จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 415

เวลานี้ ทั่วโลกกำลังเกิดความสับสนวุ่นวายเป็นอย่างมาก ทุกคนต่างพากันพูดถึงปรากฏการณ์บนท้องฟ้าไม่ว่างเว้น

ไม่ว่าจะเป็นผู้ฝึกตนหรือปุถุชนคนธรรมดา ที่ได้จ้องมองไปยังภาพของหญิงสาวชุดขาวหลังจากที่เธอลืมตาขึ้น ก็พากันตกอยู่ในภวังค์ แล้วคุกเข่าคำนับเธอโดยไม่รู้ตัว

จนกระทั่งเมื่อทุกอย่างจบสิ้นแล้ว ท้องฟ้าได้กลับมาเป็นปกติ พวกเขาถึงรู้สึกตัวลุกขึ้นมามองหน้ากันเองด้วยความสับสนมึนงง

ที่เป็นเช่นนี้ ไม่ใช่เพราะพวกเขาถูกมนต์สะกดหรือเคล็ดวิชาควบคุมจิตใจ แต่มันเป็นสัญชาตญาณส่วนลึกในจิตวิญญาณของสิ่งมีชีวิตทั้งมวล เมื่อพบเห็นจักรพรรดิเทพผู้อยู่เหนือสรรพสิ่ง ผู้ปกครองที่แท้จริงแห่งจักรวาล

“ หญิงสาวชุดขาว เป็นใคร? ”

“ นี่คือ เทพเจ้าที่แท้จริงใช่ไหม? ”

“ เทพเจ้าองค์นี้…กำลังจะจุติลงมาบนโลกของเรางั้นเหรอ ”

นี่คือคำถามมากมาย ที่ไม่มีผู้ใดสามารถให้คำตอบได้ มันไม่เหมือนในอดีตที่มีรายละเอียดข้อมูลชัดเจน ปรากฏการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นโดยไม่มีเค้าลางมาก่อน

ทำให้ทุกคนต่างพากันคาดเดากันวุ่นวาย สื่อทุกช่องทางพากันจับประเด็นร้อนนี้มาถกเถียงวิเคราะห์กันอย่างดุเดือด

จนถึงกับมีการเปรียบเทียบกับพิธีจุติเทพสามครั้งแรก ว่าใครกันแน่ที่เป็นของจริง ซึ่งพวกเขาก็ได้คำตอบอย่างรวดเร็ว เพราะมีคลิปวีดีโอของประชาชนในประเทศญี่ปุ่น ไอซ์แลนด์ และอียิปต์ที่ลงไปคุกเข่ากราบกรานหญิงสาวคนนี้เช่นเดียวกัน

มันจึงกลายเป็นช่องทางให้ลัทธิหรือนิกายขนาดเล็กอื่นๆ ผลักดันตนเองออกมาประกาศว่า หญิงสาวชุดขาวคือเทพเจ้าสูงสุดของพวกเขา ทำให้เกิดเป็นมรสุมช่วงชิงอำนาจกันอีกครั้ง

ในรายการยอดนิยมอย่างช่องข่าว CNN

ขณะที่พิธีกรกำลัง เปิดโอกาสให้ตัวแทนจาก NASA ได้อธิบายปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น แขกรับเชิญสองกลุ่มก็ได้พูดจาถากถางกันเองไปมา ก่อนที่หนึ่งในนั้นจะเปิดเผยพลังกลางห้องถ่ายทอด

เขาลอยสูงเหนือพื้นสองเมตร ปลดปล่อยออร่าสีทองเจิดจ้าพร้อมกับประกาศออกมาเสียงดัง ท่ามกลางสายตาตกตะลึงของทุกคน

“ เหล่าสาวกทั้งหลาย เทพผู้สร้างของพวกเรากำลังจะจุติลงมาพิพากษามนุษย์ผู้หลงผิดทุกคน จงเข้าร่วมลัทธิวันสิ้นโลกและสวดภาวนาเพื่อที่จะได้มีชีวิตรอด ”

สิ้นเสียง ชายสวมชุดคลุมสีดำเกือบยี่สิบคนก็พุ่งทะยานขึ้นไปบนเวทีแล้วเริ่มสวดภาวนาทันที

แต่ทันใดนั้นเอง

“ เหลวไหลสิ้นดี! ท่านผู้นี้คือมารดาศักดิ์สิทธิ์ของนิกายสวรรค์ดาวดึงส์ของพวกเราต่างหาก พวกที่แอบอ้างจงไสหัวไปซะ ”

บูมม!

ชายชราเครายาวสวมชุดสีทอง สะบัดไม้เท้าออกไปเกิดเป็นลำแสงเจ็ดสี กวาดสาวกชุดดำกระเด็นตกเวทีไปจนหมด แล้วพาพรรดพวกของตนขึ้นไปประกาศคำสอนบนเวทีแทน

จากนั้นทั้งสองฝ่ายก็พุ่งเข้าต่อสู้กัน จนสถานที่จัดงานพังพินาศและต้องหยุดการถ่ายทอดสดไปในที่สุด

“ นี่มันเกินกว่าที่ฉันคิดไว้ซะอีก แต่ก็ช่างเถอะ ”

จ้าวเทียนจับตามองสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะสั่งการให้ทุกคนเริ่มแผนการทันที เพราะตอนนี้โอกาสของพวกเขาได้มาถึงแล้ว

“ เริ่มต้นแฮกระบบดาวเทียมสื่อสารทั่วโลก จะสำเร็จในอีก สิบ เก้า แปด …. ”

