จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 42

ภายในบ้านของลุงซุย ตอนนี้ทุกคนกำลังมองมาทางจ้าวเทียนด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เพราะเหตุการณ์การต่อสู้นั้นเกิดขึ้นไม่ไกลจากบ้านของลุงซุย

เพราะเหตุนั้นลุงซุยกับเฉินจิ้งจึงไปถึงที่เกิดเหตุก่อนพวกตำรวจ

“ มันเกิดอะไรขึ้น…หลานบอกลุงได้ไหม ” ลุงซุยถามด้วยสีหน้าเป็นกังวล

สภาพที่เขาได้เห็นนั้นมันไม่ต่างจากสนามรบเลย ทั้งเศษซากจากแรงระเบิดและกองซากศพที่กระจัดกระจาย

นี่มันไม่ใช่แค่เรื่องการขัดแย้งผลประโยชน์ในเมืองเล็กๆแล้ว อีกฝ่ายวางแผนลอบสังหารมาเป็นอย่างดี ทีมชั้นยอดพร้อมกับอาวุธครบครัน

แต่ถึงเป็นแบบนั้น…

จ้าวเทียนกลับไร้รอยบาดแผลโดยสิ้นเชิง…

ความสามารถของเขาทะลุขอบเขตมนุษย์ไปแล้วใช่ไหม…

“ ผมไม่สามารถจับตัวใครไว้ได้เลย…คนพวกนั้นต่างสู้จนตัวตาย ”

“ แต่ถ้าให้ผมเดามันคงเป็นฝีมือของตระกูลจ้าวเมืองปักกิ่ง ”

จ้าวเทียนตอบอย่างมั่นใจ ตอนนี้ภายในห้องไม่มีคนนอก พวกซุยลี่เหยากับเพื่อนๆและแม่ของเธอกลับไปแล้ว

ตูม!

โต๊ะรับแขกแตกกระจายเป็นชิ้นๆทันที ด้วยโทสะของลุงซุย

“ พวกมันอีกแล้ว!...ทำไมพวกมันยังไม่ยอมจบ ” ลุงซุยตะโกนขึ้นด้วยความโกรธ น้องร่วมสาบานของเขาก็ตายไปแล้ว พวกมันยังต้องการฆ่าหลานชายเขาอีก

จ้าวเทียนมองท่าทางโกรธแค้นของลุงซุย แล้วก็คิดไปถึงเรื่องราวบางอย่างในใจ

ลุงซุยต้องรู้อะไรบางอย่างนอกเหนือจากที่ฉันรู้แน่…

“ ตอนนี้พี่โทรแจ้งตระกูลลี่ให้แล้วนะ พวกเขากำลังเดินทางมา ” กงเสี่ยวเหมยพูดขึ้น แน่นอนว่ายายของเธอก็มาด้วยเช่นกัน

เรื่องในครั้งนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่มาก หากจ้าวเทียนเป็นอะไรไป ความร่วมมือทางธุรกิจของทั้งสองตระกูลก็จบลงเช่นกัน นั่นรวมไปถึงงานประมูลที่จะจัดขึ้นในอีกสองวันด้วย

หืมม

“ ดูเหมือนเราจะมีแขกไม่ได้รับเชิญนะครับ ” จ้าวเทียนมองไปทางตำแหน่งที่เคยมีประตูบ้านอยู่ ซึ่งถูกเขาทำลายทิ้งไป

“ นั่นใคร!...ออกมาซะ ” ลุงซุยลุกยืนขึ้นทันที กล้ามาแอบฟังพวกเขาคุยกันงั้นเหรอ

!!

ชายในชุดสูทสีดำ เดินนำเจ้าหน้าที่ตำรวจ 10 นายเข้ามา ซึ่งทั้งหมดสวมชุดหน่วยรบพิเศษพร้อมเกราะกันกระสุนติดตั้งอาวุธครบมือ

“ สวัสดีครับผู้พันซุย…วันนี้ผมคงต้องขอรบกวนเวลาพวกคุณซักเล็กน้อย ” ชายสวมชุดสูทพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม

“ หลงซิงเสวียน!...ที่นี่ไม่ต้อนรับแก เชิญออกไปได้แล้ว ” ลุงซุยจงใจพูดชื่ออีกฝ่ายออกมาเสียงดังให้พวกจ้าวเทียนรู้ตัว

เพราะก่อนหน้านี้ กงเสี่ยวเหมยได้เล่าเรื่องข้อบาดหมางกับตระกูลหลงให้ลุงซุยฟังแล้ว ทุกคนในห้องเมื่อได้รู้ว่าเป็นคนของตระกูลหลงก็มีสีหน้าเย็นชาทันที

“ อย่าพูดจาตัดเยื่อใยกันแบบนั้นสิครับ…วันนี้ผมมาปฏิบัติหน้าที่นะ ” หลงซิงเสวียนตอบกลับด้วยใบหน้ายียวน

“ แกหมายความว่าไง ” ลุงซุยถามด้วยแววตาเย็นชา เขาเองก็เคยมีปัญหากับอีกฝ่ายมาหลายครั้งแล้ว เรียกว่าไม่ชอบขี้หน้ากันได้เลย

“ เราได้รับแจ้งมาว่า…มีคนร้ายคดีฆาตกรรมหนีมาหลบซ่อนตัวที่นี่ ผมเลยต้องมาจับกุมตัวเขากลับไป ”

เมื่อได้ยินแบบนั้น ทุกคนในห้องก็มีท่าทีเปลี่ยนไปทันที

“ ฉันว่าแกคงจะได้ข่าวมาผิดแล้ว…ที่นี่ไม่มีคนร้ายอะไรทั้งนั้น ” ลุงซุยยังคงยืนกรานเสียงแข็ง

หลงซิงเสวียนได้ยินก็ยิ้มเยาะเย้ยออกมา วันนี้พวกเขายังไงก็ต้องได้คนกลับไป

สายตาเขามองไปที่จ้าวเทียน เหมือนฉลามมองเห็นเหยื่อ…

“ นายคือจ้าวเทียนสินะ…พวกเราพบหลักฐานในที่เกิดเหตุหลายอย่างที่ชี้ตัวว่านายเป็นคนลงมือ ”

“ ฉันคงต้องขอให้นายตามพวกเราไปแต่โดยดี…มิฉะนั้น ” หลงซิงเสวียนยกมือให้สัญญาณ

พรึบ!

ปืนสิบกระบอกเล็งตรงไปที่จ้าวเทียนทันที

“ แก…กล้า ” ลุงซุยชี้หน้าอีกฝ่ายด้วยความโกรธ

“ ลุงครับ…ผมจัดการเอง ” จ้าวเทียนพูดขึ้นเบาๆ เขาไม่ได้สนใจปืนพวกนั้นแม้แต่น้อย

เขาลุกขึ้นเดินตรงไปหยุดอยู่ตรงหน้าหลงซิงเสวียนด้วยสีหน้าเรียบเฉย แววตาเย็นชากวาดมองไปยังกองกำลังตำรวจด้านหลัง

“ ฉันก็นึกสงสัยอยู่…ว่าทำไมพวกนั้นถึงกล้าวางแผนรอบสังหารฉันได้โจ่งแจ้งแบบนั้น พวกแกตระกูลหลงก็ร่วมมือด้วยใช่ไหม ” เขาพูดออกมาด้วยความมั่นใจ

คนอื่นๆในห้องก็ตกใจทันที พวกเขาเองก็คิดว่ามันแปลก ที่ตระกูลหลงกล้าลงมือในสถานที่สาธารณะ ที่แท้พวกตำรวจก็มีเอี่ยวด้วยนี่เอง

“ นายอย่ากล่าวหาอะไรลอยๆแบบไม่มีหลักฐานดีกว่า รีบๆยอมแพ้ซะ อาจจะรักษาชีวิตไว้ได้นะ ” หลงซิงเสวียนพูดเยาะเย้ยออกมา

แกดูออกแล้วยังไง…

เจอกระสุนเจาะเกราะจากปืนสิบกระบอกยังไงแกก็ต้องตาย…

จ้าวเทียนไม่สนใจที่อีกฝ่ายพูด เข้าเดินตรงออกไปด้านนอกตัวบ้านทันที เพราะไปอยากให้คนอื่นโดนลูกหลงไปด้วย

“ อยากจะจับฉันไม่ใช่เหรอ…ตามมาสิ ” เขาพูดทิ้งท้าย

“ ก็ดี…นับว่านายยังรู้ตัว ” หลงซิงเสวียนยกมือให้สัญญาณลูกน้องเปิดทางให้จ้าวเทียน แล้วพวกเขาก็เดินตามออกไป

ตัวเขาเองก็ไม่อยากให้พวกลุงซุยโดนลูกหลงเช่นกัน เพราะอีกฝ่ายเป็นผู้มีอำนาจในแวดวงทหาร

แต่จ้าวเทียนนั้นได้ฝึกฝนยกระดับร่างกายขึ้นมาควบคู่กันด้วย…

ซึ่งมันไม่เคยมีใครทำมาก่อนในโลก…

เปรี้ยง!

หน่วยรบพิเศษคนสุดท้ายได้ถูกจ้าวเทียนจัดการไปแล้ว ตอนนี้เหลือแค่หลงซิงเสวียนที่ยืนมองภาพที่เห็นด้วยสีหน้าหวาดกลัวเพียงผู้เดียว

“ เหลือแกคนเดียว… ” จ้าวเทียนพูดออกมาอย่างไม่แยแส เหงื่อเขายังไม่ทันออกเสียด้วยซ้ำ เพียง 1 นาทีเรื่องทุกอย่างก็จบแล้ว

“ แก…บัดซบเอ้ย ไปตายซะ! ” หลงซิงเสวียนตัดสินใจสู้ตายทันที ยังไงเขาก็เป็นผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่ง ย่อมมีศักดิ์ศรีเช่นกัน

ปังๆๆๆ

ผัวะๆๆ

แคร่กๆ

กระสุนปืนเหล่านั้นพลาดเป้าไปทั้งหมด เมื่อคู่ต่อสู้เหลือแค่คนเดียว จ้าวเทียนก็สามารถหลบกระสุนได้อย่างง่ายดาย

เขาชกใส่แขนทั้งสองข้างของอีกฝ่ายจนกระดูกแขนหัก ทำให้ปืนที่ถืออยู่ตกลงบนพื้น จากนั้นก็เตะตัดไปที่หัวเข่าด้วยความรุนแรง

ตัวของหลงซิงเสวียนกระเด็นตีลังกากลับด้านไปตกลงพื้นด้านหลัง สภาพของเขาตอนนี้ไม่สามารถขยับตัวได้แล้วเพราะกระดูกแขนขาหักทั้งหมด

จ้าวเทียนใช้มือจิกผมยกอีกฝ่ายลอยขึ้นมาจากพื้น แล้วถามขึ้นด้วยแววตาอำมหิต

“ ตอบมา!...ใครที่มีส่วนร่วมในเรื่องนี้บ้าง ”

“ แก…ไปตายซะ ” หลงซิงเสวียนตะโกนออกมาเสียงดัง เขาคิดว่าจ้าวเทียนไม่กล้าฆ่าเขา เพราะตัวเขาเองเป็นถึงหัวหน้าหน่วยรบพิเศษของกรมตำรวจเมืองเทียนจิน

ถ้าจ้าวเทียนฆ่าเขาจะกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตทันที ผู้มีอำนาจระดับสูงย่อมออกมาเคลื่อนไหวแน่นอน แม้แต่ตระกูลลี่ก็ไม่มีทางปกป้องจ้าวเทียนได้

“ งั้นเหรอ…แกเลือกเองนะ! ”

ตูม!

จ้าวเทียนจับหัวของหลงซิงเสวียนกระแทกพื้นอย่างแรง จนเลือดสาดกระจาย

ตุบ!

เขาใช้เท้าเตะอีกฝ่ายให้พลิกตัวขึ้นมา สภาพของหลงซิงเสวียนตอนนี้ เหมือนสุนัขที่ตายอยู่ข้างทางไม่มีผิด

“ ความอดทนของฉันมีจำกัดนะ ” จ้าวเทียนพูดขึ้นด้วยเสียงเย็นชา

“ ถ้าแกฆ่าฉัน…ตระกูลหลงจะไม่ปล่อยแกแน่ คนรอบตัวแกก็จะตายไปด้วย ” หลงซิงเสวียนพูดขู่ออกมา ต่อให้จ้าวเทียนเก่งแค่ไหน ก็ไม่มีทางปกป้องคนรอบตัวได้ทุกคน

“ ฉันเกลียดคนที่ข่มขู่ฉันที่สุด…ตายซะ! ” จ้าวเทียนยกเท้าขึ้นแล้วกระทืบลงไปทันที

“ หยุดนะ! ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน