'องค์ชายใหญ่จะมาถึงพรุ่งนี้'
คำพูดประโยคนี้ของจ้าวเทียนไม่ได้สร้างความตกใจให้องค์หญิงจูม่านฉีนัก เหมือนเธอจะคาดการณ์เรื่องนี้เอาไว้แล้ว ก็เลยแค่พ่นลมออกจากปาก แล้วทำสีหน้าเบื่อหน่ายออกมา
แต่ทว่า ผู้ที่ออกอาการอย่างเห็นได้ชัดกลับเป็นองค์หญิงฉินฟ่านเออร์ จากใบหน้าที่สงบนิ่งเปลี่ยนซีดขาว มือทั้งสองข้างที่วางอยู่โต๊ะก็หดเกร็ง แผ่นหลังของเธอสั่นสะท้านไม่หยุด
ตอนแรก จ้าวเทียนคิดว่าเธอกำลังหวาดกลัวพี่ชายต่างมารดาของตนเอง แต่เมื่อมองเห็นแววตาของเธอ เขาก็รู้ว่าตัวเองคิดผิดแล้ว
‘ ช่างเป็นแววตาที่คลุ้มคลั่งนัก…จะต้องเกลียดชังและเคียดแค้นอีกฝ่ายขนาดไหน จึงทำให้เธอมีแววตาเช่นนี้ได้ ’
จ้าวเทียนคิดขึ้นด้วยความสงสัย ดูเหมือนองค์ชายใหญ่จะไม่ใช่แค่ช่วงชิงอำนาจกับฉินฟ่านเออร์เท่านั้น แต่เขาคงจะสร้างความทรงจำอันเลวร้ายให้กับเธอด้วย
ในขณะที่เล็บมือของฉินฟ่านเออร์ แทบจะจิกเข้าไปในเนื้อของตัวเองนั้น คังหลินก็ยื่นมือของเขามากุมมือของเธอไว้
“ สงบใจหน่อย…แบบนี้ไม่สมกับเป็นเธอเลยนะ ”
!!
น่าแปลกที่เมื่อสัมผัสได้ถึงไออุ่นจากมือของคังหลิน และคำพูดแสดงความห่วงใยนั้น ร่างของฉินฟ่านเออร์ก็หยุดสั่น และแววตาของเธอยังกลับเป็นเหมือนเดิมทันที
“ นาย… ” เธอเงยหน้ามองสบตากับอีกฝ่ายด้วยความรู้สึกที่เปลี่ยนไป เพราะชายคนนี้ไม่เคยเผยด้านที่อ่อนโยนแบบนี้กับเธอมาก่อน
‘ นี่เป็นครั้งแรก…ที่หัวใจของฉันรู้สึกสงบได้ขนาดนี้ ความวิตกกังวลทุกอย่างได้จางหายไปจนหมด ’
‘ ฉัน…ชอบความรู้สึกนี้จริงๆ ’
“ ดีขึ้นแล้วใช่ไหม…ยัยจิ้งจอกเจ้าเล่ห์อย่างเธอ ไม่เหมาะกับสีหน้าแบบนั้นหรอก ” คังหลินพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มประจำตัว เขาแค่อยากให้เธอรู้สึกดีขึ้นเท่านั้น
ถึงแม้ว่าผู้หญิงคนนี้จะก่อเรื่องวุ่นวายให้เขาหลายครั้ง แต่ตลอดเวลาที่ตกลงเป็นพันธมิตรกัน เธอก็ช่วยสนับสนุนเขาอย่างสุดความสามารถ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการซ่อมแซมสุสานบรรพชนหรือการติดต่อกับขุมอำนาจอื่นๆ
ด้วยมันสมองและความสามารถของฉินฟ่านเออร์นั้น ได้ช่วยแบ่งเบาภาระของคังหลินไปได้หลายอย่าง ทำให้เขาได้มีเวลาเก็บตัวฝึกฝนจนกลายเป็นปรมาจารย์ขั้นสูงได้ในที่สุด
ภาพที่ทั้งสองสบตากันนั้น ได้ทำให้จ้าวเทียนยิ้มอ่อนออกมา
‘ สมกับเป็นศิษย์พี่รอง…ฉายาคุณชายเจ้าสำราญของคุณไม่ได้มาเพราะโชคช่วยจริงๆ ’
ในชาติที่แล้ว ตอนที่พวกจ้าวเทียนยังใช้ชีวิตร่วมกันบนแดนสวรรค์ หลังจากที่คังหลินดื่มจนเมามายก็มักจะปล่อยตัวปล่อยใจอย่างเต็มที่
และด้วยใบหน้าที่หล่อเหลา และท่าทีเจ้าสำราญของคังหลินที่มักโปรยเสน่ห์โดยไม่ตั้งใจ มันก็ได้ดึงดูดสาวงามจำนวนมากเข้ามา
นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทั้งจ้าวเทียน และศิษย์พี่ใหญ่ต้องเผชิญหน้ากับชายหนุ่มมากมายที่เข้ามาหาเรื่อง ซึ่งเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเป็นประจำ ก็ทำให้ทุกคนรู้สึกเข็ดขยาดที่จะออกไปเที่ยวกับคังหลินอีก
กึก!
เสียงแก้วชาวางกระแทกลงบนโต๊ะ ทำให้คู่ชายหนุ่มหญิงสาวที่กำลังสบตากันหลุดออกจากบรรยากาศแปลกๆของพวกเขา
“อะแฮ่ม…พวกเรามาเข้าเรื่องกันดีกว่า ว่าพรุ่งนี้จะจัดการกับพวกองค์ชายใหญ่ยังไงดี ” จูม่านฉีพูดออกมาด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด
ภาพที่ได้เห็น มันทำให้เธอรู้สึกหมั่นไส้ขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล
จ้าวเทียนที่เห็นแบบนั้นก็หลุดหัวเราะออกมาเล็กน้อย เหตุการณ์แบบนี้เหมือนเขาเคยเจอมาก่อน
“ ที่ทุกคนมองเห็น…ก็เป็นเพียงเปลือกนอกที่ชายคนนั้นสร้างขึ้นมาเท่านั้น เบื้องหลังของเขาเลี้ยงดูทั้งนักฆ่าและกองโจรเอาไว้ทำเรื่องสกปรกให้ เพื่อสิ่งที่ต้องการไม่มีสิ่งใดที่เขาไม่กล้าทำ ”
“ ทั้งฆ่าคนชิงทรัพย์ ทั้งฉุดคร่าสาวงาม และหากเขาคิดจะลงมือแล้วต่อให้อีกฝ่ายเป็นเด็กทารกเขาก็สังหารจนสิ้น ในอดีตมีครอบครัวคหบดีที่ร่ำรวย และขุนนางที่อยู่เมืองห่างไกลถูกล้างตระกูลเพราะความทะเยอทะยานของเขามากมาย ”
“ แม้กระทั่งพี่น้องด้วยกันเองก็ยังไม่ละเว้น…ในอดีตตอนที่ฉันเพิ่งมีอายุครบสิบสามปี เขาดื่มสุราจนเมามายแล้วลอบเข้ามากลางดึก พยายามจะข่มขืนฉัน ”
“ หากไม่ใช่เพราะนางกำนัลคนสนิท รีบไปตามท่านอาของฉันมาช่วย เขาก็คงทำได้สำเร็จแล้ว เรื่องนี้มันทำให้ท่านอาของฉันโกรธมาก ถึงแม้จะไม่อาจสังหารเขาได้ แต่พวกเราก็ปรึกษากับพระชายารอง และตัดสินใจนำเรื่องนี้กราบทูลพระบิดาในวันรุ่งขึ้น ”
“ แต่รู้ไหม…ยังไม่ทันที่พวกเราจะได้ลงมือ กลางดึกคืนนั้นกลับมีโจรร้ายบุกเข้าวังแล้วสังหารนางกำนัลและองค์รักษ์ทั้งหมดในจวนของฉัน ซึ่งเมื่อจับตัวฆาตกรได้ มันตะโกนออกมาว่าที่ทำไปเพราะหลงในความงามของฉัน”
“ ก่อนหน้านี้บุกเข้ามาแล้วครั้งหนึ่งแต่ไม่สำเร็จ เพราะถูกคนขัดขวางไว้ มันก็เลยกลับมาแก้แค้นอีกครั้ง ซึ่งเมื่อพูดจบก็กัดยาพิษฆ่าตัวตายทันที ”
“ เหตุการณ์นี้ ทำให้พวกเราไม่สามารถเอาผิดอีกฝ่ายได้ เพราะทั้งขาดพยานและหลักฐาน แม้แต่พระชายารองก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้มากนัก เพราะถูกพระชายาหลักกดดัน ด้วยอำนาจที่เหนือกว่า ”
“ สุดท้ายเรื่องเลยต้องจบไปแบบนั้น…แต่ฝันร้ายของฉันมันเพิ่งเริ่มต้นขึ้น ชายคนนั้นเหมือนต้องการจะครอบครองฉันให้ได้ ในช่วงเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมา เหตุการณ์แบบนั้นก็เกิดขึ้นอีกสี่ครั้ง ถึงแม้เขาจะทำไม่สำเร็จ แต่ทุกคนที่ใกล้ชิดกับฉันก็ถูกสังหารไปจนหมด ”
“ แม้ว่าฉันจะรักษาความบริสุทธิ์เอาไว้ได้…แต่ก็ต้องทนดูทุกคนที่พยายามปกป้องฉันตายไปเรื่อยๆ จนหัวใจของฉันกลายเป็นด้านชา แม้แต่ท่านอาของฉันเองก็เคยบาดเจ็บสาหัสจนเกือบตายสามครั้ง ”
“ สุดท้าย ฉันจึงตัดสินใจเลือกฉินหนานเป็นคู่หมั้น เพื่อที่จะหนีออกจากเมืองหลวง เรื่องนี้คงไปทำให้ชายคนนั้นรู้สึกโกรธขึ้นมา เลยตัดสินใจสังหารฉันและน้องชายทิ้ง ”
“ เพราะนอกจากจะเป็นการกำจัดคู่แข่งของตนเองแล้ว ยังเป็นการป้องกันไม่ให้หญิงสาวที่เขาหมายปองต้องตกเป็นของชายคนอื่น ”
ฉินฟ่านเออร์พูดมาถึงตรงนี้ เธอก็จ้องมองไปที่หญิงสาวอีกคนที่อยู่ในห้อง
“ จูม่านฉี…หากเขารู้ว่าเธอเลือกฉินหนานละก็ จากนิสัยของเขา ย่อมไม่มีทางปล่อยเธอไปแน่นอน ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน
ดีๆๆเดินเรื่องดี...
ต่อๆไป...
ขอบคุณทีมงานที่นำเรื่องดีๆมาลงให้อ่าน...