จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 110

ย้อนกลับไปประมาณ 20 นาที

หลังจากที่จ้าวเทียนเหาะขึ้นไปสู้กับบรรพชนเซียนตระกูลจ้าวบนสมรภูมิท้องฟ้า สถานการณ์ทางจ้าวเย่ซงก็กำลังจะมีเหตุพลิกผันอีกครั้ง

เปรี้ยง!

กรงเล็บมังกรตบเข้าใส่แผ่นหลังของจ้าวหยุนปิงจนกระอักเลือดออกมา นี่คือการต่อสู้กันแบบตัวต่อตัว คนอื่นทำได้เพียงแค่ยืนดูเท่านั้น

ชิ้ง!

นั่นเพราะกระบี่ของจ้าวหนิงเซียนถูกชักออกจากฝักแล้ว หากใครกล้าแทรกแซงก็ต้องตกเป็นเป้าหมายของเธอทันที

ซึ่งในการต่อสู้ระหว่างพี่น้องตระกูลจ้าวนั้น แทบจะเป็นการลงมือฝ่ายเดียวของจ้าวเย่ซง เพราะคู่ต่อสู้ของเขาเป็นเพียงผู้เชี่ยวชาญขั้นกลาง ต่อให้อีกฝ่ายเป็นร่างหยางบริสุทธิ์ในตำนาน ก็ไม่อาจรับมือปรมาจารย์อย่างเขาได้

ตูม!

จ้าวหยุนปิงถูกอัดกระแทกพื้นอีกครั้ง สภาพของเขาตอนนี้ยับเยินเป็นอย่างมาก แต่เขาก็ยังคงกัดฟันต้านทานเอาไว้

‘ ฉันยังมีความหวัง…ขอเพียงบรรพชนจัดการจ้าวเทียนได้ พวกเราก็จะชนะในที่สุด ’

“ นี่สำหรับเรื่องที่พวกแกทำกับพ่อฉัน…มังกรสะบัดหาง! ”

จ้าวเย่ซงหมุนตัวเตะออกไปเต็มแรง ร่างจำแลงมังกรเขียวก็ฟาดหางใส่จ้าวหยุนปิงพร้อมกัน

เปรี้ยง!

แม้ว่าจ้าวหยุนปิงจะผนึกพลังปราณขึ้นมาป้องกันเอาไว้ได้ แต่กระดูกแขนข้างซ้ายของเขาก็หักเป็นชิ้นๆ

กร๊อบ!

อ้ากกก

“ แขนฉัน!…แกกล้าทำแบบนี้กับฉันเหรอจ้าวเย่ซง คอยดูเถอะหลังจากบรรพชนจัดการจ้าวเทียนเสร็จเมื่อไหร่ ฉันจะเล่นงานแกให้มากกว่านี้ร้อยเท่า ” จ้าวหยุนปิงตะโกนออกมาด้วยความโกรธ

จ้าวเย่ซงที่ได้ยินก็ชะงักไปทันที

สาเหตุที่จ้าวหยุนปิงยังยืนอยู่ได้ก็เพราะตัวตนของบรรพชนตามที่อีกฝ่ายพูดออกมา สำหรับพวกเขาตระกูลจ้าวทุกคน บรรพชนคือผู้ไร้เทียมทาน แม้แต่เซียนที่มาจากสำนักโบราณก็ยังต้องแสดงท่าทีนอบน้อมเมื่ออยู่ต่อหน้า

ในการต่อสู้ที่เกิดขึ้นบนท้องฟ้านั้น ทุกคนต่างก็คิดว่าสุดท้ายแล้วท่านบรรพชนจะต้องเป็นผู้ชนะ ทำให้ไม่รู้สึกกดดันมากนัก

แม้แต่ตัวจ้าวเย่ซงเองก็ยังไม่มั่นใจในตัวของจ้าวเทียนเต็มร้อย เขาจึงยั้งมือให้จ้าวหยุนปิง ไม่ให้อีกฝ่ายได้รับบาดเจ็บสาหัส

ในขณะที่จ้าวเย่ซงกำลังรู้สึกลังเลที่จะลงมือต่อ คนกลุ่มใหญ่ก็เดินตรงมาทางนี้ นี่คือแกนนำทั้งหมดของตระกูลจ้าวที่เข้าร่วมประชุมอยู่

“ บังอาจ!...แกกล้าทำร้ายจ้าวหยุนปิงงั้นรึ ” แม่ชีชุดเทาตวาดเสียงดัง พลังของขอบเขตเซียนขั้นกลางระเบิดออกมาอย่างรุนแรง

“ ฝ่ามือสามสุดยอด! ”

ฝ่ามือสีทองผนึกตัวขึ้นจากความว่างเปล่าตรงหน้าจ้าวเย่ซง พลังงานมหาศาลกดทับร่างเขาเอาไว้ไม่ให้หลบหนี

“ กล้าลงมือกับหลานฉันงั้นเรอะ! ”

เห็นเพียงจ้าวหนิงเซียนขยับข้อมือเล็กน้อย รังสีกระบี่สายหนึ่งก็ถูกปลดปล่อยออกมาในพริบตา

ฉับ!

