เหตุการณ์พลิกผันที่เกิดขึ้นพร้อมกันถึงสองครั้ง ทำให้กองกำลังยอดฝีมือนับร้อยของสำนักจตุเทวะทำอะไรไม่ถูก โดยเฉพาะทูตมังกรทองซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด
‘ เคล็ดวิชาระดับเทวะของฉัน ถูกทำลายไปง่ายๆแบบนี้งั้นเหรอ มันเป็นไปได้อย่างไรกัน ตามที่ท่านอาจารย์บอกมา มีเพียงผู้ที่มีความแข็งแกร่งเหนือกว่าฉันหนึ่งขั้นใหญ่เท่านั้น ถึงจะทำได้ ’
‘ แต่นี่ฝ่ายตรงข้ามเป็นเพียงขอบเขตครึ่งก้าวเซียนนภาระดับกลาง ซึ่งเมื่อเทียบกับฉันแล้วยังด้อยกว่าเสียอีก จะมาทำลายวิชาหอกมังกรดับโลกาของฉันได้อย่างไร ’
เพราะยังไม่ได้รับคำสั่งต่อไปจากหัวหน้าของตน ทำให้กองกำลังชุดดำทั้งหมดถอยไปรวมตัวกันที่ด้านหลังของทูตมังกรทองด้วยความระมัดระวัง
แตกต่างจากทุกคนในกลุ่มของจ้าวเทียน ที่พอเห็นหน้าบุคคลที่พวกเขาเฝ้าคิดถึงมาเนิ่นนาน ทำให้แสดงอาการดีใจอย่างปิดไม่มิดออกมา
“ บอสครับ ในที่สุดก็ได้พบคุณ ”
“ เย้! หัวหน้ามาแล้ว ”
“ เจ้านาย ในที่สุดคุณก็มา ”
เสียงร้องตะโกนด้วยความดีใจดังไปทั่วบริเวณ ตอนนี้ไม่มีใครสนใจพวกศัตรูที่อยู่ตรงหน้าอีกแล้ว ในสายตาของพวกเขามีเพียงภาพของจ้าวเทียนที่กำลังเดินเข้ามาหาเท่านั้น
ซึ่งต่อให้ศัตรูจะบุกเข้ามาตอนนี้ พวกเขาก็ไม่กลัว
นั่นเป็นเพราะผู้นำของพวกเขาได้กลับมาแล้ว ขอเพียงมีชายคนนี้อยู่ ต่อให้ต้องเผชิญหน้ากับอะไร พวกเขาก็ไม่มีทางพ่ายแพ้เด็ดขาด
สำหรับพวกเขา สถานะของจ้าวเทียนก็ไม่ต่างไปจากเทพเจ้า เป็นเหมือนดวงอาทิตย์ที่คอยส่องแสงสว่างนำทางพวกเขาท่ามกลางความมืดมิด
“ เฮ้ยๆ พวกนายหลบไปให้หมด เราตกลงกันแล้วไม่ใช่เหรอว่าตามคิวไง” เฉินจิ้งแกล้งตะโกนออกมาเสียงดัง ทำให้หลายคนที่วิ่งเข้าไปรุมล้อมจ้าวเทียนสะดุ้งไปตามกัน
จากนั้นพวกเขาก็พากันเปิดเส้นทาง ให้คนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาหาจ้าวเทียนก่อน
ทางด้านพวกต้วนมู่เฉียนที่เพิ่งมาถึงนั้น ก็ได้แต่มองหน้ากันเองแล้วถอนหายใจออกมาเบาๆ
“ นี่เป็นครั้งแรก…ที่ฉันรู้สึกเหมือนกลายเป็นอากาศธาตุแบบนี้ ” ต้วนมู่เฉียนพูดขึ้นพร้อมทั้งฝืนยิ้มออกมา ก่อนจะก้าวเดินออกไปเบื้องหน้า
“ ช่างเป็นคนที่ยอดเยี่ยมจริงๆ…ฉันสัมผัสได้ว่าคนพวกนี้ให้ความศรัทธาเขาด้วยใจจริง ปราศจากการบังคับฝืนใจใดๆทั้งสิ้น ” โซเฟียพูดขึ้นด้วยความชื่นชม เธอพาออโรร่าเดินตามต้วนมู่เฉียนไปรวมกลุ่มกับทุกคน
“ ท่านตาครับ ผมหาแม่เจอแล้วนะ ตอนนี้พวกเราอาศัยอยู่ด้วยกันที่เมืองหลวงแคว้นต้าฉิน ” จ้าวเทียนพูดขึ้นด้วยดวงตาแดงก่ำ นี่เป็นคำสัญญาที่เขาเคยให้ไว้เมื่อตอนได้รู้เรื่องราวทุกอย่างจากท่านตา
ซึ่งเขาก็สามารถทำมันได้สำเร็จ เขาสามารถตามหาแม่ที่พลัดพรากจากกันมานานถึงแปดปีได้ในที่สุด
“ ดี…ดีมาก ตาภูมิใจในตัวหลานจริงๆ ” เหยียนซืออู่วางมือบนบ่าของจ้าวเทียน ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างมีความสุข
ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมากกว่านี้ สำหรับพวกเขาทั้งสองคน การกระทำนั้นสื่อความหมายได้มากกว่าคำพูดนับร้อยเท่า
จนกระทั่ง
เมื่อสายตาของจ้าวเทียนมาหยุดลงที่หญิงสาวคนหนึ่ง ผู้ที่เขาคิดถึงและอยากเจอที่สุดตลอดสองเดือนที่ผ่านมา
“ เหยาเหยา ฉัน… ” แต่ยังไม่ทันที่จ้าวเทียนจะพูดจบ ก็ได้มีคนขัดขึ้นมาเสียก่อน ทำให้สีหน้าของเขามืดครึ้มลงอย่างเห็นได้ชัด
“ นี่พวกแกคิดว่ากำลังอยู่ที่ไหนกัน อย่าคิดว่าแค่มีคนมาช่วยไม่กี่คน จะเอาชนะพวกเราได้นะ ” ทูตกระเทียนพูดขึ้นเสียงดังด้วยความโกรธ ทำแบบนี้มันไม่เห็นหัวของพวกเขาชัดๆ
แต่ยังไม่ทันที่จ้าวเทียนจะได้ทำอะไร กลับมีคนออกหน้าแทนเขาอย่างรวดเร็ว
“ หุบปากไปซะ! ”
ต้วนมู่เฉียนตะโกนออกมาอย่างเย็นชา ร่างเขาไปปรากฏขึ้นตรงหน้าของทูตกระเรียนในพริบตา แล้วฟันดาบเข้าใส่อีกฝ่ายอย่างรุนแรง
“ วิถีสังหาร ”
“ ดาบที่เก้าหมื่นกระดูก ”
ภาพลวงตาของดาบขนาดใหญ่ยักษ์ยาวนับร้อยเมตร ฟันแยกแม่น้ำโครงกระดูกออกเป็นสองเสี่ยง จากนั้นคมดาบก็ฉีกกระชากมิติทะลุออกมาในโลกแห่งความจริง
เปรี้ยง! ตูมมม!
คมดาบที่แฝงไปด้วยแก่นแท้สังหาร เฉือนเข้าใส่ถุงมือสีขาวอาวุธระดับเทพชั้นยอดของทูตกระเรียนจนแทบจะขาดออก
เสียงพูดรอบข้าง ทำให้อารมณ์ฮึกเหิมของต้วนมู่เฉียนดับลงในทันที เขามองไปทางทูตมังกรทองด้วยสีหน้าหงุดหงิด ก่อนจะเก็บดาบคู่กายไว้ในแหวนมิติ แล้วลงมายืนที่ตำแหน่งเดิมข้างพวกโซเฟีย
‘ ฉันก็เดินเข้ามาพร้อมกับจ้าวเทียนไม่ใช่เหรอ ทำไมพวกเขาถึงพูดแบบนี้กัน ’
“ เอ่อ…ฉันคิดว่าพวกเขาคงตื่นเต้นกันเกินไปหน่อย เลยไม่ทันสังเกตเห็นพวกเรากระมัง ” โซเฟียหันไปพูดกับต้วนมู่เฉียนด้วยสายตาให้กำลังใจ
เมื่อเห็นว่าตัวเกะกะถูกจัดการไปแล้ว จ้าวเทียนก็มองไปทางต้วนมู่เฉียนด้วยแววตาขอบคุณ ก่อนจะหันไปพูดกับลี่เหยาเหยาต่อจากที่พูดค้างเอาไว้
“ เหยาเหยา ฉันคิดถึง… ” แต่เหตุการณ์เดิมเหมือนจะวนกลับมาซ้ำอีกรอบ คราวนี้เป็นโม่ปิงหยูที่ทนรอไม่ไหวอีกต่อไป สาวน้อยคนนี้น้ำตาไหลซึมตั้งแต่แวบแรกที่เห็นจ้าวเทียนแล้ว
“ ฮือ ฮือ อาจารย์คะ ทำไมถึงหายไปนานขนาดนี้…หนู…น่ะ คิดถึงและอยากเจออาจารย์มากเลย ” เธอพูดไปร้องให้ไปพร้อมกับโผเข้ามากอดเอวของจ้าวเทียนเอาไว้ จนทำให้เขาต้องลูบหัวเธอเบาๆเป็นการปลอบโยน
คิกๆๆๆ
ลี่เหยาเหยาที่สังเกตเห็นสีหน้าปั้นยากของจ้าวเทียน เลยเผลอหัวเราะออกมาอย่างลืมตัว เธอไม่ได้โกรธที่ถูกขัดจังหวะหลายครั้ง
เพราะแค่ท่าทางของจ้าวเทียนมันก็ชัดเจนแล้ว ว่าเขาคิดอย่างไรกับเธอ ซึ่งมันก็คงเป็นเช่นเดียวกันกับความรู้สึกที่เธอมีให้เขาเสมอมา
ทันใดนั้น
หมับ!
มือของลี่เหยาเหยาก็ถูกจ้าวเทียนคว้าเอาไว้ แล้วดึงเธอเข้ามาหาเบาๆ พร้อมกลับโน้มใบหน้าเข้าไปกระซิบที่ข้างหูอย่างอ่อนโยน
“ ไว้กลับไปแล้ว ฉันจะแนะนำเธอกับครอบครัวของฉันนะ ”
ด้วยคำพูดประประโยคนี้ ทำให้ลี่เหยาเหยามองกลับมาทางจ้าวเทียนด้วยความตกใจ ก่อนที่จะพยักหน้าตอบรับเบาๆ พร้อมกับใบหน้าที่แดงก่ำด้วยความเขินอาย
“ ยังเป็นคนไม่โรแมนติกเหมือนเดิมเลยนะ…ตาบ้า ”
ลี่เหยาเหยาบ่นกับตัวเองด้วยรอยยิ้มหวานซึ้ง…
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน
ดีๆๆเดินเรื่องดี...
ต่อๆไป...
ขอบคุณทีมงานที่นำเรื่องดีๆมาลงให้อ่าน...