เจ้าหน้าที่ระดับสูงคนหนึ่งนับถอยหลังเสียงดัง เขาเป็นผู้ฝึกตนขอบเขตเซียนที่เชี่ยวชาญด้านเครือข่ายข้อมูลอันดับหนึ่งของประเทศ

ด้วยร่างกายเหนือมนุษย์รวมกับประสบการณ์หลายสิบปีในแวดวงแฮกเกอร์ คงยากมากที่จะหาคนมาต่อกรกับเขาได้

ในเวลาเดียวกัน ณ ทำเนียบขาว

ห้องทำงานอันหรูหราของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เต็มไปด้วยเจ้าหน้าที่ระดับสูงมากมาย ที่กำลังถกเถียงกันถึงมาตรการดูแลความสงบเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ทันใดนั้น

เจ้าหน้าที่คนหนึ่งก็เปิดประตูเข้ามาอย่างรีบร้อน โดยไม่ได้ขออนุญาตก่อน ดึงดูดความสนใจของทุกคนไปทันที

“ แย่แล้วครับท่าน ดาวเทียมสื่อสารของพวกเราทั้งหมดถูกแฮก จนตอนนี้ได้สูญเสียการควบคุมไปแล้ว ”

“ แท้จริงแล้ว ตลอดระยะเวลาสามร้อยปีที่ผ่านมา ประเทศจีนของเราได้มีเทพพิทักษ์คอยป้องดูแลอยู่เบื้องหลัง มีอำนาจเหนือรัฐบาลและฝ่ายกองทัพทั้งหมด ”

“ ซึ่งก่อนหน้านี้ตัวตนของท่านผู้นั้นได้ถูกปิดไว้เป็นความลับ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความสับสนวุ่นวาย และส่งผลกระทบต่อระบบการปกครองในประเทศ”

“ แต่วันนี้ ตำแหน่งเทพพิทักษ์อันทรงเกียรติ ได้ถูกส่งมอบให้กับผู้สืบทอดคนใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว อีกทั้งเขายังเป็นผู้เกี่ยวข้องโดยตรงกับปรากฏการณ์บนท้องฟ้า ที่ได้สร้างความตื่นตระหนกไปทั่วโลกอีกด้วย ”

สิ้นเสียง ภาพก็ได้จับไปที่ชายหนุ่มผู้หนึ่งในชุดเครื่องแบบพลเอก ก้าวออกมาจากด้านหลังเวทีพร้อมกับผู้ติดตามอีกเกือบยี่สิบคน

พรึบ!

พลเอกทั้งหกคนรวมไปถึงผู้มีตำแหน่งทางกองทัพที่ยืนอยู่บนเวที ทำความก้าวกระทืบเท้า ยกมือเคารพแบบทหารทันที ซึ่งเรื่องนี้มันก็ได้สร้างความตกใจให้กับผู้ที่ชมการถ่ายทอดสดเป็นอย่างมาก

เพราะดูไปแล้วจ้าวเทียนมีอายุเพียงยี่สิบกว่าปีเท่านั้น แต่พลเอกทุกคนที่มีความอาวุโสกว่าเขามาก กลับแสดงความเคารพโดยไม่ลังเล

และเมื่อจ้าวเทียนเดินมาหยุดอยู่ตรงด้านหน้าเวทีเรียบร้อยแล้ว ประธานาธิบดีจีนก็ประกาศออกมาเสียงดัง

“ นี่คือ เทพพิทักษ์คนปัจจุบันของประเทศจีน ผู้บัญชาการสูงสุดของหน่วยรบพิเศษทั้งสี่ ซิงหลง จูเชว่ ไป๋หู่ เสวียนอู่ พลเอกจ้าวเทียน ”

จ้าวเทียนก็ได้หันไปทำความเคารพแบบทหารให้ทุกคนที่ยืนอยู่บนเวที จากนั้นเขาก็เหยียบอากาศก้าวเดินขึ้นไปบนท้องฟ้าพร้อมกับผู้ติดตามทุกคน

ซึ่งตลอดเวลา กล้องก็ได้ซูมไปที่ใบหน้าอันหล่อเหลาของจ้าวเทียน ที่ดูเคร่งขรึมจริงจัง แววตาของเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจเด็ดเดี่ยว

ออร่าที่เขาปล่อยออกมาทำให้ผู้ชมทุกคนเกิดความรู้สึกเคารพ จนหลงลืมเรื่องอายุที่ยังดูเยาว์วัยไป

แต่ทว่า เมื่อกล้องได้เคลื่อนไปยังหญิงสาวที่อยู่ด้านซ้ายมือของจ้าวเทียน มันก็ได้เกิดความปั่นป่วนวุ่นวายทั่วโลกทันที หลายคนพยายามขยี้ตาตัวเองแล้วจ้องมองไปที่ใบหน้าของหญิงสาวคนนั้นอีกครั้ง

ลี่เหยาเหยา! เป็นลี่เหยาเหยาจริงๆ พวกเขาไม่ได้ตาฝาด

ซูเปอร์สตาร์ระดับโลกอย่างเธอมาอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร และที่สำคัญเธอกำลังเดินอยู่บนฟ้าเหมือนกับคนอื่นๆอีกด้วย

ทั้งค่ายเพลงต้นสังกัด และกลุ่มดารานักแสดงต่างประเทศ ต่างพากันอ้าปากค้างด้วยความตกใจ พวกเขาไม่เคยรู้เลยว่าตนเองได้ร่วมงานกับยอดมนุษย์หญิงมาโดยตลอด

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน