คงเป็นเพราะอานุภาพอันรุนแรงของกระบวนท่าสังหารทั่วทิศ มันได้ดึงดูดสายตาจนเกินไป ทำให้การต่อสู้ทางด้านอื่นๆหยุดชะงักลงไปครู่หนึ่ง
ยิ่งเมื่อรวมกับผลงานอันน่าเหลือเชื่อ ในการสังหารเทพสงครามที่ผ่านมาของจ้าวเทียน จึงเป็นเหตุผลให้เขาถูกจับตามมองยิ่งกว่าเดิม
“ กระบี่ของมันหักแล้ว ท่านอาเธน่าจะต้องชนะแน่นอน ”
“ ช่างเป็นหอกที่รวดเร็วและเฉียบคมจริงๆ ข้ามองเห็นเพียงประกายแสงเส้นเดียวเท่านั้น ”
“ เท่านี้ พวกเราก็สามารถยึดครองประเทศจีนได้แล้วสินะ ”
เหล่าเทพฝ่ายศัตรูพูดขึ้นด้วยสีหน้ายินดี สถานการณ์ในตอนนี้ของพวกเขาได้เปรียบอย่างเห็นได้ชัด ขอเพียงจ้าวเทียนถูกสังหาร เทพีอาเธน่าก็จะกลับมาช่วยจัดการพวกเทพโอดินอย่างง่ายดาย
เปรี้ยง! ฉัวะ!
ร่างของจ้าวเทียนและเทพีอาเธน่าได้พุ่งสวนกันด้วยความเร็วสูง ก่อนจะไปหยุดอยู่ห่างกันประมาณสิบก้าว พร้อมกับเลือดสีแดงที่สาดกระจายออกมา
“ นี่มัน เป็นไปไม่ได้ ” นาจาเผลอหลุดปากออกมาด้วยความตกใจ ที่ศีรษะของจ้าวเทียนไม่ได้ถูกทะลวงอย่างที่คิดไว้
อีกฝ่ายยอมเสียสละมือข้างหนึ่งชกใส่คมหอกให้มันเบี่ยงไปด้านข้าง ทำให้ได้รับบาดแผลตรงใบหน้าเพียงเล็กน้อย
ส่วนมือข้างนั้นก็มีสภาพยับเยินจนใช้งานไม่ได้ บางทีถ้าจ้าวเทียนไม่ได้สวมถุงมือเกล็ดมังกรเอาไว้ ก็อาจจะต้องกลายเป็นคนพิการไปแล้ว
“ ไม่เป็นไร ต่อให้มันรอดมาได้ พวกเราก็เป็นฝ่ายชนะในท้ายที่สุดอยู่ดี ”
“ ใช่แล้ว สภาพบาดเจ็บแบบนั้นไม่มีทางรับมือท่านอาเธน่าได้หรอก ”
น่าเสียดายที่คำพูดของพวกเขาคงอยู่ไม่นานนัก เพราะร่างของเทพีอาเธน่าได้ค่อยๆหงายหลังร่วงหล่นไปอย่างช้าๆ
ตรงใบหน้าอันงดงามของเธอโชกไปด้วยโลหิตสีทอง เนื่องจากถูกเศษกระบี่เกือบสิบชิ้นแทงลึกไปถึงกระดูก สำหรับสตรีที่มีสถานะสูงส่งแล้ว มันถือเป็นจุดจบที่ดูน่าอับอายเป็นอย่างมาก
“ เจ้า มันไร้ยางอาย ” เทพีอาเธน่ากัดฟันพูดขึ้นด้วยความโกรธ ก่อนที่จิตวิญญาณร่างอวตารจะดับสูญไป
“ หึหึ ฉันจะถือว่านั่นเป็นคำชมแล้วกันนะ ” จ้าวเทียนตอบกลับไปเบาๆ แม้อีกฝ่ายจะไม่มีโอกาสได้ยินแล้วก็ตามที
การต่อสู้ครั้งนี้สุ่มเสี่ยงกว่าที่ผ่านมาเป็นอย่างมาก หากพลาดพลั้งเพียงนิดเดียวผู้ที่ถูกสังหารจะกลายเป็นตัวเขาเอง
เดิมทีจ้าวเทียนก็ต้องการให้อาวุธของตัวเองถูกทำลายอยู่แล้ว เพื่อที่จะใช้วิชากระบี่บินควบคุมเศษอาวุธสังหารศัตรูที่ไม่ทันระวังตัว
แต่ใครเล่าจะคิดว่า กระบวนท่าสังหารของฝ่ายตรงข้ามจะรุนแรงถึงเพียงนั้น ทำให้อาวุธของเขาแหลกเป็นชิ้นๆ ก่อนที่จะได้ปะทะกันอย่างเต็มที่เสียอีก
‘ ถือเป็นโชคดี เสี้ยววินาทีก่อนที่อาวุธจะสัมผัสกัน ฉันก็สัมผัสได้ถึงเจตนาสังหารอันลึกล้ำจากแววตาของเธอก่อน จึงสามารถรักษาชีวิตเอาไว้ได้ ’
วูป!
จ้าวเทียนได้ใช้พลังกวาดเอาแหวนมิติของเทพีอาเธน่ามาเก็บไว้ ส่วนร่างกายของเธอนั้นเขาไม่ได้ให้ความสนใจเท่าไหร่ เพราะมันเป็นเพียงร่างอวตารปกติ ไม่ได้สร้างขึ้นจากสมบัติล้ำค่าแบบเทพแอรีส
‘ น่าเสียดายที่อาวุธเทพเจ้าถูกผูกติดกับจิตวิญญาณของเจ้าของ ไม่อย่างนั้นครั้งนี้คงเพิ่มความแข็งแกร่งให้คนอื่นๆได้อีกไม่น้อย ’
‘ ยังมีเรื่องที่มาของเคล็ดเก้ากระบี่เดียวดาย ถ้าในแหวนมิติของเทพีอาเธน่าไม่มีเบาะแส ก็คงต้องไปสอบถามเอาจากเทพกระบี่ตรงๆ ’
การที่ตัวตนระดับสูงจากแดนสวรรค์อย่างเทพีอาเธน่าให้ความสนใจขนาดนี้ เรื่องมันคงไม่จบง่ายๆแน่ หากไม่รีบเตรียมการป้องกันไว้ก่อน ผลลัพธ์คงเลวร้ายแน่นอน
ฟุ่บ!
ร่างของจ้าวเทียนผ่ามิติไปรวมกลุ่ม กับพวกเทพโอดินที่กลางวงล้อมศัตรู ซึ่งจากที่เห็นสภาพของพวกเขาก็ดูไม่ค่อยดีนัก
แต่ละคนได้รับบาดเจ็บเต็มกาย อีกทั้งยังสูญเสียพลังไปมาก ถ้าไม่ใช่เพราะการต่อสู้ได้หยุดชะงักลงไปครู่หนึ่ง อาจจะมีบางคนถูกสังหารไปแล้ว
นี่คือโลกมนุษย์ที่เทพจุติทุกคนมีขีดจำกัดพลังเท่ากัน ต่อให้ทั้งสามจะแข็งแกร่งขนาดไหน ก็ไม่อาจเอาชนะฝ่ายตรงข้ามเกือบห้าสิบคนได้
“ รีบจัดการให้จบๆไปเถอะ จะได้ลดทอนความยุ่งยากไปในตัว ”
ความคิดของเหล่าเทพนั้นเป็นไปในทิศทางเดียวกัน คือพวกตนจะต้องได้รับชัยชนะอย่างแน่นอน กับศัตรูที่ได้รับบาดเจ็บหนักทั้งสี่คนแบบนี้ ไม่จำเป็นต้องเสี่ยงชีวิตก็คงจัดการได้ไม่ยากเย็น
“ ทำไมล่ะ พวกแกไม่เชื่อฉันงั้นเหรอ ” จ้าวเทียนพูดออกมาด้วยรอยยิ้มมั่นใจ ก่อนที่จะหยิบแผ่นหยกขนาดเล็กขึ้นมาแล้วบีบมันจนแตก
ทันใดนั้น
ครืนนนน!
ช่องว่างมิติขนาดใหญ่ได้เปิดขึ้นตรงหน้าจ้าวเทียน จากนั้นก็มีกลุ่มคนนับร้อยก้าวเดินออกมาเรื่อยๆ ประกอบไปด้วยมนุษย์ ภูติ และปีศาจ ซึ่งแต่ละคนล้วนมีพลังอยู่ในขอบเขตสูงสุดทั้งสิ้น
“ นายท่าน นี่คือกองกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดของพวกเรา ขอเชิญท่านสั่งการได้เลย ”
อลิซาเบธ บาโธรี่พูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง เธอได้พาหญิงสาวอีกห้าคนในชุดเมด เดินเหยียบอากาศมาอยู่ด้านหลังจ้าวเทียนอย่างรวดเร็ว
“ พวกคุณเองก็มาด้วยสินะ ดีมาก ” จ้าวเทียนพยักหน้าให้ราชันจอมเวทเมอร์ลิน เค้าท์แดรกคูล่า และพวกผู้ถูกเลือกที่เหลืออีกห้าคน เดิมทีเขาต้องการเพียงแต่ยอดฝีมือระดับสูงจำนวนหนึ่งเท่านั้น ไม่คิดว่าระดับผู้นำจะมาเอง
“ หึหึ เรื่องแบบนี้พวกเราไม่พลาดอยู่แล้ว โอกาสที่จะได้สังหารเทพแท้จริงมันมีไม่บ่อยหรอกนะ ” ราชันอสูรคิเมียร่ายิ้มขึ้นอย่างน่ากลัว ในบรรดาศัตรูทั้งหมดมีเพียงนาจาและเจ็ดขุนพลเทพเท่านั้น ที่เขายังไม่มั่นใจว่าจะเอาชนะได้ ส่วนพวกที่เหลือไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง
“ ช่างเป็นกลิ่นเลือดที่หอมหวานจริงๆ ข้าชักจะอดใจไม่ไหวแล้วซิ ” เค้าท์แดรกคูล่าแลบลิ้นเลียปาก เผยให้เห็นเขี้ยวยาวแหลมคม
พวกผู้ถูกเลือกทั้งเจ็ดคน ได้เฝ้าดูการต่อสู้อยู่ในมิติปิดกั้นของเทพมังกรตั้งแต่แรก เพื่อประเมินความแข็งแกร่งของศัตรู จนเมื่อได้รับสัญญาณพวกเขาจึงรีบออกมาทันที
ซึ่งนี่ก็คือ…กำลังเสริมที่จ้าวเทียนจัดเตรียมเอาไว้เผื่อเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน
ดีๆๆเดินเรื่องดี...
ต่อๆไป...
ขอบคุณทีมงานที่นำเรื่องดีๆมาลงให้อ่าน...