ณ เมืองปักกิ่ง
ภายในบ้านพักสไตล์จีนโบราณดูเรียบง่าย ชายชราคนหนึ่งกำลังนั่งพิจารณากระดานหมากล้อมตรงหน้าอย่างใช้ความคิด
“ ฉันใช้เวลามาแปดปีแล้ว…แต่ก็ไม่สามารถแก้หมากกระดานนี้ได้ ตอนนี้เหลือเวลาอีกเพียงสองเดือนเท่านั้น ประตูก็จะเปิดแล้ว หรือฉันจะไม่มีหนทางอื่นจริงๆ ” เขาถอนหายใจด้วยความสิ้นหวัง
ชายชราคนนี้คือ โจวจือหยวน รองเจ้าสำนักหัวซาน เมื่อแปดปีก่อนเขาแย่งชิงกระดานหมากอันนี้มาจากเหยียนซืออู่
ซึ่งมันคือค่ายกลสืบทอดที่สามารถเปิดคลังสมบัติลับของเจ้าสำนักคุนหลุนรุ่นแรกได้ โดยคลังสมบัติลับจะถูกซ่อนในช่องว่างมิติ แถบเทือกเขาคุนหลุน
มีแต่ต้องแก้หมากกระดานนี้ให้ได้ด้วยวิธีที่ถูกต้องเท่านั้น จึงจะได้รับแผนที่ที่ซ่อนอยู่ในแผ่นกระดานหมาก ซึ่งไม่สามารถใช้กลโกงได้ มิเช่นนั้นแผนที่จะถูกทำลายทันที
หลังจากที่ได้แผนที่มาแล้ว กระดานหมากก็จะเป็นกุญแจ ใช้เปิดมิติลึกลับตรงตำแหน่งที่อยู่ในแผนที่
คลังสมบัติทั้งหมดจะอยู่ในมิติลับนั่นเอง…
“ ผู้อาวุโส…มีรายงานจากหัวหน้าหลี่เข้ามาครับ ” ผู้คุ้มกันเข้ามารายงาน
“ เป็นอย่างไรบ้าง…เหยียนซืออู่ออกมาช่วยจ้าวเทียนไหม ” โจวจือหยวนถามขึ้นอย่างคาดหวัง
เขาเป็นผู้อยู่เบื้องหลังแผนการลอบสังหารวันนี้เอง พวกตระกูลหลงก็เป็นแค่เบี้ยในมือเขาเท่านั้น ไม่ว่าใครจะชนะเขาก็ได้ประโยชน์ทั้งสิ้น
แต่จะดีที่สุดถ้าจ้าวเทียนโดนจับ เขาจะได้ใช่เด็กนั่นล่อเหยียนซืออู่ออกมา เพื่อเค้นหาความลับของคลังสมบัติลับ
“ ไม่ครับ…เพราะจ้าวเทียนสามารถเอาชนะพวกหลงซิงเสวียนได้ แผนที่วางไว้เลยผิดพลาดไปหมด ” ผู้คุ้มกันรายงานด้วยสีหน้ากังวล
“ ไม่เป็นไร…แล้วมีหน่วยรบพิเศษตายไปกี่คนล่ะ ขอเพียงพวกเราทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่ จนพวกระดับสูงต้องเคลื่อนไหวก็พอ ”
“ ฉันไม่เชื่อว่าเหยียนซืออู่ จะไม่ออกมาช่วยหลานมัน ” โจวจือหยวนพูดด้วยความมั่นใจ
เหยียนซืออู่ แกคงคิดว่าไม่มีใครรู้ความลับนี้ใช่ไหม…
โชคดีที่เพราะฉันต้องการหาขุมทรัพย์ในโลกภายนอก เลยไม่ได้กลับไปที่สำนัก ทำให้ไปรู้ความลับนี้โดยบังเอิญ…
“ คือ…หน่วยรบพิเศษไม่มีใครตายครับ เพราะหลงซูฉีปรากฎตัวขึ้นมาเสียก่อน ” ผู้คุ้มกันตอบด้วยความหวาดกลัว
เปรี้ยง!
ตูม!
อั่ก!
ตัวของผู้คุ้มกันกระเด็นไปชนผนังอย่างแรง จนกระอักเลือดออกมาคำใหญ่ เขาพยายามประคองตัวขึ้นมาอย่างยากลำบาก
“ ฉันสั่งแล้วใช่ไหม…ว่าอย่าให้ยัยเด็กนั่นเข้าไปยุ่ง! แกไม่เข้าใจเหรอ ” โจวจือหยวนระเบิดความโกรธออกมา
“ ผู้อาวุโสได้โปรดไว้ชีวิตด้วย…หลงซูฉีมีปรมาจารย์ตระกูลหลงอยู่ด้วย พวกเราไม่สามารถขัดขวางได้จริงๆครับ ” ผู้คุ้มกันรีบอธิบายด้วยความหวาดกลัว
“ พอแล้ว!...ฉันไม่ต้องการฟังคำแก้ตัวของแก ถ้าไม่ติดเรื่องข้อตกลงของสำนักโบราณ ฉันคงลงมือเองไปแล้ว ไม่ต้องพึ่งเศษสวะที่ใช้การไม่ได้แบบนี้ ”
“ ไอแก่ต้วนมู่นั่นก็ไม่ยอมตายซักที…ไม่งั้นประเทศจีนคงเป็นของพวกเราสำนักโบราณไปนานแล้ว ”
โจวจือหยวนตะโกนขึ้นด้วยความคับแค้นใจ ในอดีตเพื่อป้องกันผู้มีพลังระดับสูงของสำนักโบราณใช้พลังของตนเองเข่นฆ่าผู้อื่น
ทุกสำนักโบราณจึงสร้างสนธิสัญญาเพื่อควบคุม ผู้ที่มีพลังเหนือกว่าระดับปรมาจารย์ไม่ให้ใช้พลังของตนทำร้ายคนในประเทศจีน ยกเว้นเพื่อป้องกันตัวเท่านั้น
ผู้ที่ฝ่าฝืนจะถูกผู้คุมกฎซึ่งเป็นยอดฝีมือระดับเซียนสูงสุดสังหารทันที…
“ แกยังมัวรออะไรอีก…ไสหัวไปได้แล้ว ” โจวจือหยวนโบกมือไล่ด้วยความรำคาญ
“ คือ…ผมยังมีเรื่องสำคัญอีกอย่างที่ต้องรายงานครับ ” ผู้คุ้มกันพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ หืม…ไหนลองบอกมาสิ ” โจวจือหยวนเดินไปนั่งดูกระดานหมากล้อมต่อ อย่างไม่ค่อยสนใจฟังนัก
“ หัวหน้าหลี่สงสัยว่า…จ้าวเทียนจะมีเคล็ดวิชาที่อยู่เหนือกว่าระดับตำนานครับ ” ผู้คุ้มกันรีบรายงานออกไปด้วยความรวดเร็ว
กึก!!
ใบหน้าของโจวจือหยวนแข็งค้างไปทันที เขาเงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่จะหัวเราะออกมาอย่างยินดี
ฮ่า ฮ่าๆๆ
“ ในที่สุดก็โผล่หางออกมา…นี่แสดงว่าเหยียนซืออู่มันแอบถ่ายทอดเคล็ดวิชาที่ได้มาจากคลังสมบัติลับให้หลานมัน ”
“ มันมีจริงๆ…วิธีอื่นที่จะเข้าไปในคลังสมบัติโดยไม่ต้องพึ่งพากระดานหมากล้อมโง่ๆนี่ ”
โจวจือหยวนตะโกนออกมาด้วยความยินดี แสดงว่าตำนานเป็นเรื่องจริง เจ้าสำนักคุนหลุนรุ่นแรกเคยติดต่อกับดินแดนที่อยู่สูงกว่า แล้วเก็บซ่อนสมบัติและเคล็ดวิชาล้ำค่าเอาไว้
ไม่ว่ายังไงสำนักหัวซานจะต้องเอามันมาให้ได้…
“ แกไปติดต่อผู้นำตระกูลจ้าวให้ฉัน…บอกไปว่าฉันมีเรื่องจะหารือด้วย ” โจวจือหยวนพูดทิ้งท้าย ก่อนจะหลับตาลงใช้ความคิด
“ ได้ครับ…ผมจะรีบไปทันที ”
“ ทำให้อาหญิงของฉันได้ซื้อตัวคนของผู้อาวุโสสูงสุดไป หลงซิงเสวียนเองก็เป็นหนึ่งในนั้น หากเขาถูกคุณฆ่าตายที่นี่ ผู้คนส่วนใหญ่ของตระกูลหลงจะไปเข้ากับฝ่ายของอาหญิง ”
“เพราะหลงซิงเสวียนนั้นเป็นหนึ่งในแกนนำของฝ่ายผู้อาวุโสสูงสุด หากเขาเป็นอะไรไปคนในตระกูลหลงส่วนใหญ่ จะหันมาร่วมมือกันแก้แค้นคุณกับตระกูลลี่ทันที ”
“ และสุดท้ายอาหญิงก็จะรวบอำนาจเอาไว้ แล้วปลดพ่อของฉันลงจากตำแหน่งผู้นำ ตระกูลหลงก็จะตกอยู่ภายใต้อำนาจของตระกูลจ้าว ”
หลงซูฉีอธิบายทั้งเรื่องทั้งหมดด้วยเสียงอ่อนแรง ยังมีอีกเรื่องที่เธอไม่ได้บอก ถ้าวันไหนอาหญิงของเธอควบคุมอำนาจได้ทั้งหมด
เธอและน้องสาวจะต้องกลายเป็นของเล่นให้นายน้อยเสเพลตระกูลจ้าว นั่นเป็นสิ่งที่เธอไม่ทีทางยอมให้เกิดขึ้นเป็นอันขาด
“ เธอต้องการให้พวกฉันช่วยอะไรล่ะ ” จ้าวเทียนถามขึ้นด้วยเสียงจริงจัง ถ้าตระกูลจ้าวสามารถยึดอำนาจในตระกูลหลงได้ แผนการของเขาคงได้รับผลกระทบแน่นอน
หลงซูฉีเมื่อได้ยินแบบนั้นก็มีสีหน้าดีใจทันที นี่แสดงว่าจ้าวเทียนตัดสินใจจะช่วยเหลือพวกเธอ
“ พวกคุณเคยได้ยินเรื่องของหน่วยรบพิเศษซิงหลงไหม ” หลงซูฉีถามขึ้น
“ เธอหมายถึง 1 ใน 4 หน่วยลับ ที่ขึ้นตรงต่อท่านผู้นำใช่ไหม มันมีจริงงั้นเหรอ” ลุงซุยตอบออกมาอย่างไม่แน่ใจ เขาเคยได้ยินเพียงข่าวลือเท่านั้น
“ มันเป็นเรื่องจริงค่ะ…ตระกูลชั้นสูงทั้งสี่ในเมืองหลวงเป็นตัวแทนของหน่วยลับทั้งสี่ โดยที่หน่วยรบพิเศษซิงหลงนั้น มีผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูลหลงเป็นผู้บัญชาการ”
“ หน้าที่ของหน่วยลับทั้งสี่คือ…ควบคุมและลงโทษผู้คนจากสำนักโบราณที่ฝ่าฝืนกฎหมายโดยเฉพาะ โดยที่สมาชิกหน่วยลับแต่ละคนนั้น ล้วนเป็นยอดฝีมือระดับผู้เชี่ยวชาญขึ้นไป ”
“ หน่วยลับแต่ละหน่วยจะมีสมาชิก 250 คน และได้รับการจัดสรรอุปกรณ์การรบที่ดีที่สุด ซึ่งหน่วยลับ 5 คนสามารถต่อกรกับยอดฝีมือระดับปรมาจารย์ได้สบาย ”
!!!
ทุกคนที่ได้ยินมีสีหน้าเปลี่ยนไปทันที นี่มันเป็นกองกำลังที่น่ากลัวเกินไปหรือเปล่า โชคดีที่คนพวกนี้ไม่ได้มาลงมือกับตระกูลลี่
แม้แต่จ้าวเทียนเองยังต้องลอบถอนหายใจ เขาคงดูถูกอำนาจของประเทศเกินไป ตอนนี้ต่อให้เป็นเขาเอง ถ้าเจอกับหน่วยพิเศษทั้ง 250 คนนี้ ก็ทำได้เพียงแค่หลบหนีเท่านั้น
ประเทศจีนมีประชากรถึง 1,300 ล้านคน ด้วยจำนวนคนขนาดนี้ย่อมมีอัจฉริยะจำนวนมากหลบซ่อนตัวอยู่
หน่วยลับทั้งสี่ก็คงคัดเลือกเอาอัจฉริยะพวกนั้นมาฝึกฝนตั้งแต่เด็ก นี่คงเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกสำนักโบราณที่มีทรัพยากรมากมาย ถึงเลือกมีความสัมพันธ์ที่เป็นมิตรกับประเทศจีน
“ ในอีกหนึ่งเดือนจะมีพิธีคัดเลือกผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษซิงหลงคนใหม่ จัดขึ้นที่ฐานบัญชาการลับของทหาร ”
“ ฉันอยากให้พวกคุณเข้าร่วมด้วย! ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน
ดีๆๆเดินเรื่องดี...
ต่อๆไป...
ขอบคุณทีมงานที่นำเรื่องดีๆมาลงให้อ่าน...