ภายในช่องว่างมิติเวลาได้ผ่านไปครึ่งชั่วโมงแล้ว นับตั้งแต่จ้าวเทียนได้รับการถ่ายทอดเคล็ดวิชาลับของจักรพรรดิเทพหมื่นตะวันทั้งเก้ารุ่น
แต่เนื่องจากไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลาอีกนานเท่าไหร่ คนอื่นๆจึงออกไปรอด้านนอกก่อน ปล่อยให้ ลี่เหยาเหยา เทพธิดาซวนเฉวียนและกงเสี่ยวเหมยได้มีโอกาสปรับความเข้าใจกัน
เพราะนับตั้งแต่เทพธิดาซวนเฉวียนได้สติขึ้นมา สีหน้าของเธอก็หมองคล้ำลงอย่างเห็นได้ชัด ได้แต่กวาดมองไปทางลี่เหยาเหยาและกงเสี่ยวเหมยโดยไม่เอ่ยวาจาออกมาแม้เพียงครึ่งคำ
ทันใดนั้น
บูมม!
เปลวเพลิงสีทองได้ระเบิดอออกมาจากร่างจ้าวเทียน ทั้งกลิ่นอายและความหนาแน่นของมันแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิมเกือบสองเท่า
วูป!
เพียงเสี้ยววินาที เปลวเพลิงเหล่านั้นก็ได้ถักทอกันเป็นชุดเกราะสงครามปกคลุมร่างกายของเขาทั้งหมดไม่เว้นแม้แต่ดวงตา
ครืนนน!
เมื่อจ้าวเทียนลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง กำแพงมิติโดยรอบก็ถูกเผาไหม้ด้วยอุณหภูมินับล้านองศา อาณาเขตสิบเมตรรอบตัวเขาถูกเปลี่ยนเป็นโลกแห่งเปลวเพลิง ที่ไม่มีคลื่นพลังใดๆสามารถล่วงล้ำเข้ามาได้
หากจ้าวเทียนใช้มันในการต่อสู้ก่อนหน้านี้ ต่อให้ต้องเผชิญหน้ากับตัวแทนขุมกำลังจากแดนสวรรค์หลายสิบคนเขาก็ไม่เกรงกลัว
ตราบใดที่อีกฝ่ายไม่มีอาวุธระดับพระเจ้าหรือมีขอบเขตพลังสูงกว่าหลายขั้น ก็ย่อมไม่อาจสร้างความเสียหายให้กับเขาได้อย่างแน่นอน
“ เทพสงครามหมื่นตะวัน! ”
นี่คือเคล็ดวิชาลับของจักรพรรดิเทพหมื่นตะวันรุ่นที่สี่ ซึ่งเป็นวิชาเดียวที่จ้าวเทียนสามารถใช้งานได้ในขณะนี้ ส่วนอีกแปดเคล็ดวิชาที่เหลือ เขาจำเป็นต้องเสริมสร้างความแข็งแกร่ง และบรรลุแก่นแท้ในระดับที่สูงกว่าเดิม จึงจะสามารถเรียนรู้ได้สำเร็จ
‘ ไม่นึกเลยว่า แม้แต่ผู้อาวุโสซวนไท่หยางจักรพรรดิเทพหมื่นตะวันรุ่นที่เก้า ซึ่งได้รับการจารึกชื่อเอาไว้เป็นตำนาน เคล็ดวิชาลับของเขาจะถูกจัดไว้เป็นอันดับสามจากทั้งหมดเท่านั้น ’
จากทั้งเก้าเคล็ดวิชาลับที่จ้าวเทียนได้รับการถ่ายทอดมา อันดับที่หนึ่งนั้นเป็นของจักรพรรดิเทพหมื่นตะวันรุ่นที่หนึ่งซวนเทียนหู่ ศิษย์สืบทอดเพียงหนึ่งเดียวของผู้ปกครองเอกภพซวนตี้เหยียน หนึ่งในสามจอมราชันผู้ยิ่งใหญ่แห่งยุคบรรพกาล
ส่วนอันดับที่สองนั้น กลับกลายเป็นของจักรพรรดิเทพหมื่นตะวันรุ่นที่แปดซึ่งมีฐานะเป็นบิดาของรุ่นที่เก้าแทน แสดงให้เห็นว่าการจัดอันดับนี้จะคำนึงถึงความแข็งแกร่งของเคล็ดวิชาเป็นสำคัญ ไม่เกี่ยวของกับลำดับความอาวุโส
ซึ่งก็แน่นอนว่า เคล็ดวิชาเทพสงครามหมื่นตะวันที่จ้าวเทียนเพิ่งบรรลุไปนั้น ถูกจัดอยู่ในอันดับสุดท้ายจากทั้งหมดเก้าเคล็ด
‘ สมกับที่ได้รับการขัดเกลามาหลายล้านปี แม้จะอยู่ในอันดับที่เก้าแต่ก็ยังเหนือกว่าเคล็ดวิชาระดับเทวะขั้นสูงทั่วไปมาก ไม่ด้อยกว่าสามหมัดราชันจักรพรรดิของฉัน หรือกายาอมตะของมหาเทพจูเซียนแม้แต่น้อย ’
จ้าวเทียนไม่แปลกใจเลย ว่าเพราะเหตุใดจักรพรรดิเทพหมื่นตะวันแต่ละรุ่นถึงกลายเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดในยุคสมัยของตนเอง
‘ หืม ถ้าเป็นแบบนี้ แสดงว่าฉันก็ต้องคิดค้นเคล็ดวิชาลับหมื่นตะวันของตนเอง เพื่อถ่ายทอดไปสู่รุ่นต่อไปเหมือนกันสินะ ’
จักรพรรดิเทพหมื่นตะวันรุ่นแรกถือได้ว่าเป็นยอดอัจฉริยะอย่างแท้จริง เขาต้องการใช้อันดับการสืบทอดเคล็ดวิชาลับนี้กดดันทายาทรุ่นต่อๆไปของตนเอง ให้ต้องทุ่มเทความพยามมากกว่าบรรพบุรุษ
เพราะไม่มีใครหรอกที่อย่างจะรั้งอันดับสุดท้าย จ้าวเทียนเองก็เป็นเช่นเดียวกัน เผลอๆตัวเขาอาจจะคาดหวังเป็นอันดับหนึ่งเลยด้วยซ้ำ
“ นายเป็นยังไงบ้าง ทุกอย่างเรียบร้อยไหม ”
ซึ่งคำพูดของเขาเอง ก็ได้ทำให้หญิงสาวทั้งสามคนถอนหายใจออกมาพร้อมกันด้วยความหน่ายใจ โดยเฉพาะเทพธิดาซวนเฉวียนที่ถึงขนาดบ่นออกมาในใจเป็นชุด
เธออุตส่าห์หาทางออกให้ตัวเองได้แล้ว แต่ผู้ชายคนนี้ยังไม่ยอมปล่อยเธอไปอีก จะดึงเธอเข้าฮาเร็มให้ได้เลยใช่ไหม นี่เป็นสิ่งที่เธอไม่ยอมให้เกิดขึ้นเด็ดขาด การแอบรักเขาข้างเดียวมันน่าสงสารแค่ไหน ตัวอย่างก็มีให้เห็นอยู่
“ เอาเป็นแบบนี้ดีไหม ในเมื่อจุดประสงค์ที่แท้จริงของผู้อาวุโสซวนไท่หยางคือการหาคนมาปกป้องดูแลพี่ซวนเฉวียนอยู่แล้ว ”
“ งั้นก็ให้จ้าวเทียนอยู่ในฐานะเดียวกับเขาเลยเป็นไง ด้วยความสัมพันธ์ฉันพี่น้องก็สามารถบรรลุเงื่อนไขได้เหมือนกัน และเมื่อไหร่ที่พี่ซวนเฉวียนสามารถสร้างกายเนื้อได้สำเร็จ เธอก็มีสิทธิ์ตัดสินชะตาชีวิตของตนเอง ห้ามไปฝืนใจเธอเด็ดขาด ”
ลี่เหยาเหยาได้อธิบายความคิดของเธอออกมา ซึ่งก็ได้รับความเห็นชอบจากหญิงสาวที่เหลืออีกสองคนทันที
ส่วนจ้าวเทียนนั้นไม่ได้มีความเห็นเป็นอื่นอยู่แล้ว เพราะเขาเองก็ไม่ได้ชอบบีบบังคับจิตใจใคร แต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เขาก็จะยังให้การปกป้องเทพธิดาซวนเฉวียนตลอดไป ตามที่เคยรับปากไว้อย่างแน่นอน
“ ในเมื่อไม่มีอะไรแล้ว งั้นพวกเราก็ออกไปกันเถอะ ”
“ เดี๋ยวก่อน ฉันยังมีอีกเรื่อง ” เทพธิดาซวนเฉวียนร้องขัดขึ้นเมื่อเห็นว่ากงเสี่ยวเหมยเดินนำออกประตูมิติไปแล้ว ก่อนที่จะพูดขึ้นต่อด้วยใบหน้าเขินอาย
“ เอ่อ คือว่า หลังจากนี้ถ้าพวกเธอจะทำเรื่องแบบนั้นกัน ช่วยส่งสัญญาณบอกกันก่อนได้ไหม ฉันจะได้เตรียมตัว… ”
ยังไม่ทันที่เธอจะพูดจบ ลี่เหยาเหยาก็รีบดึงตัวเธอกลับเข้ามาในร่างทันที พร้อมทั้งตะโกนใส่จ้าวเทียนด้วยท่าทีหงุดหงิด
“ ตาบ้า ทั้งหมดเป็นเพราะนายคนเดียวเลย ”
“ หืม ฉันงั้นเหรอ ” จ้าวเทียนส่ายหน้าเบาๆด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะโอบเอวหญิงคนรักเดินออกไปข้างนอกอย่างสบายใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน
ดีๆๆเดินเรื่องดี...
ต่อๆไป...
ขอบคุณทีมงานที่นำเรื่องดีๆมาลงให้อ่าน...