จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 129

ณ เมืองโมกก ประเทศพม่า

เมืองในหุบเขาที่สวยงาม วางตัวเป็นแนวยาวหลายสิบกิโลเมตรแห่งนี้ ในปัจจุบันถือเป็นแหล่งผลิตเพชรพลอยที่ขึ้นชื่อของโลก

โดยเฉพาะทับทิมสีเลือดนกพิราบที่มีคุณภาพเป็นอับดับหนึ่งในด้านความสวยงาม ล้วนถูกค้นพบจากเหมืองที่อยู่บริเวณนี้

ชุดเครื่องประดับล้ำค่า ที่หวังซินหยางเป็นคนจัดหาผ่านทางเส้นสายของตระกูล ก็ได้มาจากมหาเศรษฐีชาวไทย ที่เป็นเจ้าของเหมืองเพชรพลอยขนาดใหญ่ที่เมืองโมกก ด้วยมูลค่าสูงเกือบ 1,200ล้านบาท

ส่วนผู้ที่รับมอบหมายภารกิจให้มาดำเนินการแลกเปลี่ยนในครั้งนี้ ก็คือเฉินจิ้งและสมาชิกกองกำลังของจ้าวเทียนอีกสิบคน

หน้าที่ของพวกเขาคือคุ้มกันเพื่อนำค้ากลับไปอย่างปลอดภัย ส่วนคนเจรจาต่อรองราคาคือตัวแทนซื้อขายของบริษัทจ้าวหนิงจิวเวลรี่

ภายในบ้านพักตากอากาศสุดหรูริมทะเลสาบ ตอนนี้กำลังจัดงานเลี้ยงต้อนรับอย่างอบอุ่น ให้กับแขกผู้มีเกียรติจากประเทศจีน

“ พี่เฉินจิ้ง…หนูอยากฟังเรื่องตำนานนางพญางูขาวอีก เล่าให้ฟังหน่อย ” เด็กหญิงอายุแปดขวบพูดจาออดอ้อนอย่างน่ารัก เธอมีชื่อว่ามะลิ เป็นลูกสาวคนเล็กของตระกูลเดชา มหาเศรษฐีอันดับต้นๆของประเทศไทย

ด้วยดวงตากลมโตและใบหน้าที่น่ารักน่าเอ็นดู ทำให้เธอเป็นที่รักของใครหลายๆคนที่ได้พบเจอ ซึ่งเฉินจิ้งก็เป็นหนึ่งในนั้น ตอนนี้เขารู้สึกเหมือนตัวเองอยู่บนสวรรค์ที่มีเทพธิดาตัวน้อยอยู่เคียงข้างไม่มีผิด

“ หยุดยิ้มแบบนั้นได้แล้ว…นายกำลังทำให้พวกเราขายหน้านะ ” หญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างๆกัดฟันพูดขึ้นด้วยความหมั่นไส้ เธอมีใบหน้าสวยคมแบบลูกครึ่ง ดวงตาสีฟ้าและผมสีน้ำตาลอ่อน กับรูปร่างที่สมบูรณ์แบบ ทำให้เธอเป็นที่นิยมในกองกำลังของจ้าวเทียนมาก

“ เจนนี่…เธอพูดอะไรของเธอ ฉันกำลังทำภารกิจของฉันอยู่นะ การทำให้คุณหนูมะลิมีความสุขนี่ไงคือภารกิจฉัน ถ้าคุณหนูมะลิมีความสุข หัวหน้าตระกูลเดชาก็มีความสุข พวกเราก็จะได้ส่วนลดเพิ่มขึ้นไง ”

“ เธอไปช่วยพี่โจวเจรจาต่อรองราคาตรงนู้นดีกว่านะ ชิ่วๆ ” เฉินจิ้งสะบัดมือไล่อย่างรำคาญ

“ นี่นาย…ไอ้บ้าเฉินจิ้ง กล้าไล่ฉันเหรอ ฉันไม่ไปหรอกจะอยู่ขัดขวางความสุขนายตรงนี้แหละ มีอะไรมั้ย ” เจนนี่พูดขึ้นด้วยความโมโห เธอตักอาหารมาวางตรงหน้า แล้วก็นั่งกินอยู่ตรงนั้นด้วยใบหน้าบูดบึ้ง

ทุกครั้งที่ใช้ซ้อมจิ้มไปที่อาหาร เธอมักจะจินตนาการว่าเป็นไอ้ผู้ชายเฮงซวยที่อยู่ข้างๆ ทำให้พอระบายความโกรธไปได้บ้าง

