เฉินจิ้งในตอนนี้เหมือนกบที่อยู่ในหม้อ ต้องแบกรับความหวังของสหายร่วมชะตากรรมและอดทนต่อสายตาของเหล่าปีศาจสาวที่จ้องจะจับเขากิน
มือข้างที่ถือโทรศัพท์เอาไว้สั่นสะท้านอย่างรุนแรง…
เฉินจิ้งโทรหาจ้าวเทียนเป็นรอบที่สิบแล้ว แต่ทุกครั้งผลที่ได้ก็เหมือนเดิม คือไม่มีสัญญาณและไม่สามารถติดต่อได้
“ พอกันที…ฉันอดทนกับการแสดงของนายมามากพอแล้ว ” โจวซือซือพูดขึ้นด้วยความรำคาญ เธอนั่งรออีกฝ่ายมาสิบนาทีแล้ว ก็ยังติดต่อหัวหน้าระดับสูงไม่ได้
‘ คงคิดว่าฉัน…ไม่กล้าทำอะไรคนของรัฐบาลใช่ไหม ’
เฉินจิ้งที่ได้ยินแบบนั้น ทำให้เขาแทบอยากจะเขวี้ยงโทรศัพท์ใส่อีกฝ่ายซะเดี๋ยวนั้นเลย
‘ พี่สาว…คุณใช้ตาข้างไหนดูว่าฉันแสดง ถ้าไม่ใช่เพราะว่าฉันสู้คุณไม่ได้ ไม่อย่างนั้นจะต่อยตีกับคุณซักสามวันสามคืนเลย ’
‘ ฉันจริงจังจนแทบจะบ้าตายอยู่แล้ว…โอเคไหม ’
แม้ในใจเขาจะด่าอีกฝ่ายไปสามชั่วโครต แต่ก็ต้องปั้นหน้ายิ้ม ตอบกลับไปแบบอ่อนน้อมถ่อมตน
“ พี่สาว…ผมติดต่อหัวหน้าไม่ได้จริงๆ เขาคงติดภารกิจสำคัญอยู่ ถ้ายังไงคุณปล่อยพวกเราไปก่อน เดี๋ยวครั้งหน้าผมจะแจ้งให้หัวหน้ามาพบคุณดีไหม ”
“ ไม่จำเป็น…พวกนายอยู่ที่นี่แหละดีแล้ว ” โจวซือซือตอบเสียงเย็นชา
“ คุณหมายความว่า… ” เฉินจิ้งถามกลับด้วยความหวาดกลัว
โจวซือซือเมินเฉยต่อคำถามของเฉินจิ้ง แล้วหันไปพูดกับนางแมวสาวที่นั่งอยู่ด้านข้างแทน
“ ลั่วลั่ว เธอพาน้องชายคนนี้ไปปรับทัศนคติ…ซักสองชั่วโมงสิ ”
“ ได้เลยพี่สาว…ฉันขอรับรอง ตอนเขากลับมาจะกลายเป็นเด็กที่เชื่อฟังทันที อิอิ ” ลั่วลั่วพูดขึ้นด้วยสีหน้าดีใจ หางแมวของเธอปัดป่ายไปมาไม่หยุด
“ เดี๋ยวก่อน…คือฉัน ” เฉินจิ้งพยายามจะหาทางรอด แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรดี
ในขณะที่สายตาของเขากวาดมองไปรอบๆ เพื่อหาวิธีหนีนั้น ก็ดันไปเห็นเด็กสาวหูแมวเข้าพอดี ทำให้เขาหยุดมองที่เธอ เหมือนลังเลอะไรบางอย่าง
‘ อย่างน้อย ถ้าฉันจะต้องเสียซิงจริงๆละก็… ’
“ เอ๋…น้องชายสุดหล่อไปจ้องน้องสาวฉันแบบนั้น หมายความว่ายังไงเนี่ย ” ลั่วลั่วพูดขึ้นเสียงดัง ซึ่งก็ได้ดึงดูดสายตาทุกคนในห้องให้หันมาจับจ้องที่เฉินจิ้งทันที
“ ฉัน…ฉันแค่มองไปที่ประตูเท่านั้น ” เฉินจิ้งแก้ตัวด้วยใบหน้าแดงก่ำ ซึ่งทำให้คนที่เห็น มองเขาด้วยสายตาแปลกๆ เพราะเด็กสาวคนนั้นเธอยังไม่โตเป็นสาวเลย
“ หืมม…ฉันก็คิดว่าน้องชายสนใจอยากได้ทั้งคู่พี่น้องซะอีก แต่ก็ช่างเถอะ ฉันคงเข้าใจผิดไปเอง พวกเราไปกันเถอะ ” ลั่วลั่วเดินเขามากอดแขนเฉินจิ้งแล้วดึงออกไป
“ คือฉัน… ” เฉินจิ้งอึดอัดเล็กน้อย แต่เขาก็พูดไม่ออกจริงๆ
ในขณะที่ทุกคน กำลังดูการแสดงตรงหน้าอย่างสนใจ เสียงโทรศัพท์ของหวังซินหยางก็ดังขึ้น แต่เนื่องจากตัวเขาถูกมัดเอาไว้ด้วยใยแมงมุม ทำให้กดรับไม่ได้
!!