เงาฝ่ามือสีทองถูกฟันขาดครึ่งในทันที พลังที่ผนึกร่างของจ้าวเย่ซงเอาไว้ก็สลายไป เปิดโอกาสให้เขาได้ถอยหลบออกมา

ตอนนี้มันได้กลายเป็นการเผชิญหน้ากันระหว่างจ้าวหนิงเซียนกับแม่ชีชุดเทาเรียบร้อยแล้ว แม้ว่าจะยังไม่มีใครเป็นฝ่ายเริ่ม แต่บรรยากาศกดดันที่แผ่ออกมาก็ทำให้ผู้คนที่อยู่รอบๆรู้สึกแน่นหน้าอก

ทันใดนั้นคนกลุ่มใหญ่ก็เปิดทางออกให้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาดูอาการของจ้าวหยุนปิง เขาดูมีอายุประมาณ 50 ปี

เพราะฝึกฝนร่างกายมาอย่างดีจึงยังดูแข็งแรงเต็มไปด้วยพลัง ด้วยออร่าที่เขาปล่อยออกมา ทำให้ทุกคนในตระกูลจ้าวต้องก้มหน้าลงด้วยความเคารพหวาดกลัว

“ หยุนปิง…เป็นอย่างไรบ้าง ” จ้าวเหวยเฟิงถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง เหตุผลที่เขาสามารถขึ้นเป็นผู้นำตระกูลได้ ก็เพราะความสามารถของลูกชายทั้งนั้น

ถ้าเกิดอะไรกับลูกชายเขาขึ้นมา จุดจบของพวกเขาคงเลวร้ายแน่นอน เพราะกว่าจะมาถึงจุดนี้ เขาได้สร้างศัตรูเอาไว้มากมาย หากวันใดเขาเกิดล้มลง ก็คงถูกคนพวกนั้นฉีกออกเป็นชิ้นๆ

“ ผมไม่เป็นอะไรครับพ่อ…แค่แขนหักข้างเดียวเท่านั้น ” ในตอนที่จ้าวหยุนปิงพูด เขาก็ได้มองไปทางจ้าวเย่ซงด้วยความโกรธแค้น

“ ไม่ต้องกังวล…หลังจากท่านบรรพชนกำจัดศัตรูเรียบร้อย พ่อจะให้แกจัดการจ้าวเย่ซงได้อย่างเต็มที่ ” จ้าวเหวยเฟิงพูดเสียงเย็นชา สายตาที่มองไปทางจ้าวเย่ซงมีแต่ความประสงค์ร้าย

“ ขอบคุณครับ ” จ้าวหยุนปิงพูดขึ้นด้วยสีหน้ายินดี เขารีบถอยออกไปรับการรักษาจากกลุ่มแพทย์ที่ตามมา

“ ท่านย่าทวด…นี่เป็นโอกาสสุดท้ายแล้ว กลับมาอยู่ข้างตระกูลเหมือนเดิม แล้วผมจะไว้ชีวิตของจ้าวเย่ซง ไม่อย่างนั้นหลังจากที่บรรพชนกลับมา คุณก็น่าจะรู้ผลของมันดี ” จ้าวเหวยเฟิงพูดด้วยน้ำเสียงข่มขู่

แม้อีกฝ่ายจะเป็นเซียนแต่เขาก็ไม่กลัว เพราะมีบรรพชนเซียนหนุนหลังอยู่ แถมยังมีผู้อาวุโสของสำนักง้อไบ๊อยู่ด้วย ตัวเขาไม่มีทางได้รับอันตรายอยู่แล้ว

ตลอดเวลาที่ผ่านมาจ้าวหนิงเซียนและแม่ชีชุดเทา ได้เงยหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้า ไม่ได้ใส่ใจพวกคนตระกูลจ้าวที่อยู่รอบๆแม้แต่น้อย

ทันใดนั้นสีหน้าของจ้าวหนิงเซียนก็เปลี่ยนไป

รอยยิ้มงดงามค่อยๆปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ มือที่กุมกระบี่ไว้แน่นเริ่มคลายออก สิ่งที่เธอคิดไว้ในตอนแรกคือหากจ้าวเทียนมีท่าทีจะพ่ายแพ้ เธอจะเข้าไปช่วยเหลือทันที

ซึ่งแม่ชีชุดเทาก็เหมือนจะคาดเดาแผนการของเธอออก จึงยืนคุมเชิงเอาไว้ ไม่ให้เธอลงมือได้ถนัด

‘ ไม่นึกเลยว่าจ้าวเทียนจะแข็งแกร่งขนาดนี้…ถ้าเย่ซงได้ติดตามเขาก็คงจะดีไม่น้อย ’

“ หืม…ทำไมสีหน้าของแกดูมีความสุขจัง ”

!!

ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่จ้าวเทียนได้ยืนมาอยู่ข้างกายของจ้าวเหวยเฟิง

“ แก…เป็นไม่ได้ นี่แกมาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง ” จ้าวเหวยเฟิงร้องขึ้นด้วยความหวาดกลัว และเหมือนจะเป็นการตอบคำถามของเขา จ้าวเทียนได้โบกมือขึ้นเบาๆ

ฟิ้วว

เศษกระเบื้องและฝุ่นควัน ที่บดบังร่างของผู้ที่นอนอยู่ในหลุมก็ปลิวออกไป

“ ไม่จริง!...ท่านบรรพชนแพ้ ฉันไม่เชื่อ ” จ้าวเหวยเฟิงตะโกนออกมาด้วยความบ้าคลั่ง

เปรี้ยง!

แกร๊ก!

เขาถูกจ้าวเทียนเตะใส่อย่างแรง จนกระดูกขาหัก ร่วงลงไปอยู่บนพื้น จากนั้นเขาก็ถูกจ้าวเทียนกระชากผมดึงขึ้นมาจนขาทั้งสองข้างลอยจากพื้น

“ จ้าวหงเลี่ยงมันยังไม่ตาย…ฉันยั้งมือเอาไว้แล้ว ”

สีหน้าของจ้าวเหวยเฟิงเวลานี้ซีดขาวเป็นอย่างมาก แววตาของเขามีแต่ความสิ้นหวัง

“ ไม่ต้องห่วง…ฉันยังไม่รีบฆ่าแกหรอก ยังมีอีกหลายเรื่องที่อยากได้ยินจากปากแก จนกว่าฉันจะแก้แค้นจนพอใจ จะไม่ปล่อยให้แกตายไปง่ายๆแน่นอน ” จ้าวเทียนกระซิบออกมาเบาๆ ให้มีแต่พวกเขาเท่านั้นที่ได้ยิน

แท้จริงแล้วเขากำลังทำให้จ้าวเหวยเฟิงหวาดกลัว จนยอมสารภาพการกระทำที่ชั่วร้ายต่างๆออกมาเอง

ตอนนี้ตัวเขาอยู่ในตำแหน่งพลเอก การกระทำทุกอย่างไม่สามารถเอาแต่อารมณ์เป็นที่ตั้งได้ ต้องคำนึงถึงกฎหมายบ้านเมืองด้วย

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้มีพยานรู้เห็นมากเกินไป ทำให้เขาไม่สามารถสังหารจ้าวหงเลี่ยงกับจ้าวเหวยเฟิงให้สิ้นเรื่องสิ้นราวได้

แต่บางทีการจับอีกฝ่ายไปทรมานให้รับสารภาพ อาจจะดีกว่าก็ได้ เพราะยังมีเรื่องราวหลายอย่างที่เขาต้องการรู้

บนท้องฟ้าห่างออกไปไม่ไกล มีร่างชายชราสองคนลอยอยู่บนท้องฟ้า พวกเขาคือต้วนมู่เฉียนกับหวังฝูหมิง

“ ผู้อาวุโสต้วนมู่…คุณคาดเดาถูกต้องจริงๆ จ้าวเทียนไม่ได้ฆ่าพวกเขา ” หวังฝูหมิงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงยินดี

ถ้าจ้าวเทียนลงมือเกินกว่าเหตุสังหารผู้คน ผู้อาวุโสต้วนมู่ก็จะลงมือจัดการจ้าวเทียนตามกฏเช่นกัน

ต้วนมู่เฉียนมองจ้าวเทียนกำลังพูดคุยกับสมาชิกส่วนหนึ่งของตระกูลจ้าวด้วยรอยยิ้ม เขารู้ว่าจ้าวเทียนก็สัมผัสได้ถึงการมาของพวกเขาเช่นกัน

“ เรื่องในวันนี้เป็นเพียงบททดสอบเล็กๆเท่านั้น…ในอนาคตหลังจากที่ฉันไม่อยู่แล้ว ฉันหวังว่าเขาจะสามารถเป็นเสาหลักของประเทศได้ ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน