ภายใต้อำนาจหัตถ์แห่งผู้ปกครองเทพมาร ทั้งชีวิตและความตายของสรรพสิ่งในหลุมอเวจีชั้นสิบแปดได้ถูกควบคุมอย่างเด็ดขาด
สำหรับผู้อื่นความรู้สึกเช่นนี้เกิดขึ้นเพียงครู่เดียวก็หายไป เพราะการโจมตีนี้ไม่ได้เล็งเป้าไปที่พวกเขา แต่สำหรับโฮ่วอี้นั้นไม่ใช่ ภัยพิบัติแห่งความตายอันร้ายแรงได้มาเยือนเขาอย่างรวดเร็ว
“ อาจารย์ปู่ ท่านรีบหนีเร็ว ” จ้าวเทียนตะโกนออกมาสุดเสียงด้วยความร้อนรน แต่ก็ทำได้เพียงแค่นั้นเพราะตัวเขาเองก็ถูกผลกระทบทำให้ขยับร่างกายไม่ได้เช่นกัน
“ หนีงั้นรึ จะให้ข้าหนีได้อย่างไรล่ะ ” โฮ่วอี้พูดเยาะเย้ยตัวเอง
เขารู้ดีว่ากระสวยทะยานดาราเจาะทะลวงม่านเขตอาคมได้สำเร็จแล้ว แต่การโจมตีของเทพมารต่างภพนั้นกำหนดเป้าหมายมาที่ตนเอง หากเขาหนีไปทางจ้าวเทียนก็จะเป็นการชักนำภัยพิบัติไปหาเท่านั้น
ซึ่งก็แน่นอนว่า จ้าวเทียนย่อมเข้าใจเหตุผลข้อนี้ดี เพียงแต่เขาไม่อาจทำใจทนมองโฮ่วอี้ต้องเสียสละเพื่อทุกคนได้
“ เลิกดิ้นรนแล้วรึ เจ้ามดปลวก ”
เทพมารต่างภพพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน นี่ขนาดมันใช้แค่มือข้างเดียวก็กำหนดชะตากรรมของผู้แข็งแกร่งในจักรวาลนี้ได้แล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงตอนที่ร่างจริงของมันก้าวข้ามมาได้ทั้งหมดเลย
เสียดายที่พลังส่วนใหญ่ของมันถูกกำแพงมิติโกลาหลขวางกั้นเอาไว้อยู่ ไม่อย่างนั้นคงกวาดล้างจักรวาลที่ไร้เจ้าของนี้ไว้เป็นของตนไปนานแล้ว
“ นี่เจ้า อย่าดูถูกข้าให้มันมากนัก ” โฮ่วอี้กัดฟันพูดขึ้นด้วยความโกรธ เมื่อเห็นฝ่ายตรงข้ามยกมือค้างไว้ไม่ยอมโจมตีลงมาสักที ราวกับต้องการเล่นสนุกกับตนก็ไม่ปาน
“ ได้ ในเมื่ออยากรีบตายนักข้าก็จะสงเคราะห์ให้ หลังทำลายร่างแยกของเจ้าแล้ว ข้าจะไปตามหาร่างจริงของเจ้าแน่นอน อย่าคิดเลยว่าจะหนีรอดเงื้อมมือข้าไปได้ ”
บูมมม!
สิ้นเสียง หัตถ์แห่งชะตากรรมก็ทุบลงมาอย่างรุนแรง มันได้ทำลายข้อจำกัดทั้งหมดของมิติเวลา แม้แต่กฎเกณฑ์แห่งสวรรค์ก็ไม่อาจหยุดยั้ง
ตูม!ๆๆๆ
มองเห็นม่านพลังคุ้มกายของโฮ่วอี้พังทลายลงอย่างต่อเนื่อง กล้ามเนื้อของเขาฉีกขาด ชีพจรขาดสะบั้น กระดูกแตกละเอียด
ถึงแม้จะตกอยู่สถานการณ์ที่น่าสิ้นหวังเพียงใด แต่สีหน้าของโฮ่วอี้ก็ยังเต็มไปด้วยความเด็ดเดียว ไร้ซึ่งความหวั่นเกรงต่อความตาย
แกร่ก!
คันศรเก้าสุริยันอาวุธระดับพระเจ้า ถูกทำลายในเวลาไม่ถึงลมหายใจ พลังแห่งผู้ปกครองเทพมารช่างน่าสะพรึงกลัวอย่างแท้จริง
ทันใดนั้นเอง
เสี้ยววินาที ที่หัตถ์แห่งชะตากรรมจะบดขยี้โฮ่วอี้จนดับสูญ มันก็ได้เกิดความเปลี่ยนแปลงบางอย่างขึ้น ส่งผลให้เจตจำนงแห่งการต่อสู้ของเขาลุกโชนขึ้นอีกครั้ง
ก่อนที่ตัวตนจะถูกลบหายไป โฮ่วอี้ได้ตระหนักรู้ถึงพลังงานบางอย่างที่กำลังรุกล้ำเข้ามาทำลายทั้งกายเนื้อและดวงวิญญาณ ซึ่งเป็นสิ่งที่ตัวเขาไม่เคยสัมผัสมาก่อนตลอดช่วงชีวิตอันยาวนานหลายสิบล้านปี
นี่คือ…พลังในการควบคุมกฎแห่งจักรวาล
‘ ที่แท้ก็เป็นแบบนี้เองรึ… ’
ราวกับมองเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์อันมืดมิด ชีวิตและความตายไม่ได้มีความสำคัญกับเขาอีกต่อไป เพราะเขาได้รับคำตอบที่ตามหามาเนิ่นนานแล้ว
ตั้งแต่สามผู้ปกครองเอกภพยุคจักรวาลแรกเริ่มหายตัวไป หนทางแห่งการบรรลุสู่จุดสูงสุดก็เหมือนจะถูกปิดกั้นไปด้วย ทำให้จักรพรรดิเทพยุคบรรพกาลหลายสิบองค์ต้องดับสูญไปเพราะความคับแค้นใจ
ซึ่งนั่นไม่ได้หมายความว่าผู้ฝึกตนรุ่นหลังอ่อนแอ แต่เป็นเพราะพวกเขาไม่เคยเข้าใจถึงความหมายที่แท้จริงของขอบเขตนั้นมาก่อน
แต่ทว่า ในตอนนี้โฮ่วอี้ได้รับรู้มันด้วยตนเองแล้ว แม้จะเป็นเพียงชิ้นส่วนสำคัญเล็กๆจากองค์ประกอบทั้งหมดก็ตามที
ครืนนนน! เพล้ง!
กฎเกณฑ์ที่ผูกมัดโฮ่วอี้ไว้แตกสลายในพริบตา ทำให้ตัวเขากลายเป็นอิสระและสามารถผลักดันการโจมตีของศัตรูกลับไปได้เล็กน้อย
“ นี่มัน สมควรตาย เจ้ากล้าใช้ข้าเป็นเครื่องมือรึ ”
จ้าวเทียนมองจุดที่โฮ่วอี้ถูกลบหายไปด้วยความปวดร้าว ถึงเขาจะรู้ดีว่านั่นเป็นแค่ร่างแยก แต่ภาพที่อีกฝ่ายยอมสละชีวิตของตนเองเพื่อขับไล่เทพมารต่างภพ ก็ยังตราตึงอยู่ในความทรงจำไม่ลืมเลือน
ทันใดนั้น
“ จ้าวเทียน ระวัง! ”
ปิงกู่เหนียงเหนียงร้องเตือนเสียงดัง พร้อมกับพุ่งตัวเข้ามาขวางการลอบโจมตีของสองผู้พิทักษ์เอาไว้
เปรี้ยงงง! ตูมมมม
เมื่อเจอการโจมตีประสานของสองผู้พิทักษ์วิหารมาร เกราะสงครามระดับศักดิ์สิทธิ์ก็แตกกระจายเป็นชิ้นๆ บนแผ่นหลังของปิงกู่เหนียงเหนียงเกิดเป็นรอยฟันสองสายบาดลึกถึงกระดูก ส่งผลให้เธอได้รับบาดเจ็บสาหัสทันที
“ บัดซบ! ไอ้พวกเจ้าเล่ห์ ” จ้าวเทียนตะโกนออกมาด้วยความเดือดดาล
ฝ่ายตรงข้ามได้แฝงตัวอยู่ในเงามืดตั้งแต่ตอนที่เทพมารปรากฏกาย ทั้งยังเลือกจังหวะลอบโจมตีในยามที่ตัวเขาจิตใจไม่มั่นคงพอดี หากไม่ได้ปิงกู่เหนียงเหนียงเข้ามาขวางไว้ เขาคงต้องพลาดท่าเสียทีแน่นอน
“ เพลิงสุริยันทำลายล้าง! ”
จ้าวเทียนสั่งให้อีกาทองคำพ่นเปลวเพลิงสีทองกวาดออกไปรอบๆอีกครั้ง ทำให้ศัตรูทั้งหมดต้องรีบถอยห่างออกไปไกล
จากนั้นเขาก็รีบคว้าตัวปิงกู่เหนียงเหนียงหลบหนีออกไปทางช่องว่างอวกาศที่กระสวยทะยานดาราเปิดเอาไว้
“ อย่าหวังว่าจะหนีรอด ”
วูป ครืนน!
ก่อนที่ช่องว่างอวกาศจะปิดตัวลง ราชันมารตรีเนตรกับสองผู้พิทักษ์มารก็พุ่งตัวตามเข้าไปด้วยเช่นกัน
พิธีกรรมแสนสำคัญถูกทำลาย กองทัพมารหลายล้านตนถูกสังหาร อีกทั้งหลุมนรกอเวจีชั้นสิบแปดก็ยังมาเสียหายยับเยินขนาดนี้ หากปล่อยให้ศัตรูหนีรอดไปได้อีก เทพมารคงไม่มีทางยอมละเว้นพวกมันแน่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน
ดีๆๆเดินเรื่องดี...
ต่อๆไป...
ขอบคุณทีมงานที่นำเรื่องดีๆมาลงให้อ่าน...