“ รับซิ…ลองดูว่าใช่หัวหน้าของเธอไหม ” โจวซือซือโบกมือเบาๆ ใยแมงมุมก็สลายไป
เมื่อหวังซินหยางหยิบมือถือขึ้นมาดู ก็พบว่าเป็นเบอร์ของหลินซิงเสวียน ทำให้แววตาของมีความผิดหวังเล็กน้อย
แต่เขาก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
‘ หรือว่าจะเป็นอาจารย์…เพราะเธอใช้โทรศัพท์ไม่ได้ก็เลยให้น้องซิงเสวียนโทรมาแทน ’
“ สวัสดีครับ ” หวังซินหยางรับสายด้วยหัวใจที่เต้นรัว เมื่อเสียงตอบกลับมาเป็นอาจารย์ของเขาที่ให้หลินซิงเสวียนโทรมาจริงๆ ทำให้เขารู้สึกโล่งใจอย่างมาก
หลังจากที่อธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นไปประมาณ 5 นาที สีหน้าของหวังซินหยางก็ดีขึ้นเรื่อยๆ
สร้างความแปลกใจให้กับคนอื่นๆมาก เพราะฟังจากเสียงของคู่สนทนา น่าจะเป็นเพียงเด็กสาวเท่านั้น
ไม่น่าจะใช่คนที่เป็นหัวหน้าโทรมา…
“ เอ่อ…อาจารย์ของผมอยากจะคุยกับคุณ ” หวังซินหยางหันไปบอกโจวซือซือด้วยแววตาเชื่อมั่น วันนี้อาจารย์ของเขาทำนายดูแล้วรู้ว่าเขาจะมีเคราะห์ เธอจึงให้หลินซิงเสวียนโทรมาหา
‘ พี่จ้าวเทียนบอกว่า…อาจารย์ของฉันแข็งแกร่งมาก มากกว่าทุกคนที่ฉันรู้จัก ถ้าเป็นแบบนั้น วันนี้ก็น่าจะปลอดภัยแล้ว ’
“ อาจารย์งั้นเหรอ…เสียงของเธอยังเด็กกว่าน้องสาวฉันเสียอีก หรือนายก็ชอบเล่นละครเหมือนกัน งั้นไปทำเรื่องสนุกๆกับพี่สาวพร้อมกับเพื่อนนายเลยดีไหม” ลั่วลั่วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงหยอกล้อ
“ เธอเป็นอาจารย์ของผมจริงๆ…แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างเธอเลยใช้โทรศัพท์เองไม่ได้ เด็กสาวคนนี้จึงเป็นคนโทรมาพูดคุยแทน ” หวังซินหยางพูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง เขาเองก็ไม่อยากจะซวยไปพร้อมกับเฉินจิ้งหรอกนะ
‘ ถ้าเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นจริงๆ แฟนฉันต้องฆ่าฉันตายแน่ ’
เมื่อเห็นอีกฝ่ายตอบมาแบบจริงจัง โจวซือซือก็รับโทรศัพท์มา จากนั้นก็วางไว้บนโต๊ะแล้วเปิดสปีกเกอร์โฟนแทน เพื่อให้คนอื่นได้ยินด้วย
“ คุณมีอะไรอยากพูดกับฉันเหรอ ” โจวซือซือถามขึ้นด้วยน้ำเสียงสุภาพ คนที่สามารถเป็นอาจารย์ของหน่วยรบพิเศษได้ ย่อมไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน
อีกอย่างหนึ่งตอนที่พวกหน่วยรบพิเศษคนอื่น รู้ว่าคนที่โทรมาคืออาจารย์ของชายหนุ่มคนนี้ พวกเขาทั้งหมดก็มีแววตาเปล่งประกายด้วยความเคารพทันที
โจวซือซือเองก็คิดแบบเดียวกันกับที่ลั่วลั่วบอก หากอีกฝ่ายเป็นผู้นำตระกูลหลินตัวจริง ก็ให้มาทำข้อตกลงกันที่นี่เลย
แต่ถ้าไม่ใช่ก็ไม่มีอะไรต้องพูดกันแล้ว…
“ จือรั่ว…เธอคิดยังไง ” โจวซือซือหันไปถามสาวหูกระต่ายด้านข้าง เพราะโดยปกติเธอจะเป็นมันสมองของกลุ่ม
“ ทำตามที่พี่คิดเถอะ…วันนี้เราต้องจัดการเรื่องนี้ให้เสร็จ เพราะหากพวกเขาประกาศใช้ข้อตกลงนี้ออกไปให้ปีศาจตนอื่นๆรู้ ถึงตอนนั้นเราก็เปลี่ยนอะไรไม่ได้แล้ว ” จือรั่วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง
เมื่อได้ยินแบบนั้นโจวซือซือก็หันไปบอกฝ่ายตรงข้ามทันที
“ หากคุณอยากให้ฉันปล่อยตัวพวกเขา…คุณก็ต้องมาพบพวกเราที่นี่ จะได้คุยรายละเอียดกัน ”
เสียงปลายสายเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนที่จะมีเสียงเด็กสาวตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงแปลกๆ
“ เอ่อ…พวกคุณแน่ใจเหรอ ว่าอยากให้เราไปหาจริงๆ ”
“ คุณหมายความว่ายังไง…เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว ถ้าไม่ตกลงกันให้รู้เรื่องฉันก็ไม่ปล่อยหรอกนะ ” โจวซือซือพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่พอใจนิดๆ
‘ หรือจะเป็นตัวปลอมจริงๆ…เลยไม่กล้ามางั้นเหรอ ’
เสียงเงียบไปอีกครู่หนึ่ง ก่อนที่เด็กสาวคนเดิมจะตอบกลับมา
“ พวกคุณ…ไม่กลัวเราเหรอ? ”
!!
พวกปีศาจสาวที่ได้ยินแบบนั้น ก็เงียบไปทันที
หมายความว่าอย่างไร ทำไมต้องกลัว สิ่งที่อีกฝ่ายพูดมา มันทำให้พวกเธออยากจะหัวเราะให้ฟันร่วง
ล้อกันเล่นหรือเปล่า ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่ปีศาจต้องกลัวมนุษย์…
“ นี่ยัยหนู…บอกท่านผู้นำตระกูลของเธอไปเลยว่า จะมาก็รีบมา ไม่งั้นสุดหล่อสองคนนี้ถูกพวกฉันดูดจนแห้งแน่ ” ลั่วลั่วพูดขึ้นอย่างหมั่นไส้ ยังไม่รู้เลยว่าเป็นตัวจริงหรือเปล่า แต่ทำไมถึงลีลาเยอะขนาดนี้
“ ตกลง…เราจะไปพบพวกคุณ! ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน
ดีๆๆเดินเรื่องดี...
ต่อๆไป...
ขอบคุณทีมงานที่นำเรื่องดีๆมาลงให้อ่าน...