เวลาหกโมงเช้า บนยอดเขาที่สูงที่สุดของสำนักคุนหลุน เมื่อแสงแดดแรกของวันใหม่สาดส่องลงมา ร่างของจ้าวเทียนก็ลอยขึ้นช้าๆ
ครืนนน
พลังงานความร้อนของดวงอาทิตย์ ได้ถูกเมล็ดพันธุ์สุริยันดูดกลืนเข้าไปอย่างรวดเร็ว ด้วยผลของโอสถฟื้นฟูเม็ดสุดท้าย ทำให้ขอบเขตฝึกตนของจ้าวเทียนพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ
วูปป!
ขอบเขตเซียนขั้นกลาง!
ขอบเขตเซียนขั้นสูง!
จนกระทั่ง…
บูมมม!
ความกดดันมหาศาลระเบิดออกมาจากร่างของจ้าวเทียน ทำให้กระแสอากาศบริเวณรอบสำนักคุนหลุนสั่นสะเทือน
ขอบเขตเซียนขั้นสูงสุด!
‘ ในที่สุด…พลังทั้งหมดของฉันก็กลับคืนมาแล้ว ’
จ้าวเทียนคิดขึ้นด้วยความยินดี ตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาต้องฝืนต่อสู้ทั้งที่ยังไม่ฟื้นตัวดีพอ มันช่างทำให้รู้สึกอึดอัดจริงๆ
หืม…
“ ท่านยาย…เกิดอะไรขึ้นเหรอ ” จ้าวเทียนพูดขึ้นด้วยท่าทีผ่อนคลาย เขาเห็นเปียนเจียวเมิ่งกำลังบินเข้ามาหา
“ นี่มัน…ขอบเขตเซียนขั้นสูงสุด ” เปียนเจียวเมิ่งพูดออกมาด้วยความตกใจ เธอไม่คิดว่าผ่านไปเพียงสองชั่วโมง หลายชายของเธอจะกลายเป็นเซียนขั้นสูงสุดไปแล้ว
“ ไม่ต้องแปลกใจไปครับ…เพราะนี่คือพลังที่แท้จริงของฉันเอง ก่อนหน้านี้เพราะอาการบาดเจ็บเลยทำให้มีพลังเหลือเพียงแค่นั้น ” จ้าวเทียนอธิบายให้ฟัง
“ งั้นเหรอ…รู้แบบนี้ฉันก็เบาใจ ก่อนหน้านี้ตอนที่เธอเป็นเซียนขั้นต่ำก็สามารถเอาชนะเซียนขั้นสูงสุดได้ ในเมื่อตอนนี้เธอฟื้นพลังทั้งหมดแล้ว หลังจากนี้พวกเราคงพอจะหาวิธีตอบโต้ได้บ้าง ”
เมื่อได้ยินแบบนั้น แววตาของจ้าวเทียนก็เปลี่ยนไปทันที
“ ท่านยาย…คุณรู้อะไรมางั้นเหรอ ”
“ เจ้าสำนักคงท้งได้ใช้ช่องทางพิเศษส่งข่าวมาบอกว่า…อีกครึ่งชั่วโมงกองกำลังของสมาพันธ์บู๊ลิ้มจะมาถึงสำนักคุนหลุน ในครั้งนี้เจ้าสำนักใหญ่ทั้งสามจะนำทัพมาด้วยตัวเอง ” เปียนเจียวเมิ่งพูดขึ้นด้วยท่าทีจริงจัง
“ สามเจ้าสำนักใหญ่งั้นเหรอ…คุณพอจะมีรายละเอียดกองกำลังที่พวกเขาพามาด้วยไหม ” จ้าวเทียนถามต่อ ตัวเขาไม่เคยต่อสู้กับบุคคลระดับเจ้าสำนักใหญ่มากก่อน
ที่แน่ๆ ฝ่ายตรงข้ามจะต้องแข็งแกร่งกว่า ผู้อาวุโสขอบเขตครึ่งก้าวเซียนนภาที่เขาเคยสังหารมาแน่นอน
“ จากข้อมูลที่เราได้มา…พวกที่ติดตามมาด้วยก็คือ กองกำลังเซียนผู้คุมกฎและหน่วยล่าสังหาร ซึ่งประกอบไปด้วยเซียนขั้นสูงสุดสิบคน กับเซียนขั้นสูงยี่สิบคน ” เปียนเจียวเมิ่งตอบออกมาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“ ดูท่าพวกเขาจะตีค่าฉันไว้สูงมาก…ถึงได้พายอดฝีมือมาด้วยมากมายขนาดนี้ ” จ้าวเทียนเริ่มรู้สึกกดดันขึ้นมา
ตอนแรก เขาคิดว่าอีกฝ่ายจะส่งยอดฝีมือระดับครึ่งก้าวเซียนนภากับกองกำลังขนาดเล็กมาเท่านั้น เพราะก่อนหน้านี้ เขาก็แค่เปิดเผยพลังในขอบเขตเซียนขั้นต่ำออกไป
‘ สงสัย ฉันคงต้องเรียกกำลังเสริมมาเหมือนกัน ’
ด้วยขอบเขตเจตน์แห่งกระบี่ของจ้าวเทียน เขาเชื่อว่าสามารถต่อสู้กับสามเจ้าสำนักใหญ่ได้ เพราะอย่างไรซะ พวกเขาก็เป็นเพียงสามอันดับสุดท้ายในห้ายอดฝีมือแห่งยุค
ส่วนพวกกองกำลังที่ติดตามมาด้วยนั้น สำนักคนหลุนคงไม่อาจรับมือได้แน่นอน ดังนั้นจ้าวเทียนจำเป็นต้องเพิ่มไพ่ในมือ เพื่อต่อกรกับฝ่ายตรงข้าม
“ ฉันคิดว่า…พวกเราจำเป็นต้องเปลี่ยนแผนการที่วางไว้ ความแข็งแกร่งของฝ่ายตรงข้ามเหนือกว่าที่ฉันคาดไว้มาก คงไม่อาจใช้วิธีเดิมได้อีกแล้ว ”
“ งั้นพวกเรา… ” เปียนเจียวเมิ่งเริ่มรู้สึกกังวล
แต่ด้วยขอบเขตเจตน์แห่งกระบี่ ทำให้ความสามารถในการต่อสู้ของเขาเพิ่มสูงกว่าเดิมมาก จนเทียบเคียงกับจุดสูงสุดของครึ่งก้าวเซียนนภาเลยทีเดียว
“ ท่านยาย…ก่อนที่การต่อสู้จะเริ่มขึ้น ฉันอยากให้คุณประกาศขับแม่ของฉันออกจากสำนัก และขอถอนตัวไม่ยุ่งเกี่ยวกับความขัดแย้งทุกอย่าง เพื่อป้องกันไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามใช้เรื่องนี้เป็นข้ออ้างในการทำลายสำนักคุนหลุน ”
“ เมื่อเป็นแบบนั้น…ตราบใดที่ฉันยังมีชีวิตอยู่ พวกเขาไม่กล้าทำอะไรรุนแรงกับสำนักคุนหลุนแน่นอน ไม่อย่างนั้น พวกเขาอาจจะต้องเผชิญหน้ากับการแก้แค้นโดยไม่เลือกวิธีการของฉัน ” จ้าวเทียนพูดขึ้นด้วยแววตาดุดัน
ถ้าพวกสมาพันธุ์กล้าทำอะไรสำนักคุนหลุน เขาเองก็จะไล่กวาดล้างทุกสำนักที่เข้าร่วมให้หมด ในสมาพันธ์บู๊ลิ้มมีสำนักระดับกลางและเล็กหลายสิบสำนัก
ให้มันรู้ไป ว่าอีกฝ่ายจะแบ่งกองกำลังไปป้องกันได้ทั้งหมด…
“ ตกลง…ฉันจะรีบทำตามที่บอกทันที แต่เธอเองก็ต้องระวังตัวด้วยนะ ” เปียนเจียวเมิ่งพูดขึ้นด้วยความเป็นห่วง
จ้าวเทียนที่เห็นแบบนั้นก็ยิ้มเล็กน้อย จากนั้นเขาก็หยิบเอาขวดหยกออกมาจากแหวนมิติ แล้วยื่นให้เปียนเจียวเมิ่ง
“ สิ่งที่อยู่ในขวดนี้ จะช่วยให้ท่านยายบรรลุขอบเขตเซียนขั้นสูงสุดได้อย่างแน่นอน หรือบางทีอาจจะไปถึงครึ่งก้าวเซียนนภาได้เลย ดังนั้นต้องเก็บไว้เป็นความลับอย่าให้คนอื่นรู้นะครับ ”
!!
“ ขอบเขตครึ่งก้าวเซียนนภางั้นเหรอ…ฉันจะไปถึงขอบเขตนั้นได้จริงๆ ” เปียนเจียวพูดขึ้นมาอย่างลืมตัว
“ ได้ซิครับ…เพราะสิ่งที่อยู่ในขวดนี้ก็คือเลือดมังกรสามหยด ทั้งยังเป็นเลือดแก่นแท้ที่หายากอีกด้วย จากที่ฉันได้ตรวจสอบดู ท่านยายได้สั่งสมพลังมาเป็นเวลานาน ขาดแค่เพียงโอกาสเท่านั้น ด้วยเลือดมังกรในขวดนี้ คุณจะต้องทะลวงขอบเขตได้แน่นอน ”
เปียนเจียวเมิ่งรับขวดหยกมาด้วยมืออันสั่นเทาขอบเขตครึ่งก้าวเซียนนภาเป็นสิ่งที่เธอใฝ่ฝันมาตลอดชีวิต ไม่คิดว่าจะได้รับโอกาสนั้นจากหลานชายตัวเอง
“ ขอบคุณมาก…นี่มันเป็นของขวัญล้ำค่าที่สุดที่ฉันเคยได้รับมา ด้วยโอกาสที่เธอมอบให้ ฉันจะต้องบรรลุครึ่งก้าวเซียนนภาให้ได้ และต้องทำให้สำนักคุนหลุนของเรากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง ” เปียนเจียวเมิ่งประกาศออกมาเสียงดัง
เธอเข้าใจเหตุผลที่จ้าวเทียนมอบของขวัญล้ำค่าแบบนี้ให้ดี ทั้งเรื่องเชลยศึกจากกองกำลังสี่สำนักเกือบพันคน และอาวุธชั้นยอดจำนวนมากที่อีกฝ่ายมอบให้ ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่จ้าวเทียนวางแผนไว้ตั้งแต่แรก
เพื่อทำให้สำนักคุนหลุนพัฒนาตัวเอง ขึ้นมาทัดเทียมกับสำนักใหญ่ทั้งห้าได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน
ดีๆๆเดินเรื่องดี...
ต่อๆไป...
ขอบคุณทีมงานที่นำเรื่องดีๆมาลงให้อ่าน...