จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 459

เทพแห่งสงคราม ฉายานี้เทพแอรีสได้รับมาจากการเป็นผู้พิชิตสมรภูมินับร้อยพัน ถึงแม้จะมีบางครั้งที่ต้องเผชิญกับศัตรูที่แข็งแกร่งกว่า เขาก็ไม่เคยหวาดกลัวหรือคิดหลบหนี ทำให้เขาถูกจัดเป็นหนึ่งในผู้ยิ่งใหญ่แห่งโอลิมปัส ด้วยความสามารถล้วนๆไม่ใช่ที่ชาติกำเนิด

แต่ทว่า ด้วยนิสัยที่บ้าคลั่งในการต่อสู้นี้เอง จึงเป็นเหตุผลที่เทพแอรีสชื่นชมผู้แข็งแกร่งและดูถูกผู้อ่อนแอ สำหรับตัวเขาแล้ว สรรพสิ่งทุกอย่างในจักรวาลล้วนมีบทบาทหน้าที่ของมัน หนูไม่ว่าจะดิ้นรนอย่างไรก็ไม่อาจเอาชนะพญาราชสีห์ได้

จากมุมมองของเทพแอรีส เหล่าเทพทุกคนที่จุติร่างอวตารลงมา ล้วนแต่มีพลังที่แท้จริงอยู่ในระดับเทพโลกาขั้นเจ็ดขึ้นไป ถ้าไม่ถูกตั้งข้อจำกัดผูกมัดเอาไว้ แค่หนึ่งในพวกเขาใช้ร่างทิพย์ดีดนิ้วใส่เบาๆ โลกมนุษย์ก็คงถูกบดขยี้เป็นผุยผงทันที

ดังนั้น ศัตรูที่คู่ควรในสายตาของเทพแอรีส จึงมีเพียงสามผู้นำพันธมิตรแห่งแดนสวรรค์ ส่วนมนุษย์โลกที่แสนอ่อนแอไม่ต่างไปจากหนอนแมลง ไม่ควรค่าให้เขาให้ความสนใจแม้แต่น้อย

จึงเป็นเหตุผล ที่เทพแอรีสคิดว่าคำพูดของจ้าวเทียนเป็นเรื่องที่น่าตลกที่สุดเท่าที่เคยได้ยินมา คิดร่วมการต่อสู้ของเทพเจ้างั้นหรือ ตีค่าตัวเองสูงเกินไปหรือเปล่า

น่าเสียดาย…ดูเหมือนความคิดนี้ของเทพแอรีสคงจะอยู่ไม่นานนัก

“ สามหมัดราชันจักรพรรดิ! ”

“ หมัดสองถล่มนภา! ”

เมื่อเคล็ดวิชาถูกปลดปล่อยออกมา ร่างกายของเทพแอรีสก็ถูกเสี้ยวมรรคาจักรพรรดิอันยิ่งใหญ่ตรึงเอาไว้ ไม่อาจขยับเคลื่อนไหวได้

จากนั้น

เพล้ง!

เสียงเหมือนกระจกแตกดังขึ้น ก่อนที่เงาหมัดขนาดใหญ่ที่ลุกโชนไปด้วยเปลวเพลิงสีทอง จะพุ่งทะลวงลงมาจากสวรรค์ ทำให้ท้องฟ้าเหมือนกับจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ

“ บัดซบ หนอนแมลงชั้นต่ำอย่างเจ้ากล้าโจมตีใส่ข้างั้นรึ ”

บูมมม!

เทพแอรีสระเบิดพลังทั้งหมดออกมาด้วยความเดือดดาล รูปร่างสูงใหญ่ขึ้นเกือบสามเมตร กล้ามเนื้อของเขาโป่งพองขยายขนาดขึ้นเกือบสองเท่า เหมือนราชันนักรบคลั่งที่ดุดันน่าเกรงขาม

นี่คือการหลอมรวมแก่นแท้แห่งพลัง เข้ากับเคล็ดกายาลับขอบเขตเทวะ ทั้งพละกำลังและความแข็งแกร่งจะเพิ่มขึ้นสิบเท่าในระยะเวลาหนึ่ง

และด้วยการปะทุพลังอย่างรุนแรงในเสี้ยววินาทีนี้เอง ทำให้เขาสามารถทลายขีดจำกัดพันธนาการที่ตรึงความเคลื่อนไหวของตนเองได้

“ หมัดเทพเจ้าสงคราม! ”

เปรี้ยงงง!

สำหรับเทพแอรีสแล้ว การโจมตีสวนกลับไปคือการป้องกันที่ดีที่สุด เมื่อเคล็ดวิชาหมัดอันดิบเถื่อนที่อาศัยพละกำลังเหนือขีดจำกัด ปะทะเข้ากับเงาหมัดที่ลุกโชนไปด้วยเปลวเพลิง มันก็ได้เกิดเสียงระเบิดดังสนั่น

ตูมมมมมม! เพล้งงงง!

กำแพงมิติพังทลายเป็นวงกว้าง ท้องฟ้าเหมือนถูกทุบแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ จนเทพจุติหลายคนรีบเคลื่อนย้ายมิติหลบหนีกันแทบไม่ทัน

มีเพียงผู้ที่มั่นใจในความแข็งแกร่งของตนเองเท่านั้น ถึงจะกล้ายืนเผชิญหน้ากับผลกระทบจากคลื่นพลังทำลายล้างตรงๆ

ทันใดนั้น

รังสีกระบี่นับหมื่นก็ปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่า มันหลอมรวมกันเปลี่ยนเป็นกระบี่ขนาดยักษ์ฟันใส่ศีรษะของเทพแอรีสอย่างรุนแรง

เปรี้ยง! ตูมมม!

แม้จะประสานมือป้องกันไว้ทัน แต่ร่างของเทพแอรีสก็ยังถูกกระแทกตกจากท้องฟ้าเหมือนดาวหางลงไปยังพื้นโลก เกิดเป็นหลุมลึกขนาดใหญ่มองไม่เห็นก้น ท่ามกลางสายตาตื่นตระหนกของทุกคนที่ได้เห็น

หืม!

“ เป็นไปไม่ได้ มนุษย์คนนี้ทำให้เทพสงครามร่วงจมพสุธาได้งั้นเหรอ ”

“ โกหกใช่ไหม แม้จะถูกลอบโจมตีโดยไม่ทันตั้งตัวก็เถอะ แต่เรื่องแบบนี้มัน… ”

“ ถ้าวัดกันที่พลัง แม้แต่พวกเราสิบคนยังทำให้เทพสงครามถอยไปซักก้าวไม่ได้เลยด้วยซ้ำ ผู้ฝึกตนมนุษย์รุ่นเยาว์แบบนี้ทำได้อย่างไร ”

เมื่อผลลัพธ์ปรากฏขึ้น เหล่าเทพที่เคยดูถูกจ้าวเทียนก่อนหน้า ก็ได้จ้องมองเขาด้วยความหวาดกลัว เนื่องจากเทพแอรีสตกเป็นฝ่ายถูกกระทำฝ่ายเดียวตั้งแต่แรก ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ไม่อาจพบเห็นได้บ่อยนัก

หากฝ่ายตรงข้ามเป็นหนึ่งในสิบผู้ยิ่งใหญ่แห่งแดนสวรรค์ก็ว่าไปอย่าง แต่นี้เป็นแค่มนุษย์บนโลก ที่ไม่แม้แต่จะมีคุณสมบัติขึ้นไปบนแดนสวรรค์ด้วยซ้ำ

“ ดีมาก ข้ายังไม่ทันไปหาเจ้า แต่กลับเสนอหน้ามารับความตายเองเลยงั้นรึ ” นาจาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา แม้จะรู้สึกตกใจในพลังของอีกฝ่ายอยู่บ้าง แต่ก็ยังมั่นใจว่าตนเองเหนือกว่าแน่นอน

อีกทั้งการสังหารจ้าวเทียนและพวกพ้องของเขาทุกคน ก็เป็นอีกหนึ่งภารกิจที่นาจาต้องทำให้สำเร็จเช่นกัน

“ ฉวยโอกาสที่จ้าวเทียนกำลังดึงดูดความสนใจ พวกเรารีบถอยกลับไปตั้งหลักที่ศูนย์บัญชาการของพวกเจ้าเถอะ อย่างน้อยก็ยังพอรักษาขุมกำลังส่วนหนึ่งไว้ได้ ”

“ หึหึ หากคิดว่านี่เป็นเพียงคำขู่ พวกเจ้าจะลองดูก็ได้นะ ” เทพแอรีสพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันเมื่อเห็นว่าไม่มีผู้ใดกล้าสบตาเขาสักคน

‘ ทั้งที่โดนการโจมตีของรังสีกระบี่นับหมื่นไปเต็มๆ แต่ชายคนนี้กลับไม่ได้รับบาดเจ็บเลยงั้นเหรอ ’

จ้าวเทียนประเมินดูแล้ว ขอบเขตพลังของอีกฝ่ายน่าจะด้อยกว่านาจาครึ่งขั้น แต่พละกำลังและความแข็งแกร่งของร่างกายกลับเหนือกว่ามาก ความรู้สึกอันตรายที่สัมผัสได้แทบจะเหมือนกับตอนต่อสู้กับเห้งเจียไม่มีผิด

“ เจ้ากล้ามากนะ ที่มาท้าทายเทพสงครามอย่างข้า เตรียมตัวถูกบดขยี้ได้เลย ไอ้มนุษย์ชั้นต่ำ ”

ไวเท่าความคิด ร่างกายอันใหญ่โตของเทพแอริสได้จางหายไปเหลือเพียงภาพติดตา ทำให้จ้าวเทียนรีบฟันกระบี่ออกไปด้านข้างทันที

เปรี้ยง! ตูมมมม!

ร่างของจ้าวเทียนถูกชกกระเด็นไปเกือบร้อยเมตร แม้จะป้องกันเอาไว้ได้ทัน แต่ด้วยพลังที่เหนือกว่ามากของฝ่ายตรงข้าม ทำให้ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ

‘ หืม แม้แต่เจตน์แห่งกระบี่ของฉัน ก็ยังไม่อาจสร้างบาดแผลให้ผิวหนังของเขาได้เลยงั้นเหรอ ช่างเป็นกายเนื้อที่แข็งแกร่งจริงๆ น่าจะทัดเทียมกับชุดเกราะระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูงได้เลย ’

เรื่องที่อีกฝ่ายบรรลุแก่นแท้แห่งพลังและแก่นแห่งความเร็วในระดับสูงนั้น จ้าวเทียนพอจะคาดเดาออกตั้งแต่แรก แต่เรื่องที่มีพลังป้องกันอันเหนือชั้นขนาดนี้เขาไม่เคยคิดมาก่อน

ถือเป็นโชคดี ที่จ้าวเทียนได้รับเส้นขนสีทองจากเห้งเจีย จนสามารถบรรลุแก่นแท้แห่งพลังและแก่นแท้ความเร็วก่อนการต่อสู้ ทั้งยังตระหนักรู้ขอบเขตฟ้าดินแห่งกระบี่ในตำนาน ไม่อย่างนั้นคงไม่อาจปะทะกับเทพแอริสซึ่งๆหน้าได้

“ ฮา ฮา กระบี่เศษเหล็กของเจ้าทำอะไรข้าไม่ได้หรอก นี่ข้าไม่เจ็บไม่คันเลยด้วยซ้ำ ”

เทพแอรีสหัวเราะออกมาอย่างพึงพอใจ ร่างอวตารของเขาถูกสร้างขึ้นมากจากโลหะลึกลับยุคบรรพกาลที่ถูกค้นพบในสมรภูมิเทพมาร

ซึ่งมูลค่าของมันเทียบกับเท่าสมบัติศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูงถึงสิบชิ้น ไม่มีทางที่อาวุธของมนุษย์ในโลกระดับต่ำแบบนี้จะสร้างความเสียหายได้อยู่แล้ว

ฉัวะ!ๆๆๆๆ ตูม!ๆๆๆๆๆๆๆๆ

เพียงเสี้ยววินาทีที่ผ่านพ้น ก็เกิดเสียงระเบิดอากาศจากการปะทะกันของกระบี่ราชันสวรรค์และหมัดเปล่าเปลือยหลายสิบครั้ง

ด้วยเคล็ดวิชากระบี่บูรพาสังหาร ทำให้จ้าวเทียนสามารถโจมตีเข้าใส่จุดอ่อนฝ่ายตรงข้ามอย่างแม่นยำ น่าเสียดายที่มันกลับไร้ผลโดยสิ้นเชิง ทั้งยังไปกระตุ้นให้ฝ่ายตรงข้ามต่อสู้อย่างบ้าคลั่งมากกว่าเดิม

‘ อาวุธระดับเทพชั้นยอดคงไม่อาจสร้างความเสียหายให้เขาได้จริงๆ เห็นทีฉันต้องรีบยกระดับกระบี่ราชันสวรรค์ขึ้นเป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูงโดยเร็วที่สุด เพื่อการต่อสู้ในอนาคต ’

ตอนนี้โลกภายในของจ้าวเทียนมีขนาดและพลังเทียบเท่าเทพโลกาขั้นสาม ซึ่งน่าจะปลดปล่อยอานุภาพของอาวุธศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างไม่ยากเย็นนัก

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน