ย้อนกลับไปสิบห้านาทีก่อน ณ นครรัฐวาติกัน
สถานที่แห่งนี้ ตั้งอยู่ในกรุงโรมประเทศอิตาลี เป็นที่ประทับของพระสันตะปาปา ซึ่งเป็นประมุขสูงสุดแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิก
โดยมีการปกครองเป็นแบบอำนาจเบ็ดเสร็จ อำนาจตกอยู่ที่พระสันตะปาปาแต่เพียงผู้เดียว จะหมดวาระก็ต่อเมื่อสิ้นพระชนม์เท่านั้น
ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ประชาชนทั่วไปต่างรับรู้ แต่แท้จริงแล้ว เบื้องหลังของนครรัฐวาติกันก็คือศาสนจักรแห่งแสง แม้แต่ประมุขสูงสุดของพวกเขาก็ยังต้องได้รับการยอมรับจากสตรีศักดิ์สิทธิ์โซเฟียก่อน ถึงจะเข้ารับตำแหน่งได้
และเมื่อคำนึงถึงสาวกคริสตจักรที่มีอยู่ทั่วทุกแห่งหน มันก็ได้ทำให้ศาสนจักรแห่งแสงกลายเป็นองค์กรเบื้องหลังที่มีอำนาจมากที่สุดในโลก
จนกระทั่ง
เมื่อสามประเทศ ญี่ปุ่น อียิปต์และไอซ์แลนด์ สามารถทำพิธีจุติเทพเจ้าได้สำเร็จ ก็ส่งผลกระทบใหญ่หลวงต่อนครรัฐวาติกันทันที
ความศรัทธาของสาวกพวกเขา กำลังถูกสั่นคลอนอย่างรุนแรง ทั้งยังเกิดความสงสัยว่าเทพเจ้าที่เคารพบูชาอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน มีตัวตนอยู่จริงหรือไม่ แล้วเหตุใดถึงยังไม่แสดงตัวเหมือนศาสนาอื่น
ด้วยปัญหาข้อนี้เอง ที่ทำให้พวกโซเฟียต้องรีบกลับมาควบคุมสถานการณ์โดยเร็วที่สุด เพื่อป้องกันศัตรูคิดฉวยโอกาสกับความวุ่นวายที่เกิดขึ้น
ภายในห้องประชุมลับของศาสนจักรแห่งแสง ที่ผ่านการถกเถียงมาอย่างยาวนาน ก็ยังไม่อาจหาวิธีแก้ปัญหาที่เหมาะสมได้เสียที
เนื่องจาก โดยพื้นฐานแล้วพวกเขาเป็นขุมกำลังแยกย่อยของโลกทิพย์แห่งแสง ไม่ได้มีความสัมพันธ์กับแดนสวรรค์มากนัก คงไม่อาจใช้วิธีเดียวกับสามประเทศเหมือนอย่างที่ผ่านมาได้
เพราะต่อให้จักรพรรดิแห่งแสงสว่างจุติลงมาเอง ความแข็งแกร่งก็ยังด้อยกว่าตัวแทนจากขุมกำลังชั้นยอดบนแดนสวรรค์ขั้นหนึ่ง ถ้าถูกฝ่ายตรงข้ามท้าทาย จนเกิดการต่อสู้แล้วพ่ายแพ้ ผลลัพธ์มันจะยิ่งเลวร้ายกว่าเดิม
ทันใดนั้น
“ แย่แล้วครับ ตอนนี้ที่ท้องฟ้าด้านนอกเกิดปรากฏการณ์สลับกลางวันเป็นกลางคืน พร้อมกับมีภาพหญิงสาวคนหนึ่งปรากฏขึ้น ” บาทหลวงคนหนึ่งรีบวิ่งเข้ามารายงานอย่างร้อนรน
“ ว่ายังไงนะ คราวนี้เป็นฝีมือของประเทศไหนอีกล่ะ ทำไมฉันถึงไม่ได้รับแจ้งอะไรล่วงหน้าเลย ” ออโรร่าพูดขึ้นด้วยความหงุดหงิด สถานการณ์ปัจจุบันของพวกเธอก็เลวร้ายพออยู่แล้ว ยังจะมีศัตรูใหม่ลงมาเพิ่มอีกหรือ
“ ตอนนี้ยังไม่มีประเทศไหนออกมายอมรับ แต่ถ้าเปรียบเทียบจากลักษณะของหญิงสาวคนนั้น ผมคิดว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับประเทศจีนครับ ”
!!
“ ประเทศจีน…นายดูไม่ผิดแน่นะ ” ทุกคนในห้องประชุม หันมาสบตากันด้วยความแปลกใจ
“ พวกเรา ออกไปดูกันเถอะ ” โซเฟียพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง แล้วเดินนำออกไปทันที สถานที่ประชุมของพวกเธออยู่ลึกลงไปใต้ดินหลายสิบเมตร ทำให้ต้องใช้เวลาอยู่บ้างในการออกไปด้านนอก
ผ่านไปครู่หนึ่ง
“ นี่มัน! เป็นไปไม่ได้ ” โซเฟียอ้าปากค้างด้วยความตกใจ เมื่อเห็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นบนท้องฟ้า เพราะเธอรู้ดีว่ามันหมายความว่าอย่างไร
จักรพรรดิเทพองค์ใหม่กำลังจะถือกำเนิดขึ้น อีกทั้งยังเป็นผู้ที่เธอรู้จักดีอีกด้วย
‘ เจ้าสำนักหลินทำเช่นนี้…ไม่กลัวจะเป็นการท้าทายอำนาจของวังสวรรค์งั้นเหรอ มหาเทพอวี่หวงไม่ยอมอยู่เฉยแน่ ’
‘ แย่แล้ว แย่แน่ๆ นี่มันเรื่องใหญ่เกิดกว่าที่ฉันจะตัดสินใจได้ ต้องรีบติดต่อท่านจักรพรรดิแห่งแสงสว่างทันที ’
หากเธอจะร้อนรนก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะในยุคสมัยนี้จักรพรรดิเทพองค์ปัจจุบันยังมีชีวิตอยู่ และจักรวาลเองไม่อาจรองรับผู้ปกครองได้ถึงสองคน
ในกรณีที่เลวร้ายที่สุด มันอาจจะเกิดสงครามช่วงชิงอำนาจครั้งใหญ่ ที่จะชักนำแดนสวรรค์และโลกทิพย์ทั้งหมดเข้าสู่กรียุคได้เลย
ในเวลาเดียวกัน
ทั่วทุกมุมโลกในตอนนี้ ประชาชนทุกคนต่างพากันเงยหน้ามองดูท้องฟ้า แต่ไม่ได้มีอาการตื่นตระหนกหรือหวาดกลัวเหมือนตอนแรก
เนื่องจากพวกเขาเคยเจอเหตุการณ์ที่คล้ายกันมาก่อน ทำให้ทุกคนพากันคาดเดาอย่างตื่นเต้นว่าคราวนี้จะเป็นเทพเจ้าองค์ไหนจุติลงมาอีก
ทำให้สถานการณ์ที่กำลังได้เปรียบมาตลอด พลิกกลับจากหน้ามือเป็นหลังมือ บิดาของโอดินซึ่งเป็นผู้นำในยุคนั้นก็ได้ถูกมหาเทพอวี่หวงสังหาร ทำให้อาณาจักรเทวะตำนานรวมไปถึงกองทัพพันธมิตรที่เหลือพ่ายแพ้สงครามอย่างยับเยิน
และที่น่าแค้นใจที่สุด มิตรแท้เพียงหนึ่งเดียวของอาณาจักรเทวะตำนาน ที่ร่วมรุกร่วมถอยมาด้วยกัน กลับต้องเป็นผู้เสียสละรองรับโทสะของวังสวรรค์ จนถูกกวาดล้างล่มสลายไปในคืนเดียว
เรื่องนี้สร้างความโกรธแค้นให้โอดินเป็นอย่างมาก จนเขาสาบานด้วยจิตวิญญาณว่าจะต้องแก้แค้นศัตรูทั้งหมดให้จงได้ ไม่ว่าจะต้องแลกมาด้วยอะไรก็ตามที
“ โอดิน เจ้าก็รู้ในตอนนั้นพวกเราไม่มีทางเลือก มันเกิดกบฏขึ้นในอาณาเขตปกครองของพวกเรา หากไม่รีบกลับไปคุมสถานการณ์ไว้ก่อน ผลสุดท้ายคงเลวร้ายสุดจะคาดคิด ” อามาเทราสุพูดขึ้นด้วยความจริงใจ ทำให้สีหน้าของโอดินผ่อนคลายลงเล็กน้อย
“ ใช่แล้ว…ถึงแม้พวกเราจะทำผิดจริง แต่เจ้าก็ต้องไม่ลืมว่า สาเหตุที่อาณาจักรเทวะตำนานไม่ได้ถูกกวาดล้างไปหลังแพ้สงคราม ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะความพยายามของพวกเราเช่นกัน ”
คำพูดของโอซิริส ทำให้โอดินอ้าปากเหมือนจะพูดบางอย่าง แต่สุดท้ายเลือกที่จะเงียบลงแล้วถอยหายใจเบาๆ เพราะแม้จะไม่อยากยอมรับ แต่เรื่องนี้ก็เป็นความจริงเช่นเดียวกัน
“ บอกจุดประสงค์ของพวกเจ้ามาเถอะ คิดจะตั้งพันธมิตรขึ้นมาอีกครั้งใช่หรือไม่ ”
เมื่อได้ยินแบบนั้น เทพโอซิริสกับเทวีอามาเทราสุก็หันมาสบตากันด้วยรอยยิ้ม ที่สามารถเกลี้ยกล่อมฝ่ายตรงข้ามได้สำเร็จ
“ ข้ารู้ดีว่าเจ้าต้องการแก้แค้นให้บิดามาโดยตลอด ซึ่งเวลานั้นมันก็ได้มาถึงแล้ว พวกเราจะเคลื่อนทัพใหญ่ไปคลี่คลายวงล้อมสำนักดาราสวรรค์ เพื่อให้หลินซินเยว่สามารถทลายขอบเขตจักรพรรดิเทพได้สำเร็จ ”
“ จากนั้น ก็ใช้เธอเป็นตัวหมากในการต่อสู้กับมหาเทพอวี่หวง ไม่ว่าใครจะชนะ พวกเราก็จะร่วมมือกันสังหารคนที่เหลือรอดทันที ” โอซิริสพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม เขารู้ว่าอีกฝ่ายจะต้องเห็นด้วยแน่นอน
เพราะโอกาสแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย ตลอดหนึ่งล้านปีที่ผ่านมา มีเพียงสองครั้งเท่านั้นที่จะมีจักรพรรดิเทพถือกำเนิดขึ้นสององค์ในยุคสมัยเดียวกัน
ถ้าโอดินไม่ยอมคว้าโอกาสนี้เอาไว้ ก็ต้องรอให้มหาเทพอวี่หวงสิ้นอายุขัยไปเอง ไม่ก็ต้องหาวิธีทำให้ตัวเองบรรลุขอบเขตจักรพรรดิเทพ ซึ่งก็ไม่รู้จะต้องใช้เวลากี่หมื่นปี เขาถึงจะมีโอกาสแก้แค้นได้สำเร็จ
และก็เป็นไปตามคาด หลังจากตึกตรองดูแล้วโอดินก็ตอบตกลงในที่สุด ทั้งสามจึงหลับตาลง เพื่อถอดจิตสื่อสารกับร่างต้นของตนเอง
เวลานี้…กองทัพพันธมิตรของสามมหาอำนาจได้ถูกก่อตั้งขึ้นเรียบร้อย และพร้อมจะเคลื่อนทัพไปยังสำนักดาราสวรรค์ในบัดดล
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน
ดีๆๆเดินเรื่องดี...
ต่อๆไป...
ขอบคุณทีมงานที่นำเรื่องดีๆมาลงให้อ่าน...