ในขณะที่มองดูคมหอกสีทองก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆ โดยที่ตนเองไม่อาจต่อต้านอะไรได้เลย ช่วงเวลานี้ต้วนมู่เฉียนสัมผัสได้ถึงความอ่อนแอของตัวเองเป็นครั้งแรกในรอบสี่ร้อยปี
ถึงแม้ภายในใจจะยอมรับชะตากรรมแล้ว แต่จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของต้วนมู่เฉียนยังไม่ดับลง ต่อให้รู้ว่ามันไม่มีประโยชน์ แต่เขาก็อยากจะดิ้นรนต่อสู้ดูอีกสักครั้ง
วูป!
แก่นแท้สังหารสังหารได้ปะทุออกมาจากดวงตาของต้วนมู่เฉียน มันเปลี่ยนเป็นคมดาบสีดำ ฟันเข้าใส่ชายผมขาวที่ยืนอยู่ตรงหน้าอย่างรุนแรง นี่คือไม้ตายสุดท้ายของเขา ที่ถูกใช้ออกมาด้วยพลังทั้งหมดที่มี
เปรี้ยงง! แวบ!
แต่ทว่า พริบตาที่คมดาบสีดำสัมผัสกับออร่าสีทองที่ชายคนนั้นปล่อยออกมา มันก็ได้สลายเป็นละอองแสงไปอย่างรวดเร็ว เหมือนกับโยนก้อนน้ำแข็งลงไปในบ่อลาวาที่กำลังเดือดพล่านไม่มีผิด
“ เจ้าจะฝืนต่อต้านไปทำไม ยอมรับความตายอย่างสงบไปเสียเถอะ ” ชายผมขาวพูดออกมาด้วยท่าทีเฉยชา จากนั้นเขาก็สะบัดฝ่ามือเบาๆ ทำให้คมหอกสีทองพุ่งเข้าใส่กลางหน้าผากของต้วนมู่เฉียนทันที
ครืนนน!
เสี้ยววินาทีแห่งความเป็นความตาย ภาพทุกอย่างที่ต้วนมู่เฉียนมองเห็นก็เคลื่อนไหวช้าลง ความทรงจำตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันไหลผ่านความคิดเขาอย่างรวดเร็ว
นับตั้งแต่เข้าสู่เส้นทางของผู้ฝึกตน และได้ผ่านการต่อสู้ในสงครามครั้งใหญ่จนต้องสูญเสียสำนักอาจารย์กับสหายร่วมรบไปจนหมด
จนกระทั่งภาพของหญิงสาวคนหนึ่งได้ปรากฏขึ้นมา เธอเป็นคนที่ทำให้เขาลุกขึ้นสู้ได้อีกครั้ง และยังเป็นคู่ชีวิตที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมานับร้อยปี
‘ ฉันยังมีสัญญาที่ต้องรักษาไว้ ฉันยังตายไม่ได้! ’
ต้วนมู่เฉียนกรีดร้องออกมาในใจอย่างคลุ้มคลั่ง ดวงตาแดงก่ำของเขาจับจ้องไปยังคมหอกสีทอง ด้วยเจตจำนงที่ไม่ยอมแพ้
วูป!
แก่นแท้สังหารของเขาระเบิดขึ้นมาอีกครั้ง และได้เข้าต้านทานคมหอกสีทองเอาไว้ ทำให้มันเคลื่อนที่เข้ามาได้ช้าลงสองส่วน
‘ ยัง…มันยังไม่พอ ฉันต้องการพลังมากกว่านี้ ’
บูมมม!
โลกภายในของเขาได้เผาผลาญต้นกำเนิดพลังของตนเอง เพื่อปลดปล่อยอานุภาพเหนือขีดจำกัดในเวลาสั้นๆ
ครืนนน!
คมหอกสีทองที่อยู่ห่างจากกลางหน้าผากของต้วนมู่เฉียน หยุดชะงักลงครู่หนึ่ง เหมือนเผชิญหน้ากับกำแพงที่มองไม่เห็น ทำให้ไม่อาจทะลวงฝ่าเข้าไปได้
“ เหอะ! ช่างน่ารำคาญยิ่งนัก ” ชายผมขาวแค่นเสียงอย่างเย็นชา จากนั้นดวงตาที่สามตรงกลางหน้าผากของเขาก็เปล่งแสงสว่างสีทองอันเจิดจ้า
ฟูววว!
คมหอกสีทองได้ปลดปล่อยเปลวเพลิงที่โชติช่วง ทำลายแรงต้านทานทุกอย่างของต้วนมู่เฉียนไปทันที
ฉึก!
ในที่สุดคมหอกสีทองก็ฝังลงที่กลางหน้าผากของต้วนมู่เฉียน ทำให้ร่างกายของเขาสั่นสะท้านอย่างรุนแรง แววตาที่เคยเปล่งกระกายได้กลับกลายเป็นว่างเปล่า
พลังที่แฝงมากับคมหอกสีทอง เริ่มทำลายกายเนื้อและดวงวิญญาณอย่างรวดเร็ว ทำให้สติสัมปชัญญะของต้วนมู่เฉียนกำลังจะหลุดลอยไป
ทันใดนั้น
ลึกลงไปในจิตวิญญาณของต้วนมู่เฉียน ผลึกสีดำอันเล็กๆซึ่งเป็นชิ้นส่วนดวงวิญญาณของมหาเทพผานกู่ ก็ได้ตอบสนองต่อพลังภายนอกที่บุกรุกเข้ามาด้วยตัวของมันเอง
โฮกกกก!
เสียงคำรามด้วยความโกรธเกรี้ยวของมหาเทพผู้ให้กำเนิดจักรวาลดังขึ้น สะท้านไปทั่วบริเวณ ทำให้สีหน้าอันเย่อหยิ่งของชายผมขาว แสดงความหวาดกลัวออกมาเป็นครั้งแรก
“ พลังนี้…หรือว่าจะเป็น ”
แต่ยังไม่ทันที่ชายผมขาวจะได้ทำอะไรไปมากกว่านี้ บางสิ่งที่ถูกผนึกเอาไว้ในแกนโลกก็ได้ตอบสนองต่อเสียงคำรามที่เกิดขึ้นก่อนหน้า
บูมมม!
ภาพลวงตาของคมขวานขนาดยักษ์ปรากฏขึ้นเหนือโลกมนุษย์ และได้สับลงมาอย่างดุดันราวกับต้องการทำลายล้างสรรพสิ่ง
เปรี้ยงง! เพล้ง!
เมื่อเสียงที่เหมือนกับกระจกแตกดังขึ้น ห้วงเวลาที่ถูกหยุดเอาไว้ ก็กลับมาเป็นปกติ เป็นการบ่งบอกว่าพลังแห่งกฎเกณฑ์ที่ชายผมขาวใช้ออกมา ได้ถูกทำลายลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โลกทั้งใบก็ได้ฟื้นคืนสีสันกลับมาอีกครั้ง
แน่นอนว่ารวมไปถึงคนอื่นๆที่ถูกผนึกเอาไว้ด้วย…
อั่ก!
เมื่อร่างเจตจำนงกลับคืนสู่กายเนื้อ จ้าวเทียนก็ทรุดลงไปกองอยู่บนพื้นทันที ท่ามกลางสายตาตกตะลึงของคนอื่นๆ ที่เพิ่งจะได้สติ
“ อย่าเข้ามา! พลังของชายคนนี้ไม่ใช่สิ่งที่พวกเราจะต่อกรได้ ” จ้าวเทียนตะโกนออกมาเสียงดัง เพื่อหยุดพวกลี่เหยาเหยาเอาไว้ เขาไม่ต้องการให้ทุกคนได้รับอันตราย
“ รีบ…หนีไป ” ต้วนมู่เฉียนที่บาดเจ็บสาหัสและเพิ่งรอดจากความตายมาอย่างฉิวเฉียด พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง
ศัตรูในครั้งนี้แข็งแกร่งจนเกินไป ต่อให้ทุกคนที่อยู่ตรงนี้ร่วมมือกัน ผลสุดท้ายก็เป็นเพียงการเพิ่มจำนวนผู้เสียชีวิตเท่านั้น
‘ ให้คนชราอย่างฉันตายไปเพียงคนเดียวดีที่สุดแล้ว อย่างน้อยก็สามารถรักษาหนุ่มสาวรุ่นเยาว์ที่จะกลายเป็นความหวังของโลกมนุษย์เอาไว้ได้ ’
แค่เพียงได้สบตากับต้วนมู่เฉียน จ้าวเทียนก็รู้ถึงสิ่งที่อีกฝ่ายคิดในทันที ทำให้เขากำหมัดแน่นด้วยความคับแค้นใจและอับจนหนทาง
“ อยากจะสังหารฉันนักใช่ไหม…งั้นก็เข้ามาสิ ” ต้วนมู่เฉียนฝืนสะกดกลั้นอาการบาดเจ็บเอาไว้ แล้วลุกขึ้นเผชิญหน้ากับฝ่ายตรงข้ามอย่างกล้าหาญไร้ซึ่งความเกรงกลัว
ต่อให้เขาต้องตาย…ก็จะขอตายอย่างสมศักดิ์ศรี ไม่ยินยอมลดเกียรติของตนเด็ดขาด
ทางด้านชายผมขาว หลังจากที่ผนึกพลังทำลายล้างที่ปะทุอยู่ในบาดแผลเอาไว้ เขาก็จ้องมองไปที่ต้วนมู่เฉียนอย่างเย็นชา จากนั้นก็กวาดสายตาไปรอบๆ ก่อนจะหยุดนิ่งที่จ้าวเทียนอยู่ครู่หนึ่ง
“ ข้าเปลี่ยนใจแล้ว…พวกเจ้าทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับเรื่องในครั้งนี้จะต้องตาย ”
!!
ประโยคนี้ของเขาทำให้ทุกคนที่อยู่บริเวณนั้น หน้าเปลี่ยนสีทันที โดยเฉพาะต้วนมู่เฉียนที่เตรียมจะเสียสละตนเองต่อสู้จนตัวตาย ถึงกับคำรามออกมาด้วยความเกรี้ยวกราด
“ ต่อให้ฉันต้องตาย ก็จะไม่ยอมให้แกแตะต้องพวกเขาเด็ดขาด ”
“ เหอะ…เศษสวะอย่างเจ้าจะมีปัญญาขวางข้าได้รึ ” ชายผมขาวพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงดูถูก ตัวเขาเป็นถึงร่างแยกที่เก้าของเต๋าสวรรค์ผู้ปกครองสูงสุดแห่งเอกภพ ย่อมไม่เห็นอีกฝ่ายอยู่ในสายตา
“ หืม…แล้วถ้ารวมพวกฉันเข้าไปด้วยล่ะ ”
!!
ร่างของเทพมังกรอ๋าวเฟิงและเทพมังกรอ๋าวเถียนปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่า เผชิญหน้ากับชายผมขาวอย่างไม่เกรงกลัว
เนื่องจากจ้าวเทียนและเฉินจิ้งนั้นเป็นผู้ถูกเลือกของพวกเขา จะยอมให้ถูกคนนอกมาสังหารไม่ได้เป็นอันขาด
การลงมือในครั้งนี้…ไม่ถือว่าเป็นการละเมิดข้อตกลง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน
ดีๆๆเดินเรื่องดี...
ต่อๆไป...
ขอบคุณทีมงานที่นำเรื่องดีๆมาลงให้อ่าน...