‘ ไอบ้าเฉินจิ้ง…ทีเมื่อก่อนนะดูแลฉันอย่างดิบดี พอตอนนี้นายกลับไม่ใยดีเลย ’

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ในสายตาของสมาชิกทีมผู้ชายที่เหลือ ทำให้พวกเขาได้แต่ถอนหายใจออกมาด้วยความอิจฉา เพราะเจนนี่นั้นถือเป็นดอกไม้งามอันดับหนึ่งของกองกำลังเลยทีเดียว มีหนุ่มหล่อมากมายเข้าไปจีบเธอ แต่ก็โดนปฏิเสธกลับมาตลอด

‘ ทำไมเธอถึงไปชอบผู้ชายแบบอาจิ้งได้นะ ’

แม้คนอื่นจะสงสัยในรสนิยมของเจนนี่ แต่เพื่อนๆที่เติบโตมาในค่ายทหารด้วยกันนั้น เข้าใจเรื่องราวทั้งหมดดี

ในสมัยก่อนตอนที่เจนนี่อายุประมาณ 13 ปีนั้น เธอไม่ได้มีหน้าตาสวยงามแบบนี้ เธอเป็นเด็กหญิงตัวเล็กๆ ที่มีใบหน้าตกกระดูขี้เหร่

และด้วยสีตาและสีผมที่แตกต่าง ทำให้เธอถูกเด็กรุ่นเดียวกันกลั่นแกล้งเป็นประจำ พ่อของเจนนี่ที่เป็นชาวต่างชาติได้เสียชีวิตลงที่ประเทศจีน แม่ของเธอเลยมาอาศัยอยู่กับพี่ชายที่ค่ายทหาร ด้วยพื้นหลังแบบนี้ทำให้ไม่มีใครปกป้องดูแลเธอ

ตลอดหลายปีที่ถูกบูลลี่ มันได้สร้างปมขึ้นภายในใจของเจนนี่ ทำให้เธอเป็นเด็กเก็บตัวไม่กล้าเข้าสังคม

แต่ทุกสิ่งก็เปลี่ยนไปเมื่อเฉินจิ้งก้าวเข้ามา เขาดูแลเอาใจใส่เธอทุกอย่างเหมือนเป็นคนในครอบครัว ยิ่งด้วยอายุที่ไม่ต่างกันมาก ทำให้ทั้งคู่เข้ากันได้เป็นอย่างดี และมักจะร่วมฝึกฝนการต่อสู้ด้วยกันเป็นประจำ

เวลาผ่านไปสามปี จากเด็กหญิงขี้เหร่ในตอนนั้น ได้เติบโตขึ้นเป็นสาวสวยเป็นที่หมายปองของหนุ่มๆทุกคนในค่าย และด้วยการออกกำลังกายที่สม่ำเสมอกับเชื้อสายตะวันตก ทำให้รูปร่างของเธอเติบโตอย่างรวดเร็ว

เพียงไม่นานเธอก็กลายเป็นสาวสวยที่มีหุ่นขยี้ใจผู้ชาย แต่ใครเล่าจะคาดคิด เมื่อเจนนี่รวบรวมความกล้าไปสารภาพรักกับเฉินจิ้ง กลับถูกปฏิเสธอย่างไม่ใยดี ด้วยเหตุผลตลกๆที่ว่า

เขาชอบเธอในสมัยก่อนมากกว่า…

นี่จึงเป็นสาเหตุที่เฉินจิ้งมักจะถูกรุ่นพี่ผู้ชายในหน่วยรบพิเศษ เรียกไปซ้อมมือบ่อยๆด้วยความเอ็นดู

เวลาผ่านไปหนึ่งชั่วโมง…

ในขณะที่ทุกคน กำลังยืนสาปแช่งเฉินจิ้งในใจอย่างสนุกสนาน การเจรจาต่อรองก็เสร็จเรียบร้อยในที่สุด

“ ยินดีที่ได้ทำธุรกิจด้วยกันนะครับ…ฝากทักทายประธานหวังแทนผมด้วย ” คุณเกรียงไกรพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม

เขาเป็นหัวหน้าตระกูลเดชาคนปัจจุบัน ในอดีตเขาเคยได้รับความช่วยเหลือจากคุณปู่ของหวังซินหยาง เขาจึงถือการร่วมมือครั้งนี้เป็นการตอบแทนบุญคุณ

“ ขอบคุณมากครับคุณเกรียงไกร…ผมจะนำคำพูดของคุณไปบอกประธานหวังแน่นอนครับ ” โจวเฟยจับมือกับอีกฝ่ายด้วยสีหน้ายินดี ใครจะรู้ว่าการต่อรองในครั้งนี้จะประสบผลสำเร็จอย่างงดงาม พวกเขาได้ส่วนลดเกือบ 80ล้านเลยทีเดียว

ทั้งหมดทั้งมวลต้องขอบคุณแผนการของเฉินจิ้งจริงๆ จะว่าไปเขาเองก็ตกใจไม่น้อยตอนที่คุณหนูมะลิวิ่งมาออดอ้อนพ่อของเธอเสียงดังว่าให้ช่วยลดราคาสินค้าให้ มันช่างเหนือความคาดหมายของเขาเหลือเกิน

‘ ฉันไม่คิดว่า…ในวงการธุรกิจก็ใช้แผนแบบนี้ได้ด้วย ’

หลังจากที่ทุกคนดำเนินการแลกเปลี่ยนเสร็จสิ้นแล้ว โจวเฟยก็เดินไปหาสมาชิกในทีมอย่างอารมณ์ดี

“ อาจิ้ง…ครั้งนี้นายทำได้ดีมาก ไม่ต้องห่วงฉันจะรายงานให้บอสรับทราบแน่นอน ไม่แน่ว่าพวกเราอาจจะได้โบนัสก้อนใหญ่ด้วยซ้ำ ฮ่าฮา ” โจวเฟยหัวเราะอย่างอารมณ์ดี

“ นั่นมัน…แน่นอนอยู่แล้ว ” เฉินจิ้งเอง ก็ชูนิ้วโป้งกลับมาด้วยรอยยิ้มเช่นกัน

ในขณะที่บรรยากาศแห่งความสุขกำลังดำเนินต่อไปเรื่อยๆ

ทันใดนั้น…

“ ดูเหมือน…ฉันจะมาทันพอดี ยังอยู่กันครบทุกคนสินะ ”

“ วันนี้พวกแกทั้งหมดจะต้อง…ตาย! ”

เสียงตะโกนที่แสนเย็นชา มาพร้อมกับหมอกสีเทาจางๆ เข้าปกคลุมงานเลี้ยงทั้งหมด

ปังๆๆๆๆ ตูม!

ที่ด้านนอกบ้านพัก เกิดการต่อสู้กันอย่างดุเดือด ทั้งเสียงปืนและระเบิดได้สร้างความหวาดกลัวให้แขกในงาน จนเกิดเป็นความวุ่นวายขึ้น

“ ทุกคนอยู่ในความสงบ…คนที่สู้ได้ออกไปพร้อมกับฉัน เด็กและผู้หญิงเข้าไปรอในห้อง ถ้าไม่มีคำสั่งจากฉันห้ามออกมาเด็ดขาด ” เกรียงไกรสั่งการอย่างรวดเร็ว ตัวเขาเองก็ไม่ใช่คนธรรมดา แต่เป็นถึงผู้มีพลังระดับ B แถวหน้า

ตระกูลเดชานั้น เป็นตระกูลจอมขมังเวทย์โบราณของประเทศไทย มีผู้อาวุโสสูงสุดที่เป็นระดับ A ปกป้องอยู่ แม้ว่าในวันนี้ผู้อาวุโสจะไม่ได้มาด้วย แต่ก็มีมิตรสหายมากมายในประเทศนี้ ที่สามารถขอความช่วยเหลือได้

“ แย่แล้ว…มือถือไม่มีสัญญาณ ”

“ ฉันเองก็เหมือนกัน…แม้แต่โทรศัพท์ดาวเทียมก็ยังใช้ไม่ได้เลย ”

สิ่งที่สมาชิกในทีมบอกทำให้เฉินจิ้งมีสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นทันที ศัตรูมีการเตรียมการขนาดนี้ ดูท่าจะต้องการฆ่าปิดปากทุกคนในงานแน่นอน

“ เจนนี่กับพวกผู้หญิง…คุ้มครองพี่โจวกับสินค้าอยู่ด้านใน ส่วนคนที่เหลือออกไปสู้กับฉัน ” เฉินจิ้งสั่งการด้วยสีหน้าจริงจัง ในภารกิจครั้งนี้เขาคือหัวหน้าทีม

ทุกคนต้องเชื่อฟังคำสั่งเขา…

“ นายต้องระวังตัวด้วยนะ ” เจนนี่พูดขึ้นด้วยความเป็นห่วง แม้ว่าตัวเธออยากจะออกไปสู้ด้วย แต่ในเมื่อเป็นคำสั่งของหัวหน้า ก็มีแต่ต้องทำตามเท่านั้น

“ ไม่ต้องเป็นห่วง…ถ้าเทียบกับศัตรูในอดีตที่ฉันพบมา แค่นี้มันเล็กน้อยมาก ”