ มือของผมจะได้ไม่สกปรก!”
บ้าคลั่ง!
หยิ่งยโส!
ถ้าเป็นเมื่อก่อน ไอ้ชุดเผ่าดำจะไม่กล้าล่วงเกินเซียวเหยาจื่ออย่างแน่นอน ถึงแม้ว่าตนเองจะเป็นอาจารย์ผู้มีพระคุณของเสวียนเจิ้น เป็นกุนซือผู้อาวุโส และมีตำแหน่งสูง แต่ตั้งแต่ต้นจนจบนั้นตนเองไม่มีอำนาจที่แท้จริง จำเป็นต้องกล่าวถึงถังจู่สาขาดำ ถังจู่สาขาดิน และถังจู่สาขาฟ้า เพราะพวกเขาเป็นแกนหลักสำคัญขององค์กรสัตว์เพลิงอย่างแท้จริง และถ้าเป็นช่วงเวลาสำคัญพวกเขาจะมีอิทธิพลต่อเสวียนเจิ้น นอกจากถังจู่สาขาเหลืองแล้ว สามคนนี้ครอบครองพลังอำนาจอย่างแท้จริง ซึ่งกล่าวได้ว่าเป็นส่วนสำคัญของขุมพลังที่แท้จริง
คำสั่งของถังจู่สามคน มีอำนาจสูงสุด!
ถ้าเป็นก่อนหน้านั้นเขาจะต้องปฏิบัติตามแน่นอน แต่ตอนนี้เขาไม่เพียงแต่ไม่ปฏิบัติตาม แต่กลับเพิกเฉย
เพราะอย่างไรตอนนี้มีเขาเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถสัมผัสได้ถึงความน่าสะพรึงกลัวของฟางเหยียน และเป็นคนแรกที่เข้าใจฟางเหยียนอย่างแท้จริง แค่เห็นแก่นแท้ของเรื่อง ก็จะไม่ถูกคนอื่นปิดบังความจริง สามารถชั่งน้ำหนักข้อดีและข้อเสียได้ดีขึ้น และได้รับการแก้ไขปัญหาที่เหมาะสม!
สิ่งที่น่าเศร้าก็คือทุกคนในองค์กรสัตว์เพลิงนั้นหยิ่งยโสเสมอแต่ไร้ฝีมือ ถึงตอนนี้แล้วยังไม่สามารถเห็นแก่นแท้ของเรื่องได้!
ตามคำกล่าวที่ว่า คุณไม่สามารถปลุกคนที่แกล้งหลับได้!
เมื่อเป็นเช่นนั้น ไอ้ชุดเผ่าดำจึงไม่อยากสนใจ และกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ผมอยู่ที่นี่แล้ว คุณเข้ามาฆ่าผมสิ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