จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 46

เทือกเขาคุนหลุน

ตอนนี้เป็นเวลาเจ็ดโมงเช้า แสงแดดอ่อนๆและธรรมชาติที่สวยงามทำให้บรรยากาศน่ารื่นรมย์เป็นอย่างมาก

จ้าวเทียนกลับมาที่นี่อีกครั้งเพื่อมาตามหาท่านตาของเขา

เพียงแต่ว่า…

รอบนี้เขาไม่ได้มาคนเดียว…

“ สถานที่แห่งนี้มีจิตวิญญาณหนาแน่นและบริสุทธิ์มาก เหมาะให้เหยาเหยายกระดับเป็นปรมาจารย์จริงๆ ” เทพธิดาตัวจิ๋วพูดขึ้นอย่างมีความสุข

“ ฉันรู้สึกว่าสามารถดูดซับพลังจิตวิญญาณได้ง่ายขึ้นมากเลย…มันมีประสิทธิภาพกว่าตอนที่อยู่ตระกูลลี่หลายเท่า ” ลี่เหยาเหยาพูดขึ้น หลังจากที่ลองใช้เคล็ดวิชาดูดซับพลังจากสมบัติล้ำค่าที่เธอนำติดตัวมาด้วย

เพื่อที่จะทำตามแผนการของจ้าวเทียน เธอจะต้องกลายเป็นปรมาจารย์ให้ได้ก่อนถึงวันงานประมูล นี่จึงเป็นสาเหตุที่เธอตามจ้าวเทียนมาด้วย

“ อาจารย์คะ…หนูสัมผัสได้ถึงสมุนไพรวิญญาณด้วย พวกเราจะไปเก็บมันไหม ” โม่ปิงหยูเองเมื่อรู้ว่าจ้าวเทียนจะออกไปเที่ยวกับลี่เหยาเหยา เธอก็ขอตามออกมาด้วย

เพราะต้องการใกล้ชิดกับซูเปอร์สตาร์คนโปรด…

ซึ่งจ้าวเทียนก็อนุญาตเพราะเห็นว่าการที่มีโม่ปิงหยูอยู่ใกล้ๆ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการยกระดับของลี่เหยาเหยา

ส่วนโม่ซินหยานนั้นมีหน้าที่ปกป้องจ้าวหยูเหมยเลยไม่ได้ตามมาด้วย

“ เอาล่ะ…ตำแหน่งนี้น่าจะดีที่สุด ส่งของพวกนั้นมาสิ เดี๋ยวฉันจะวางค่ายกลรวบรวมจิตวิญญาณให้เธอเอง ” จ้าวเทียนหันไปบอกลี่เหยาเหยา ซึ่งเธอก็ส่งของที่นำมาให้ทันที

“ ปิงหยูมานั่งตรงนี้ก่อน…แล้วใช้เคล็ดวิชาอมตะที่อาจารย์สอนนะ ” จ้าวเทียนเริ่มใช้ของที่เตรียมมาวางค่ายกลทันที

วูป!

เมื่อโม่ปิงหยูเริ่มใช้เคล็ดวิชาอมตะ กลิ่นอายพลังชีวิตอันหนาแน่นก็ได้ระเบิดออกมา ทำให้พืชพันธุ์ทั้งหลายที่อยู่ใกล้ๆเริ่มเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว จนมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า

จ้าวเทียนรีบฉวยจังหวะนี้วางค่ายกลจนเสร็จ…

“ เริ่มเถอะ! ”

วี้ดดด!

พายุหมุนพลังงานถูกดูดเข้าไปในร่างของลี่เหยาเหยาที่นั่งอยู่ตรงใจกลางของค่ายกล แสงสีทองอ่อนที่เปล่งประกายออกมาจากตัวของเธอ มันค่อยๆชัดเจนขึ้น

เงาร่างจำแลงของเทพธิดาสวรรค์ ปรากฏขึ้นด้านหลังของลี่เหยาเหยา นี่เป็นลักษณะของการกลั่นพลังจิตวิญญาณควบแน่นเป็นรูปร่าง

“ กลิ่นดอกไม้สวรรค์นี่มาจากร่างกายของเธองั้นเหรอ ” จ้าวเทียนพูดขึ้นด้วยความสงสัย เวลานี้กลิ่นหอมหวนของดอกไม้ฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ

มันได้ดึงดูดสัตว์น้อยใหญ่ที่อยู่บนภูเขาแห่งนี้ให้เขามาใกล้ แต่เพราะค่ายกลที่ถูกวางเอาไว้ ทำให้พวกมันถูกกันไว้ในรัศมี 10 เมตรรอบตัวลี่เหยาเหยา

วูป!

ร่างของเทพธิดาตัวจิ๋วทอแสงสีทองขึ้น สามารถมองเห็นแก่นแท้ดวงจิตเทพในร่างของเธอเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ความหวังในการสร้างร่างทิพย์ของเธอได้ก้าวหน้าขึ้นอีกขั้น

“ เอาล่ะ…เท่านี้ก็แค่รอจนถึงตอนที่พวกเธอฝึกฝนเสร็จ ” จ้าวเทียนได้เดินถอยออกมาจากค่ายกล

“ ตอนนี้…คงถึงเวลาที่เราจะต้องคุยกันแล้วใช่ไหมครับ ”

“ ท่านตา… ”

จ้าวเทียนพูดออกมาด้วยความจริงใจ เขามองตรงไปยังกิ่งของต้นไม้ขนาดใหญ่ ที่สูงขึ้นไปกว่าสิบเมตร

วูป

ร่างของชายวัยกลางคนที่คุ้นตา ก็ค่อยๆปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่า

“ หลาน…รู้แล้ว ” เหยียนซืออู่พูดขึ้นด้วยสีหน้าอ่อนโยน

“ ใช่ครับ…ท่านตาพอจะบอกผมได้ไหม ทำไมถึงไม่บอกความจริงกับผมตั้งแต่แรก ” จ้าวเทียนถามขึ้น

เฮ้ออ

“ ตาไม่อยากดึงหลานเข้ามาเกี่ยวด้วย…ศัตรูของตานั้นน่ากลัวเกินไป อีกทั้งตอนนี้ตัวของตาก็เกือบจะถึงขีดจำกัดแล้ว ” เหยียนซืออู่ตอบด้วยเสียงอ่อนแรง

“ ขอผมตรวจดูอาการของท่านตาได้ไหมครับ ” จ้าวเทียนพูดด้วยความจริงใจ ด้วยความรู้ของเขาไม่น่ามีปัญหากับการรักษาอาการบาดเจ็บในโลกมนุษย์

เหยียนซืออู่ยืนมองหลานชายอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเดินเหยียบอากาศลงมา

“ ลองดูสิ ” เขาพูดด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน แล้วยื่นข้อมือมาให้จ้าวเทียนลองตรวจสอบดู

!!

“ นี่มัน…พิษมารกร่อนกระดูก ” จ้าวเทียนมีสีหน้าตกใจ

อาการของท่านตาหนักหนากว่าที่เขาคิด หากรีบรักษาตั้งแต่เมื่อแปดปีก่อน อาจจะพอมีหวัง แต่ตอนนี้…

เมื่อเหยียนซืออู่มองเห็นท่าทางเป็นกังวลของจ้าวเทียน ก็ได้พูดขึ้น

“ ตารู้ตัวดี…ตอนนี้การจะรักษามันคงสายไปแล้วใช่ไหม ”

ตอนนี้จ้าวเทียนกำลังมีความคิดขัดแย้งภายในใจ

ในที่สุดก็ได้มีโอกาสเจอญาติผู้ใหญ่ที่เหลืออยู่ไม่กี่คนของตัวเอง แต่สุดท้ายแล้วเขากลับไม่สามารถช่วยอะไรได้เลยงั้นเหรอ

ตัวของจ้าวเทียนดำดิ่งสู่ห้วงลึกของบ่อน้ำ

‘ ปกติสายตาของฉันสามารถมองเห็นได้ในความมืด แต่ในบ่อน้ำแห่งนี้ฉันเห็นเพียงภาพเลือนลางเท่านั้น ’

ตัวเขายังคงจมลึกลงไปเรื่อยๆ จนตอนนี้เขาเริ่มรู้สึกถึงความเย็นแทรกซึมผิวกายแล้ว

‘ ตอนนี้ฉันคงลงมาถึงตำแหน่ง 50 เมตร ที่ท่านตาบอกแล้ว มันหนาวเย็นมากจริงๆ หากไม่มีเคล็ดวิชาหมื่นตะวัน ฉันคงไปต่อไม่ไหว ’

ตัวของจ้าวเทียนมีแสงสีแดงอ่อนๆกระจายออกมา ความหนาวเย็นที่กัดกินผิวหนังก็หายไป ตอนนี้ตัวเขาได้ลงผ่านระยะ 50 เมตรมาแล้ว

ผ่านไปไม่นานก็เข้าสู่ระยะ 100 เมตร เพราะแสงสะท้อนจากตัวเขาเองทำให้พอมองเห็นสภาพแวดล้อมได้บ้าง

ซึ่งมันเป็นผนังหินสีเขียวที่มีลักษณะเรียบมัน เหมือนถูกสร้างขึ้นจากแรงงานมนุษย์

‘ ตอนนี้คงถึง 200 เมตรแล้ว…แม้จะไม่รู้สึกหนาวแต่กลับรู้สึกอึดอัดมาก เหมือนถูกบดขยี้จากพลังงานอันมหาศาลรอบทิศทาง ’

ตัวของเขายังคงดำลึกลงไปอย่างรวดเร็ว จนมีความรู้สึกคล้ายกับถูกความมืดกลืนกินลงไป ไม่สามารถต่อต้านได้

‘ นี่คงใกล้จะถึง 500 เมตรแล้ว ถ้ามันยังไม่ถึงก้นบ่ออีก ฉันคงต้องล้มเลิกแล้วขึ้นไปก่อน ’

ตุบ!

ในที่สุดเท้าของเขาก็สัมผัสถึงพื้นดิน ภาพที่เขามองเห็นนั้นมันเป็นพื้นที่โล่งกว้างขนาดใหญ่จนมองไม่เห็นผนัง เขามองไม่เห็นสิ่งมีชีวิตใดๆอยู่ด้านล่างนี้

‘ ฉันไม่คิดว่าด้านล่างนี้มันจะเป็นโพรงขนาดใหญ่ ’

‘ หืม…ไม่สิ มันไม่ใช่แค่โพรง มันเหมือนเป็นพื้นที่กว้างใหญ่มาก ที่เชื่อมต่อเทือกเขาคุนหลุนไว้ทั้งหมด ’

จ้าวเทียนก้มลงเอามือสัมผัสพื้นดู เขาก็พบว่ามันมีลักษณะเหมือนแผ่นโลหะขนาดใหญ่ที่ถูกเอามาเรียงต่อกันอย่างเป็นระเบียบ

‘ ฉันสัมผัสได้ถึงพลังวิญญาณมหาศาล…ทางนั้นงั้นเหรอ! ’

เมื่อเดินสำรวจไปยังทิศทางที่สัมผัสได้ถึงพลัง เขาก็มองเห็นแสงสว่างสีส้มกระพริบเป็นจังหวะคล้ายกับการเต้นของหัวใจอยู่ไม่ไกล

ซึ่งเมื่อเดินเข้าไปใกล้ๆ เขาก็พบกับเสาหินขนาดใหญ่มาก น่าจะสูงเกิน20 เมตร

รูปร่างมันคล้ายกับหอก ที่ถูกขว้างลงมาจากสวรรค์จนฝังลงไปในพื้นดิน

แสงสีส้มที่เขาเห็น ก็เกิดจากลวดลายอักขระบางอย่างบนเสา โดยที่พวกมันกำลังเคลื่อนไหวสลับตำแหน่งกันเองอยู่ตลอดเวลา

‘ สิ่งนี้มันคล้ายกับ…เขตอาคมผนึก ’

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน