ภายในบ้านของลุงซุย ตอนนี้ทุกคนกำลังมองมาทางจ้าวเทียนด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เพราะเหตุการณ์การต่อสู้นั้นเกิดขึ้นไม่ไกลจากบ้านของลุงซุย
เพราะเหตุนั้นลุงซุยกับเฉินจิ้งจึงไปถึงที่เกิดเหตุก่อนพวกตำรวจ
“ มันเกิดอะไรขึ้น…หลานบอกลุงได้ไหม ” ลุงซุยถามด้วยสีหน้าเป็นกังวล
สภาพที่เขาได้เห็นนั้นมันไม่ต่างจากสนามรบเลย ทั้งเศษซากจากแรงระเบิดและกองซากศพที่กระจัดกระจาย
นี่มันไม่ใช่แค่เรื่องการขัดแย้งผลประโยชน์ในเมืองเล็กๆแล้ว อีกฝ่ายวางแผนลอบสังหารมาเป็นอย่างดี ทีมชั้นยอดพร้อมกับอาวุธครบครัน
แต่ถึงเป็นแบบนั้น…
จ้าวเทียนกลับไร้รอยบาดแผลโดยสิ้นเชิง…
ความสามารถของเขาทะลุขอบเขตมนุษย์ไปแล้วใช่ไหม…
“ ผมไม่สามารถจับตัวใครไว้ได้เลย…คนพวกนั้นต่างสู้จนตัวตาย ”
“ แต่ถ้าให้ผมเดามันคงเป็นฝีมือของตระกูลจ้าวเมืองปักกิ่ง ”
จ้าวเทียนตอบอย่างมั่นใจ ตอนนี้ภายในห้องไม่มีคนนอก พวกซุยลี่เหยากับเพื่อนๆและแม่ของเธอกลับไปแล้ว
ตูม!
โต๊ะรับแขกแตกกระจายเป็นชิ้นๆทันที ด้วยโทสะของลุงซุย
“ พวกมันอีกแล้ว!...ทำไมพวกมันยังไม่ยอมจบ ” ลุงซุยตะโกนขึ้นด้วยความโกรธ น้องร่วมสาบานของเขาก็ตายไปแล้ว พวกมันยังต้องการฆ่าหลานชายเขาอีก
จ้าวเทียนมองท่าทางโกรธแค้นของลุงซุย แล้วก็คิดไปถึงเรื่องราวบางอย่างในใจ
ลุงซุยต้องรู้อะไรบางอย่างนอกเหนือจากที่ฉันรู้แน่…
“ ตอนนี้พี่โทรแจ้งตระกูลลี่ให้แล้วนะ พวกเขากำลังเดินทางมา ” กงเสี่ยวเหมยพูดขึ้น แน่นอนว่ายายของเธอก็มาด้วยเช่นกัน
เรื่องในครั้งนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่มาก หากจ้าวเทียนเป็นอะไรไป ความร่วมมือทางธุรกิจของทั้งสองตระกูลก็จบลงเช่นกัน นั่นรวมไปถึงงานประมูลที่จะจัดขึ้นในอีกสองวันด้วย
หืมม
“ ดูเหมือนเราจะมีแขกไม่ได้รับเชิญนะครับ ” จ้าวเทียนมองไปทางตำแหน่งที่เคยมีประตูบ้านอยู่ ซึ่งถูกเขาทำลายทิ้งไป
“ นั่นใคร!...ออกมาซะ ” ลุงซุยลุกยืนขึ้นทันที กล้ามาแอบฟังพวกเขาคุยกันงั้นเหรอ
!!
ชายในชุดสูทสีดำ เดินนำเจ้าหน้าที่ตำรวจ 10 นายเข้ามา ซึ่งทั้งหมดสวมชุดหน่วยรบพิเศษพร้อมเกราะกันกระสุนติดตั้งอาวุธครบมือ
“ สวัสดีครับผู้พันซุย…วันนี้ผมคงต้องขอรบกวนเวลาพวกคุณซักเล็กน้อย ” ชายสวมชุดสูทพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม
“ หลงซิงเสวียน!...ที่นี่ไม่ต้อนรับแก เชิญออกไปได้แล้ว ” ลุงซุยจงใจพูดชื่ออีกฝ่ายออกมาเสียงดังให้พวกจ้าวเทียนรู้ตัว
เพราะก่อนหน้านี้ กงเสี่ยวเหมยได้เล่าเรื่องข้อบาดหมางกับตระกูลหลงให้ลุงซุยฟังแล้ว ทุกคนในห้องเมื่อได้รู้ว่าเป็นคนของตระกูลหลงก็มีสีหน้าเย็นชาทันที
“ อย่าพูดจาตัดเยื่อใยกันแบบนั้นสิครับ…วันนี้ผมมาปฏิบัติหน้าที่นะ ” หลงซิงเสวียนตอบกลับด้วยใบหน้ายียวน
“ แกหมายความว่าไง ” ลุงซุยถามด้วยแววตาเย็นชา เขาเองก็เคยมีปัญหากับอีกฝ่ายมาหลายครั้งแล้ว เรียกว่าไม่ชอบขี้หน้ากันได้เลย
“ เราได้รับแจ้งมาว่า…มีคนร้ายคดีฆาตกรรมหนีมาหลบซ่อนตัวที่นี่ ผมเลยต้องมาจับกุมตัวเขากลับไป ”
เมื่อได้ยินแบบนั้น ทุกคนในห้องก็มีท่าทีเปลี่ยนไปทันที
“ ฉันว่าแกคงจะได้ข่าวมาผิดแล้ว…ที่นี่ไม่มีคนร้ายอะไรทั้งนั้น ” ลุงซุยยังคงยืนกรานเสียงแข็ง
หลงซิงเสวียนได้ยินก็ยิ้มเยาะเย้ยออกมา วันนี้พวกเขายังไงก็ต้องได้คนกลับไป
สายตาเขามองไปที่จ้าวเทียน เหมือนฉลามมองเห็นเหยื่อ…
“ นายคือจ้าวเทียนสินะ…พวกเราพบหลักฐานในที่เกิดเหตุหลายอย่างที่ชี้ตัวว่านายเป็นคนลงมือ ”
“ ฉันคงต้องขอให้นายตามพวกเราไปแต่โดยดี…มิฉะนั้น ” หลงซิงเสวียนยกมือให้สัญญาณ
พรึบ!
ปืนสิบกระบอกเล็งตรงไปที่จ้าวเทียนทันที
“ แก…กล้า ” ลุงซุยชี้หน้าอีกฝ่ายด้วยความโกรธ
“ ลุงครับ…ผมจัดการเอง ” จ้าวเทียนพูดขึ้นเบาๆ เขาไม่ได้สนใจปืนพวกนั้นแม้แต่น้อย
เขาลุกขึ้นเดินตรงไปหยุดอยู่ตรงหน้าหลงซิงเสวียนด้วยสีหน้าเรียบเฉย แววตาเย็นชากวาดมองไปยังกองกำลังตำรวจด้านหลัง
“ ฉันก็นึกสงสัยอยู่…ว่าทำไมพวกนั้นถึงกล้าวางแผนรอบสังหารฉันได้โจ่งแจ้งแบบนั้น พวกแกตระกูลหลงก็ร่วมมือด้วยใช่ไหม ” เขาพูดออกมาด้วยความมั่นใจ
คนอื่นๆในห้องก็ตกใจทันที พวกเขาเองก็คิดว่ามันแปลก ที่ตระกูลหลงกล้าลงมือในสถานที่สาธารณะ ที่แท้พวกตำรวจก็มีเอี่ยวด้วยนี่เอง
“ นายอย่ากล่าวหาอะไรลอยๆแบบไม่มีหลักฐานดีกว่า รีบๆยอมแพ้ซะ อาจจะรักษาชีวิตไว้ได้นะ ” หลงซิงเสวียนพูดเยาะเย้ยออกมา
แกดูออกแล้วยังไง…
เจอกระสุนเจาะเกราะจากปืนสิบกระบอกยังไงแกก็ต้องตาย…
จ้าวเทียนไม่สนใจที่อีกฝ่ายพูด เข้าเดินตรงออกไปด้านนอกตัวบ้านทันที เพราะไปอยากให้คนอื่นโดนลูกหลงไปด้วย
“ อยากจะจับฉันไม่ใช่เหรอ…ตามมาสิ ” เขาพูดทิ้งท้าย
“ ก็ดี…นับว่านายยังรู้ตัว ” หลงซิงเสวียนยกมือให้สัญญาณลูกน้องเปิดทางให้จ้าวเทียน แล้วพวกเขาก็เดินตามออกไป
ตัวเขาเองก็ไม่อยากให้พวกลุงซุยโดนลูกหลงเช่นกัน เพราะอีกฝ่ายเป็นผู้มีอำนาจในแวดวงทหาร
แต่จ้าวเทียนนั้นได้ฝึกฝนยกระดับร่างกายขึ้นมาควบคู่กันด้วย…
ซึ่งมันไม่เคยมีใครทำมาก่อนในโลก…
เปรี้ยง!
หน่วยรบพิเศษคนสุดท้ายได้ถูกจ้าวเทียนจัดการไปแล้ว ตอนนี้เหลือแค่หลงซิงเสวียนที่ยืนมองภาพที่เห็นด้วยสีหน้าหวาดกลัวเพียงผู้เดียว
“ เหลือแกคนเดียว… ” จ้าวเทียนพูดออกมาอย่างไม่แยแส เหงื่อเขายังไม่ทันออกเสียด้วยซ้ำ เพียง 1 นาทีเรื่องทุกอย่างก็จบแล้ว
“ แก…บัดซบเอ้ย ไปตายซะ! ” หลงซิงเสวียนตัดสินใจสู้ตายทันที ยังไงเขาก็เป็นผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่ง ย่อมมีศักดิ์ศรีเช่นกัน
ปังๆๆๆ
ผัวะๆๆ
แคร่กๆ
กระสุนปืนเหล่านั้นพลาดเป้าไปทั้งหมด เมื่อคู่ต่อสู้เหลือแค่คนเดียว จ้าวเทียนก็สามารถหลบกระสุนได้อย่างง่ายดาย
เขาชกใส่แขนทั้งสองข้างของอีกฝ่ายจนกระดูกแขนหัก ทำให้ปืนที่ถืออยู่ตกลงบนพื้น จากนั้นก็เตะตัดไปที่หัวเข่าด้วยความรุนแรง
ตัวของหลงซิงเสวียนกระเด็นตีลังกากลับด้านไปตกลงพื้นด้านหลัง สภาพของเขาตอนนี้ไม่สามารถขยับตัวได้แล้วเพราะกระดูกแขนขาหักทั้งหมด
จ้าวเทียนใช้มือจิกผมยกอีกฝ่ายลอยขึ้นมาจากพื้น แล้วถามขึ้นด้วยแววตาอำมหิต
“ ตอบมา!...ใครที่มีส่วนร่วมในเรื่องนี้บ้าง ”
“ แก…ไปตายซะ ” หลงซิงเสวียนตะโกนออกมาเสียงดัง เขาคิดว่าจ้าวเทียนไม่กล้าฆ่าเขา เพราะตัวเขาเองเป็นถึงหัวหน้าหน่วยรบพิเศษของกรมตำรวจเมืองเทียนจิน
ถ้าจ้าวเทียนฆ่าเขาจะกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตทันที ผู้มีอำนาจระดับสูงย่อมออกมาเคลื่อนไหวแน่นอน แม้แต่ตระกูลลี่ก็ไม่มีทางปกป้องจ้าวเทียนได้
“ งั้นเหรอ…แกเลือกเองนะ! ”
ตูม!
จ้าวเทียนจับหัวของหลงซิงเสวียนกระแทกพื้นอย่างแรง จนเลือดสาดกระจาย
ตุบ!
เขาใช้เท้าเตะอีกฝ่ายให้พลิกตัวขึ้นมา สภาพของหลงซิงเสวียนตอนนี้ เหมือนสุนัขที่ตายอยู่ข้างทางไม่มีผิด
“ ความอดทนของฉันมีจำกัดนะ ” จ้าวเทียนพูดขึ้นด้วยเสียงเย็นชา
“ ถ้าแกฆ่าฉัน…ตระกูลหลงจะไม่ปล่อยแกแน่ คนรอบตัวแกก็จะตายไปด้วย ” หลงซิงเสวียนพูดขู่ออกมา ต่อให้จ้าวเทียนเก่งแค่ไหน ก็ไม่มีทางปกป้องคนรอบตัวได้ทุกคน
“ ฉันเกลียดคนที่ข่มขู่ฉันที่สุด…ตายซะ! ” จ้าวเทียนยกเท้าขึ้นแล้วกระทืบลงไปทันที
“ หยุดนะ! ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน
ดีๆๆเดินเรื่องดี...
ต่อๆไป...
ขอบคุณทีมงานที่นำเรื่องดีๆมาลงให้อ่าน...