จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 417

ในขณะที่ประชาชนภายในเมืองปักกิ่งกำลังตื่นตกใจ กับร่างมหาเทพสูงหมื่นห้าพันเมตรของจ้าวเทียน มหาอำนาจต่างๆทั่วโลกก็รีบออกมาเคลื่อนไหวอย่างพร้อมเพียงกัน เพื่อดึงความเชื่อมั่นของพวกตนคืนมา

เนื่องจากเพราะ ต้องเสียเวลากับฉากเปิดตัวของร้อยสำนักเซียนโบราณไปเกือบครึ่งชั่วโมง ทำให้มีประเทศอื่นๆสามารถแฮกระบบดาวเทียมสื่อสารกลับมาได้ จึงเริ่มออกรายการถ่ายทอดสดโจมตีประเทศจีนทันที

“ สิ่งที่ประเทศจีนได้ทำลงไป มันคือการก่อการร้ายระดับโลก มีเจตนาคุกคามความมั่นคงของนานาประเทศ ทั้งยังเป็นการหลอกลวงประชาชน ”

“ เทพเจ้าของพวกเราที่จุติลงมาไม่ใช่ผู้บุกรุกจากต่างมิติ ไม่จำเป็นต้องให้ผู้ใดมาควบคุมดูแล ”

ญี่ปุ่น ไอซ์แลนด์ อียิปต์ ได้เชิญตัวแทนรัฐบาลของประเทศตนออกมา เรียกร้องให้UN เพิกถอนประเทศจีนออกจากการเป็นสมาชิก

“ ด่วน! ทางเราได้รับรายงานมาว่า ประเทศจีนเองก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้บุกรุกจากต่างมิติเช่นเดียวกัน ”

“ ขอประชาชนทุกคนอย่าได้หลงเชื่อ ส่วนเรื่องปรากฏการณ์บนท้องฟ้า รัฐบาลสหรัฐเชื่อว่าเป็นเพียงภาพสะท้อนจากผู้มีพลังต่างมิติ ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆกับโลกของเรา ”

โฆษกทำเนียบขาวออกมาให้สัมภาษณ์ ผ่านทางช่องCNN เพื่อต้องการลดความน่าเชื่อถือของประเทศจีน

“ เปิดเผยโฉมหน้าจอมหลอกลวง ผู้พิทักษ์ของประเทศจีนเป็นเพียงหุ่นเชิดของรัฐบาลเท่านั้น ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับปรากฏการณ์บนท้องฟ้าใดๆทั้งสิ้น ”

“ เหล่าสาวกเอ๋ย จงออกมาสำแดงพลังเพื่อกำจัดผู้ลบหลู่ เทพมารดาผู้สร้างสูงสุดของพวกเรา ”

นิกายและลัทธิต่างๆ ที่ต้องการใช้หลินซินเยว่ในการหาผลประโยชน์ ได้ออกมากล่าวหารัฐบาลจีนจากทุกช่องทาง ทั้งยังขุดคุ้ยประวัติจ้าวเทียนออกมาตีแผ่ ว่าเขาเป็นเพียงนักศึกษามหาลัยที่ยังเรียนไม่จบ

การเคลื่อนไหวพร้อมกันของมหาอำนาจทั่วโลก สร้างความตื่นตระหนกให้ประชาชนของนานาประเทศเป็นอย่างมาก ทำให้จิตใจของพวกเขาเกิดความลังเล และเริ่มคล้อยตามความคิดเห็นของคนส่วนใหญ่

ตอนนี้ความคิดของมวลชนเริ่มโน้มเอียงไปในทิศทาเดียวกัน หรือว่าประเทศจีนกำลังหลอกลวงทุกคนจริงๆ ไม่อย่างนั้นคงไม่เกิดกระแสต่อต้านขนาดนี้

สำนักดาราสวรรค์ ณ เขตแดนทิศบูรพา

หลินซินเยว่ที่เพิ่งจะเจรจาเงื่อนไขกับโอดินและอีกสองขุมกำลังชั้นยอดเสร็จ เธอก็กวาดตามองไปยังทิศทางของดาราจักรทางช้างเผือก

‘ เมื่อครู่นี้ ข้าสัมผัสได้ถึงการตอบสนองจากแผ่นป้ายศิษย์หลักของจ้าวเทียน มันจะมีอะไรเกิดขึ้นกับเขาหรือเปล่านะ ’

วูป!

เจตจำนงแห่งจักรพรรดิเทพอยู่เหนือกาลเวลา มันได้ข้ามผ่านระยะทางหลายล้านๆปีแสง ไปยังตำแหน่งที่จ้าวเทียนอยู่ในพริบตาเดียว ทำให้หลินซินเยว่รับรู้ได้ถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นบนโลกมนุษย์อย่างชัดเจน

‘ หืม…ศิษย์คนนี้ของข้าช่างคิดจริงๆ กำลังใช้โอกาสที่ข้าบรรลุขอบเขตจักรพรรดิเทพให้เป็นประโยชน์สินะ ’

ด้วยศาสตร์แห่งการพยากรณ์อันลึกล้ำ เธอจึงเข้าใจแผนการทั้งหมดของจ้าวเทียนโดยไม่ต้องให้เขาบอก และเมื่อได้ทำนายอนาคตหลากหลายเส้นทาง เธอก็คัดเลือกวิธีที่ได้ประโยชน์ที่สุดมาสนับสนุนศิษย์รักของตน

‘ เดิมที เขาคงต้องการให้ข้าส่งร่างอวตารลงไป แต่แบบนั้นมันคงไม่เกิดผลซักเท่าไหร่ คงจะดีที่สุด ถ้าข้าจะไปเยือนโลกมนุษย์ด้วยกายทิพย์แห่งจักรพรรดิเทพแท้จริง ’

เมื่อคิดได้เช่นนั้น ร่างของหลินซินเยว่ก็สลายเป็นละอองแสงสีทองหายไปทันที

ณ เมืองปักกิ่ง ประเทศจีน

ร่างกายอันสูงใหญ่เทียมฟ้าของจ้าวเทียน ยืนนิ่งไม่ไหวติงด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เพราะนี่มันก็เกือบสิบนาทีแล้ว ที่เขาไม่ได้รับการติดต่อจากท่านอาจารย์

‘ เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่านะ โดยปกติท่านอาจารย์สามารถส่งร่างแยกลงมาในเวลาไม่ถึงนาทีไม่ใช่เหรอ ’

‘ จะให้ทิ้งเวลาต่อไปแบบนี้ก็คงไม่ได้ด้วยซิ เพราะประชาชนเริ่มสูญเสียความเชื่อมันในตัวฉันไปเรื่อยๆแล้ว ’

ในปัจจุบัน จ้าวเทียนเหมือนได้ขึ้นขี่หลังเสืออย่างแท้จริง หากในไม่กี่นาทีนับจากนี้ หลินซินเยว่ยังไม่ส่งร่างอวตารลงมา เขาคงกลายเป็นคนลวงโลกอย่างแน่นอน

ทันใดนั้น

สีหน้าของจ้าวเทียนก็เปลี่ยนไป และรีบหันมองไปยังทิศทางหนึ่งอย่างรวดเร็ว

“ ความรู้สึกนี่มัน…ท่านอาจารย์กำลังมางั้นเหรอ ”

บนท้องฟ้าตอนนี้ ได้ปรากกฎดวงอาทิตย์อีกดวงขึ้น เพียงแต่มันเปล่งแสงสว่างสีทองนวลตา ไม่เจิดจ้าแสบตา จนจ้องมองโดยตรงไม่ได้แบบดวงอาทิตย์ดวงแรก

ปรากฏการณ์นี้ไม่ใช่เพียงจ้าวเทียนคนเดียวที่สังเกตเห็น สื่อจากหลายช่องทางก็นำภาพขึ้นจอ และเริ่มถ่ายทอดสดทันที ทำให้การปลุกปั่นกระแสโจมตีประเทศจีนหยุดลงไปชั่วขณะ

พูดจบ พิธีกรคนนั้นก็หลับตาสวดพาวนาถึงพระเจ้าของเขา ไม่สนใจการถ่ายทอดสดอะไรอีก และก็ไม่ใช่แค่เขาคนเดียวที่ทำแบบนั้น

ตอนนี้ผู้คนทั่วทั้งโลกต่างก็ทำแบบเดียวกัน โดยเฉพาะตัวแทนลัทธินิกายต่างๆ ที่พากันคุกเข่ากราบกรานหญิงสาวชุดขาวด้วยความหวาดกลัว

เนื่องจากด้วยเวลาที่เหลือไม่ถึงนาที คงไม่มีประโยชน์ที่พวกเขาจะไปทำเรื่องอื่นอีกแล้ว แม้แต่อาชญากรชั่วร้ายที่คิดจะก่อความไม่สงบ ก็ยังรู้ตัวเลยว่าตนเองคงออกไปปล้นฆ่าใครไม่ทันแน่นอน

ในขณะที่ทุกคน กำลังเฝ้ารอชะตากรรมของตนเองอย่างลุ้นละทึก พวกเขาก็รู้สึกว่าเวลาผ่านไปช้ามาก แค่ไม่กี่วินาทีแต่กลับยาวนานนับปีในความคิดของพวกเขา

ตึกๆๆ

เสียงหัวใจของมนุษย์ทุกคนเต้นดังถี่รัว เพราะตอนนี้หญิงสาวชุดขาวได้เข้ามาใกล้โลกมากพอให้พวกเขามองเห็นขนาดของเธอได้ชัดเจน

และเพียงแค่เธอยื่นใบหน้าเข้ามาใกล้เรื่อยๆ มันก็ได้บดบังท้องฟ้าทั้งหมดไปในพริบตา

‘ นี่เธอกำลังจะกินโลกของเราเหรอ ไม่นะ ฉันยังไม่อยากตาย ’

หลายคนบนโลก เหม่อมองใบหน้าขนาดใหญ่ที่ขยับเข้ามาใกล้ด้วยความสิ้นหวัง จนถึงกับมีคนปัสสาวะเรี่ยราด หมดสติทรุดลงไปกองกับพื้นมากมาย

ทันใดนั้น มุมปากของหญิงสาวชุดขาวก็ปรากฏรอยยิ้มขบขันขึ้น ก่อนจะเอ่ยคำพูดออกมาเบาๆ

“ สวัสดี ชาวโลก ”

!!

“ ………. ”

นี่มันช่างเป็นคำพูดที่เหนือความคาดหมาย จนทำให้โลกทั้งใบตกอยู่ในความเงียบ ไม่มีแม้แต่เสียงระบายลมหายใจของผู้คน

โดยเฉพาะจ้าวเทียนที่รู้จักนิสัยของอาจารย์ตัวเองดี ในอดีตเธอเป็นคนจริงจัง ไม่มีทางมาเล่นสนุกแบบนี้แน่นอน

‘ เฮ้อ… นี่คงเป็นฝีมือของหลินซิงเสวียน ช่วงที่ฉันไม่อยู่ ไม่รู้ว่าเธอไปสอนอะไรให้ท่านอาจารย์บ้าง ’