จักรพรรดิมังกร นิยาย บท 29

บทที่ 29 ตัวตนถูกเปิดเผย

ตอนนี้หวังฝู้เสียงโกรธมาก!

หลี่โม่คนนี้ รนหาที่ตายรึไง? ถึงได้กล้าไปขวางพรมแดงของเจ้านายคนใหม่

“หลี่โม่ ยืนบื้ออยู่ทำไม? รีบหลบไป” หวังฝู้เสียงชี้หลี่โม่ แล้วดุด่า

เมื่อครู่นี้ไม่ได้ตบสั่งสอนมันไป เสียดายจริงๆ !

หลี่โม่ก็ขมวดคิ้ว ตำแหน่งที่ตนเองยืนมันผิดหรือ?

หวังฝู้เสียงคิดในใจ มึงไม่เดินออกไปใช่ไหม

ได้ มึงเก่ง แต่เดี๋ยวมึงก็รู้ว่าจะเก่งแค่ไหน!

“เหอะๆ มึงเสร็จแน่หลี่โม่ ผู้จัดการหวังโมโหหนักแล้ว”

“เรื่องเมื่อครู่นี้ยังไม่จบเลย คิดว่าคงจะต้องรวบยอดทีเดียวเลย”

“เบาๆ หน่อย เดี๋ยวผู้จัดการได้ยิน ไม่เช่นนั้น พวกเราก็จะโดนร่างแหไปด้วย!”

พนักงานคนอื่นๆ ซุบซิบกัน กลุ่มคนในนั้น ก็มองแล้วสะใจ

ภายในพวกเขาก็ทำกับหลี่โม่ไว้เยอะ เดี๋ยวจะเหงื่อตกตามกัน

แม้แต่ตอนนี้โจวเฟิงฮั่วก็มองไปที่หลี่โม่ ถ้าไม่ใช่เพราะกู้หยุนหลันของตระกูลกู้มาขอไว้ เขาก็คงไม่รับเขามาทำงาน

ดังนั้น เขาก็พูดกับหวังฝู้เสียงนิ่งๆ ว่า “หาเวลา ไล่มันออกไปเสีย แล้วให้เงินเดือนมันไป3เดือน”

หวังฝู้เสียงก็ฟังรู้เรื่อง แล้วรับพยักหน้า “ได้ครับเจ้านาย แต่ว่า ให้เงินเดือนไป3เดือนนั้น ผมว่าไม่ต้องแล้ว เมื่อครู่นี้ มันลวนลามลูกค้า คงจะต้องชดใช้เสียด้วยซ้ำ”

โจวเฟิงฮั่วได้ยินดังนั้น ก็ยักคิ้ว พูดใบหน้าโกรธๆ ว่า “ลวนลามผู้หญิงงั้นหรือ? เรื่องนี้ แกไปจัดการให้ดี อย่าให้เจ้านายคนใหม่รู้เรื่องที่ไม่ดี”

หวังฝู้เสียงพยักหน้า “ได้เลยครับ ให้ผมจัดการเอง”

พูดจบ โจวเฟิงฮั่วก็จัดชุดสูทตนเอง เดินออกไป เดินยิ้มไปทางรถRolls-Royce

ส่วนหวังฝู้เสียงก็นายว่าขี้ข้าพลอย ยืนมือไพล่หลัง เชิดหน้าเชิดตามองหลี่โม่ “หลี่โม่ เจ้านายโจวบอกว่า แกเก็บของออกไปได้แล้ว!”

หลี่โม่ก็มองหวังฝู้เสียงนิ่งไ แล้วพูดว่า “พวกปัญญาอ่อน”

คำว่าปัญญาอ่อนนี้ คนในเหตุการณ์ล้วนได้ยินหมด ทุกคนก็มองหลี่โม่ด้วยสายตาแปลกๆ

เขาอยากจะแตกหัก ไม่ทำงานแล้วหรือไง?

หวังฝู้เสียงก็โมโหมาก มือชี้ไปที่หน้าอกของหลี่โม่ ดุด่าว่า “เห้ย ไอ้กระจอก เก่งจริงลองด่ามาอีกทีสิวะ!”

หลี่โม่หัวเราะฮ่าๆ “ได้สิ เป็นข้อเสนอที่แปลกดี เดี๋ยวจัดให้ ปัญญาอ่อน บ้านมึงปัญญาอ่อนทั้งบ้าน”

“ไอ้สัตว์ หลี่โม่ มึงตายแน่ ตอนนี้มึงไม่เพียงถูกไล่ออก เดี๋ยวกูจะแจ้งความว่ามึงลวนลามผู้หญิงด้วย อย่างน้อยจะต้องถูกขัง10กว่าวัน อีกอย่าง มึงต้องชดใช้ค่าเสียชื่อเสียงของร้าน และเงินปลอบขวัญให้คุณฟางด้วย”

หวังฝู้เสียงพูดเป็นตุเป็นตะ โกรธจนหน้าเขียว

หลี่โม่คนนี้ ไม่กลัวอะไรสะเลย บ้าจริงๆ !

เขาต้องรู้สิ ว่าเขาเป็นเพียงแค่พนักงานชั้นต่ำ เป็นคนที่ต้องถูกกดขี่ แต่กล้ามาด่ากูเฉย?

คอยดูกูจะจัดการมึง!

ทันใดนั้น!

รถRolls-Royceก็เปิดประตูออก เป็นชายแก้สวมชุดสูททักสิโดถือไม้เท้าเดินลงมา ใบหน้าโกรธๆ แล้วตวาดว่า “บังอาจ ใครกล้าจะไล่ จะแจ้งความกับนายน้อย!”

จากนั้น ชายแก่นั้นก็เดินผ่านโจวเฟิงฮั่วที่กำลังยิ้มแฉ่ง ภายในสายตาที่ตกใจของทุกคน เขาก็เดินมายังด้านหน้าหลี่โม่

ยืนตรง โค้งตัว ก้มหัว

ทำลงไปในครั้งเดียว ไม่มีต้องอะไรมาก แต่เต็มไปด้วยการเคารพ

“นายน้อยครับ ผมมาช้าไปหน่อย” เฉียนฝูพูดอย่างเคารพ

เสียงไม่ดัง แต่กลับสะเทือนไปทั้งกลุ่มคนที่มาต้อนรับ

นายน้อยงั้นหรือ?

หือ ทุกคนก็หายใจเข้าอย่างตกใจพร้อมกัน!

หลี่โม่มันกลายเป็นนายน้อยเลยหรือ?

นี่มันอะไรกัน?

โจวเฟิงฮั่วก็ยังอึ้งอยู่ที่เดิม สีหน้าแหยๆ ที่ปากก็ยิ้มแห้ง

หวังฝู้เสียงก็ตกใจจนต้องอ้าปากค้าง พูดอย่างสงสัยว่า “คุณครับ คุณก็คือเจ้านายคนใหม่ของร้านเราใช่ไหมครับ ไหนบอกว่าเป็นหนุ่มอยู่ไม่ใช่หรือ อีกอย่าง คุณมาที่นี่ทำไมกัน? หลี่โม่มันเป็นลูกน้องของร้านเราครับ คุณจำผิดหรือเปล่า?”

เฉียนฝูก็เหลือบไปมองเขา

ไอ้มดน้อยตัวนี้ คงจะไม่รู้ว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา เป็นถึงมังกรทองในโลกมนุษย์

โจวเฟิงฮั่วขมวดคิ้ว แล้วก็รีบวิ่งมา พร้อมพูดอย่างเป็นกันเองว่า “ลุงเฉียน คุณอย่าล้อเล่นสิครับ พวกเราเข้าไปคุยกันในร้านเถอะ”

โจวเฟิงฮั่วมีสายเฉียบคมจะตาย พริบตาเดียวก็มองออก

เฉียนฝู เป็นมหาเศรษฐีแห่งพื้นที่ฉู่โจว เป็นบุคคลยิ่งใหญ่มีอิทธิพล

ในเมืองเล็กไอย่างเมืองฮ่าน เฉียนฝูคงจะมีลูกน้องอยู่มากมาย

แต่ว่า เฉียนฝูกลับยืนอยู่ที่เดิม ไม่ขยับตัว สีหน้าก็ยิ่งมีความเคารพมากขึ้นเรื่อยๆ สายตามองมายังโจวเฟิงฮั่วและหวังฝู้เสียง แล้วพูดอย่างไม่พอใจว่า “ผมไม่ได้ล้อเล่นกับพวกคุณ ท่านนี้ ก็คือเจ้านายคนใหม่ของร้านคุณ!”

ห๊ะ!

คนในเหตุการณ์อึ้งกิมกี่

หลี่โม่เนี่ยนะ เป็นเจ้านายคนใหม่?

แค่คำพูเดียว หวังฝู้เสียงก็เคว้งคว้างเลย

พูดจบ หลี่โม่ก็หันไปมองเพื่อนร่วมงานที่ปิดปากเงียบกริบ พูดว่า “ผมรู้ว่าในกลุ่มพวกคุณมีคนไม่ชอบผม แต่ไม่เป็นไร ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป สวัสดิการของพวกคุณจะเพิ่มเป็น2เท่า”

ในตอนนั้น เพื่อนร่วมงานที่มาล้อมกันอยู่ก็เฮกันยกใหญ่!

สวัสดิการเพิ่มขึ้น2เท่า

“เจ้านายหลี่สุดยอดจริงๆ !”

“เจ้านายหลี่ พวกเรารักคุณมากเลย!”

จากนั้น เฉินผิงก็เหลือบเห็น ฟางถิงที่หลบอยู่ด้านหลังกลุ่มคน แล้วกำลังจะหนีออกไป แล้วก็เรียกเสียงดังว่า “คุณฟาง ช้าก่อน”

มับ!

ยาม2คนก็มาขวางทางฟางถิงไว้

“พวกนายออกไปนะ” ฟางถิงพูดไล่

หลี่โม่ก็เดินไปตรงหน้า สองมือล้วงกระเป๋า แล้วจ้องมองเธอนิ่งๆ ถามว่า “เมื่อครู่คุณฟางบอกว่าผมลวนลามคุณ ตอนนี้ทุกคนก็อยู่ที่นี่ ผมจะถามอีกครั้ง ว่าผมล่วงเกินคุณหรือเปล่า?”

ฟางถิงหันหน้าไป สายจ้องโหดๆ จ้องหลี่โม่ กัดฟันพูดว่า “หลี่โม่ นายอย่าได้ใจไป นายคิดว่าอาศัยอำนาจของตระกูลกู้แล้วจะซื้อร้านนี้ได้ แล้วฉันจะกลัวนายรึไง? ฝันไปเถอะ”

พูดจบ เธอก็เอามือผลักยามออกไป เอียงไหล่เดินออกไป

ยามทั้งสองจะตามไป แต่หลี่โม่ส่ายหัวห้ามไว้ หมายความว่าไม่ต้องตามไปแล้ว

จากนั้น เขาก็มองทุกคน สายตาก็ตกไปยังผู้หญิงคนหนึ่งในนั้น ยิ้มพูดว่า “อีกเรื่อง ผมขอประกาศว่า ตำแหน่งผู้จัดการนั้น ก็ให้พี่ฉินเย่จัดการก็แล้วกัน”

ห๊ะ!

ทุกคนก็หันไปมองฉินเย่ ร่างกายสวมชุดทำงานสีดำ อกตั้ง ก้นงอน รูปร่างสวยมาก สีดำบางๆ คลุมขาขาวๆ ยาวของเธอไว้ เห็นเป็นไรๆ

ฉินเย่ก็มองหลี่โม่อึ้งๆ จนแทบจะหายไม่ทัน

ที่หลี่โม่ทำแบบนี้ ก็เพราะว่าปกติแล้วฉินเย่ดีกับเขามาก เป็นคนดี ความสามารถก็โดดเด่น

รู้กาลเทศะ รูปร่างดี สวย เหมาะสมกับตำแหน่งผู้จัดการ

และในตอนนั้นเอง ก็มีเสียงผู้หญิงส่งมาจากด้านหลังของหลี่โม่

“หลี่โม่!”

หลี่โม่หันไปดู ก็เห็นกู้หยันหลันสีหน้ารีบร้อนยืนอยู่ข้างหลังเขา “คุณ....คุณมาได้อย่างไรเนี่ย?”

จบเห่!

หลี่โม่ร้อนรน

สถานการณ์เช่นนี้ คงจะปิดบังไม่ได้แล้ว กู้หยุนหลันคงจะรู้ตัวตนที่แท้จริงของตนเองแล้ว!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิมังกร