“โอเค! ไอ้ยาจกคุณเตรียมตัวแพ้เถอะ ถึงเวลาอย่าปฏิเสธความรับผิดชอบ ต้องยอมรับเมื่อตนเองพ่ายแพ้ ลุงลู่คุณเป็นพยานน่ะ”
เมื่อเฝิงจื่อฉายพูดจบก็พาเหอลี่ฉุนและคนอื่น ๆหันหลังเดินออกไป ฮั่วเจี้ยนเฟิงลังเลสักครู่ แล้วก็เดินตามหลังเฝิงจื่อฉายไป
เมื่อเห็นเฝิงจื่อฉายและคนอื่นๆ เดินออกไปแล้ว ลู่เจี้ยนปินกล่าวด้วยความกังวลว่า “คุณหลี่ คุณประมาทไปแล้ว หินหยกธรรมชาติหมายเลข 9 นั้นมีคุณภาพดีที่สุดในบรรดาหินธรรมชาติกลุ่มนี้ ผู้เชี่ยวชาญหลายคนต่างดูมาแล้ว หินหยกธรรมชาติหมายเลข 9 สามารถตัดออกมาเป็นหยกสีเขียวมรกต ซึ่งชิ้นอื่นๆไม่สามารถเทียบได้”
กู้หยุนหลันเริ่มกังวลขึ้นมา เธอใช้สองมือจับแขนของหลี่โม่ไว้แน่น “หลี่โม่ คุณ....คราวนี้คุณประมาทจริง ๆ”
หลี่โม่พลิกดูรายการประมูล และเหลือบดูรายการประมูลหินหยกธรรมชาติคร่าวๆ ยิ้มและกล่าวว่า “ไม่ต้องกังวล พวกเขาไม่สามารถชนะได้”
ลู่เจี้ยนปินเอามือทั้งสองปิดหน้าตนเอง เขาไม่รู้ว่าหลี่โม่เอาความมั่นใจมาจากไหน หินธรรมชาติเหล่านั้นลู่เจี้ยนปินเป็นคนจัดประมูล และเขารู้ดีว่าหินธรรมชาติพวกนั้นมีคุณภาพอย่างไร
“คุณหลี่ หินธรรมชาติเหล่านี้ล้วนผ่านมือผม ผมมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับหินธรรมชาติเหล่านี้ แม้จะมีคำกล่าวไว้ว่า ผู้เชี่ยวชาญก็ไม่สามารถแน่ใจได้เต็มร้อย แต่จากประสบการณ์ที่สะสมมา สำหรับหินหยกธรรมชาติผมยังสามารถบอกเบาะแสบางอย่างได้”
หลี่โม่พยักหน้า กล่าวอย่างใจเย็นว่า ”ผมรู้ ขอบคุณในความหวังดีของเถ้าแก่ลู่”
“อึม”
ลู่เจี้ยนปินถอนหายใจ และหยุดห้ามปรามหลี่โม่
ฉู่จงเทียนเดินกลับเข้ามา แล้วเดินไปหาหลี่โม่จากนั้นกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “คนพวกนั้นไปกันหมดแล้ว? ไอ้สารเลวจางจงหยางเป็นคนที่มีความทะเยอทะยานสูงมาก ต่อไปเราต้องให้เขารู้ซึ้งถึงความเจ็บปวด”
ลู่เจี้ยนปินดึงตัวฉู่จงเทียน เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่ให้ฉู่จงเทียนฟัง
“ท่านเทียน ผมพยายามเต็มที่แล้ว แต่ผมก็ไม่สามารถเกลี้ยกล่อมคุณหลี่ได้”
ลู่เจี้ยนปินกล่าวอย่างลำบากใจ
“ไม่เป็นไร คุณหลี่บอกว่าสามารถชนะได้ ก็ต้องสามารถชนะได้อย่างแน่นอน”
ลู่เจี้ยนปินพูดไม่ออกอยู่พักหนึ่ง ไม่สามารถเข้าใจได้ว่าทำไมฉู่จงเทียนถึงเชื่อในตัวหลี่โม่มากขนาดนี้
หลี่โม่กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “พวกคุณจะไปไหนก็ไปไหนเถอะ ไม่ต้องมารอที่นี่แล้ว”
ฉู่จงเทียนมีปฏิกิริยาตอบสนองอย่างรวดเร็ว รู้ว่าหลี่โม่อยากอยู่สองต่อสองกับกู้หยุนหลัน
“คุณหลี่ พวกเรานั่งอยู่ข้างหน้า ถ้าคุณมีอะไรก็สามารถสั่งได้โดยตรง”
เมื่อฉู่จงเทียนพูดจบ ก็ดึงลู่เจี้ยนปินเดินไปนั่งตรงที่นั่งข้างหน้า
“คุณแน่ใจจริง ๆหรือ?”
กู้หยุนหลันถามเสียงเบา ๆ
“มั่นใจแน่นอน คุณอย่ากังวลไปเลย”
หลี่โม่กล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ที่ฉู่จงเทียนเคารพคุณเช่นนี้ เป็นเพราะเฉียนฝูจริงหรือ?”
กู้หยุนหลันอดไม่ได้ที่จะถาม
หลี่โม่พยักหน้า “เป็นเพราะเฉียนฝูจริง ๆ”
กู้หยุนหลันยังอยากถามต่อ ขณะหวังฟางและกู้เจี้ยนหมินเดินเข้าไปพร้อมกัน ยังมีคนจำนวนมากเดินเข้ามาร่วมการประมูล
เมื่อสักครู่คนเหล่านั้นกำลังดูงานโชว์ตัวอย่าง แต่ตอนนี้งานโชว์ตัวอย่างสิ้นสุดลงแล้ว และกำลังจะถึงเวลาประมูล ดังนั้นคนที่ดูงานโชว์ตัวอย่างเสร็จจึงเดินเข้ามาในห้องประมูล
กู้เจี้ยนหมินลำพองใจ เขายังคงพึมพำว่าหยกชิ้นนั้นดีแค่ไหน หวังฟางกล่าวอย่างหงุดหงิดว่า “มีอะไรน่าพึมพำ ถึงคุณจะชอบแต่ก็ไม่มีเงินซื้อ ก็เหมือนกับลูกเขยเศษสวะของคุณ แม้แต่หยกที่แตกหักก็ยังไม่มีปัญญาซื้อ”
“ฉันก็ไม่เคยหวังกับไอ้คนไร้ประโยชน์ มันคงจะดีถ้ามีลูกเขยที่มีความสามารถ หยกสีเขียวชิ้นนั้นดูไม่เลว เสียดายราคาจะต้องสูงมาก ดังนั้นฉันจึงทำได้เพียงแค่มองชื่นชมเท่านั้น”
กู้เจี้ยนหมินเหล่มองหลี่โม่ ส่ายศีรษะด้วยความเหยียดหยาม
“ผมจะไม่ปล่อยเขาไว้แน่นอน การแทงตนเอง3ครั้ง 6รู(แทงทะลุต้นขา3ครั้ง)ในครั้งนี้เขาจะต้องชดใช้เป็นทวีคูณ!”
“ผมได้พนันกับไอเศษสวะนั้นแล้ว สุดท้ายผมก็จะชนะมันอย่างแน่นอน ชนะมันแล้วมันก็จะต้องแทงตนเอง3ครั้ง 6รู(แทงทะลุต้นขา3ครั้ง)ก็ถือเป็นดอกเบี้ย รอเฮียหยางรักษาตัวให้หายดีก่อน พวกเราจะบุกไปที่บ้านมัน ให้มันรู้ว่าการที่ล่วงเกินพวกเราจะมีจุดจบอย่างไร”
จางจงหยางพยักหน้า กล่าวอย่างเคียดแค้นว่า “พวกคุณแค่จัดการหลี่โม่ก็พอ ส่วนฉู่จงเทียนกับลู่เจี้ยนปินสองคนนี้ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวผมจะวางแผนจัดการเอง”
“โอเค พวกคุณรีบไปส่งเฮียหยางที่โรงพยาบาล”
เฝิงจื่อฉายและคนอื่น ๆมองดูรถเมอร์เซเดส - เบนซ์ขับออกไป จากนั้นก็เดินเข้าไปในห้องประมูล
“เฮียหยางดูน่าสงสารจริงๆ เฮียฉายถึงจะเรียกว่าเก่งจริง ที่สามารถพลิกการแข่งขันในช่วงวิกฤติได้ ต่อไปต้องอาศัยเฮียฉายพาพวกเราไปจัดการไอ้เศษสวะนั้นแล้ว”
“จะต้องสั่งสอนไอ้ยาจกนั้นอย่างสาสม พวกเราถึงจะหายแค้นได้ กล้ามาหยิ่งผยองในเมืองจินไห่ที่เป็นเขตอิทธิพลของพวกเรา ต้องฆ่ามันให้ตาย”
เหอลี่ฉุนและลูกคนรวยคนอื่น ๆ ต่างก็เคียดแค้น และอยากคิดจะฆ่าหลี่โม่ให้ตาย เพื่อจะได้ไม่เป็นภัยในภายหลัง
ฮั่วเจี้ยนเฟิงกะพริบตา แล้วกล่าวตามว่า “คุณเฝิง อีกสักครู่ฉันจะไปนั่งกับพวกเขา เพื่อเป็นสายลับให้พวกคุณ”
“ฮ่า ๆ ๆ ข้อเสนอของเจี้ยนเฟิงไม่เลว งั้นคุณก็ไปเป็นสายลับ อย่าเปิดเผยตัวตนก่อนการประมูลล่ะ เพราะความสนุกจะเกิดขึ้นหลังจากการประมูล”
เฝิงจื่อฉายจ้องมองไปที่ฮั่วเจี้ยนเฟิง ด้วยแววตาที่ข่มขู่
“ไม่เป็นเช่นนั้นแน่นอน เพราะผมมีความแค้นกับไอ้ไร้ประโยชน์เช่นกัน เฮียฉายรู้ดี”
เฝิงจื่อฉายตบไปที่ไหล่ของฮั่วเจี้ยนเฟิง จากนั้นก็พาเหอลี่ฉุนและคนอื่น ๆเดินเข้าไปในห้องประมูลก่อน
ตอนนี้เหลือเพียงฮั่วเจี้ยนเฟิงอยู่คนเดียว เขาเดินเข้าไปเพียงลำพังด้วยความอุดอู้ ในใจยังนึกถึงภาพที่ฉู่จงเทียนสนับสนุนหลี่โม่ คิดยังไงก็ไม่เข้าใจว่าเป็นเพราะอะไร?
“ไม่มีเหตุผล จะต้องสืบให้กระจ่างชัดว่ามันเป็นเพราะอะไร”
ฮั่วเจี้ยนเฟิงเดินเข้าไปในห้องประมูล ไปนั่งข้างหลี่โม่ จ้องมองหลี่โม่แล้วกล่าวว่า “คุณรู้จักท่านเทียนจริงหรือ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิมังกร
อ่านมาถึงตอน 263 เน่าสนิท ไอ้คนเขียนก็ช่างมีความอดทน มีแต่เรื่องดูถูกโง่ๆ หลายร้อยรอบ วนอยู่อย่างนั้น กุก็ทนอ่านอยู่ได้...
อ่านสนุกมากเลยครับ...