ณ บ้านหลักตระกูลหลง
ภายในห้องประชุมขนาดใหญ่ ตอนนี้สมาชิกหลักฝ่ายหลงซีอัน ซึ่งเป็นอาหญิงของหลงซูฉี กำลังประชุมกันเรื่องงานประมูลที่เมืองเทียนจินในวันพรุ่งนี้
“ รายชื่อรายการประมูลนี่เป็นของจริงใช่ไหม ” หลงซีอันถามขึ้น
“ ฉันไปตรวจสอบมาแล้วเป็นของจริงแน่นอน…ตระกูลลี่ยังปล่อยข่าวว่ารู้จักกับปรมาจารย์โอสถอีกด้วย ” หลงฉินตอบอย่างจริงจัง
“ พวกมันกล้ามากนะ…ตลาดโอสถทั้งหมดอยู่ในมือพวกเราตระกูลหลงมาตลอด ”ผู้อาวุโสคนหนึ่งพูดขึ้นด้วยความโกรธ
“ ถ้าข้อมูลในใบรายการเป็นจริง…สรรพคุณยาเม็ดของพวกมันเหนือกว่าของพวกเราทุกอย่างเลยนะ ” หลงซีอันพูดขึ้นด้วยสีหน้ากังวล
ฮ่า ฮา
ชายชราคนหนึ่งหัวเราะขึ้น เขาคือผู้อาวุโสกิตติมศักดิ์ของตระกูลหลง ยาเม็ดที่ตระกูลหลงขายอยู่ก็เป็นของที่พวกลูกศิษย์ของเขาหลอมเอง
“ ปรมาจารย์โอสถงั้นเหรอ…เป็นแค่กบในกะลาชัดๆ พวกคุณไม่ต้องห่วงเรื่องนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ฉันเอง ”
“ พรุ่งนี้พวกคุณส่งรายชื่อยาเม็ดพวกนี้ร่วมประมูลด้วย ฉันจะให้มันได้รู้ว่าโอสถที่แท้จริงนั้นเป็นยังไง ”
“ ฉันต่างหาก…ปรมาจารย์โอสถที่แท้จริง ” เขายื่นใบรายชื่อให้หลงซีอัน แล้วเดินออกจากห้องประชุมไปเตรียมตัวสำหรับพรุ่งนี้
7 โมงเช้าวันงานประมูล
ตอนนี้จ้าวเทียนกำลังนั่งทานข้าวเช้ากันแบบพร้อมหน้าพร้อมตา เพียงแต่ว่าหลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวาน ทำให้สามสาวทำตัวแปลกไป
“ น้องเป็นอะไรรึเปล่า…ทำไมถึงนั่งก้มหน้าตลอดเวลา ” จ้าวเทียนถามด้วยความสงสัย
“ ก็ไม่มีอะไรนี่คะ…พี่ชายไม่ต้องสนใจหรอก ” จ้าวหยูเหมยตอบแบบเขินๆ คงต้องใช้เวลาอีกซักพักเธอถึงจะทำตัวเป็นปกติได้
“ แล้วเธอล่ะปิงหยู…วันนี้เธอดูไม่มีสมาธิเลยนะ ตั้งแต่ตอนฝึกรอบเช้าแล้ว ” จ้าวเทียนหันไปถามโม่ปิงหยูต่อ
วันนี้ตอนฝึกฝนกระบวนท่า ตัวเขาเองก็เข้าไปแนะนำตามปกติ แต่เวลามีการสัมผัสตัวกัน เธอก็มีท่าทีเขินอาย แล้วมองมาที่เขาด้วยสายตาแปลกๆ ทำให้การฝึกในวันนี้ไม่ค่อยคืบหน้าซักเท่าไหร่
น้องสาวเขากับโม่ปิงหยูนั้นทำตัวแปลกไปจนเห็นได้ชัด แต่โม่ซินหยานนั้นยังเหมือนเดิมทุกอย่างไม่มีอะไรเปลี่ยนไป
เพียงแต่…
วันนี้เขามักจะรู้สึกว่าเธอแอบมองเขาบ่อยๆ ตอนที่เขาฝึกวิชาอยู่ตรงระเบียง โดยเฉพาะตอนที่เขาถอดเสื้อเตรียมตัวจะไปอาบน้ำ
สายตาที่เธอมองมา…
มันคือสายตาของนักล่าชัดๆ…
‘ เมื่อวานคงไม่เกิดอะไรขึ้น ตอนที่ฉันสลบไปใช่ไหม ’
เวลา 9.30 น. ห้องจัดงานประมูล
วันนี้การประมูลจะเริ่มขึ้นตอนเวลา 10 โมง ที่โรงแรมแกรนด์มารีออท ซึ่งเป็นของท่านผู้เฒ่าตระกูลหวัง คนที่ให้บัตรส่วนลดคลับแมวป่ากับจ้าวเทียน
ชายวัยกลางคนพร้อมกับลูกน้องอีก 2 คน เดินตรงเข้ามาหน้าสถานที่จัดงานประมูล พวกเขาสวมชุดจีนคอปกสีดำ พร้อมกับหมวกและผ้าพันคอสีขาว เหมือนหลุดมาจากหนังมาเฟียจีนยุค 80
“ พี่จ้าว…เราจะเข้าไปแบบนี้จริงๆเหรอ ” เฉินจิ้งพูดด้วยท่าทีอับอาย ตั้งแต่ลงมาจากรถ แขกทั้งโรงแรมก็ชี้มาที่พวกเขาแล้วหันไปกระซิบกระซาบกันตลอด
“ นายจะสนใจอะไร…พวกเรากำลังปลอมตัวอยู่ ไม่มีใครรู้หรอกว่าเราเป็นใคร ” ลี่หวูเฉินพูดแทรกขึ้นด้วยรอยยิ้ม ตอนนี้เขารู้สึกดีมากเหมือนได้ปลดปล่อยตัวเองออกมา
“ นายอย่าคิดมากเลย…แล้วก็ เวลาอยู่ที่นี่ให้เรียกฉันว่าคุณโฮ่ว ” จ้าวเทียนตอบเฉินจิ้งด้วยสีหน้าเรียบเฉย
เฉินจิ้งได้แต่จำใจยอมรับความจริง เขามองพี่ชายทั้งสองที่อยู่ด้านหน้า พวกเขาดูไม่ได้สะทกสะท้านกับสายตาของคนอื่นเลย ทั้งยังเดินยืดอกอย่างสง่าผ่าเผย ด้วยความมั่นใจ
ฉันรู้นะ พวกพี่ก็แค่อยากเล่นบทเจ้าพ่อดูใช่ไหม…
เนื่องเพราะวันนี้พวกเขาต้องปลอมตัวเข้าร่วมงานประมูล จึงต้องให้ผู้มีประสบการณ์ในการปลอมตัวอย่างโม่ซินหยานจัดการให้
ส่วนเสื้อผ้านั้น จ้าวหยูเหมยเป็นคนเตรียมให้ ซึ่งมันเกิดจากเมื่อวานจ้าวเทียนได้คุยกับโม่ซินหยานเรื่องที่จะต้องปลอมตัวเข้าร่วมงานประมูล
เมื่อน้องสาวของเขาได้ยินเข้า แววตาเธอก็เป็นประกายทันที เธอเลยขออาสาจัดเตรียมเสื้อผ้าให้เอง ด้วยความที่ตอนนั้นเขามีสิ่งอื่นที่ต้องทำ ก็เลยตอบตกลงไปอย่างไม่คิดอะไร
สุดท้ายเลยมาจบที่ชุดนี้ จ้าวเทียนก็เพิ่งรู้ว่าช่วงนี้จ้าวหยูเหมยกับโม่ปิงหยูติดละครเรื่อง เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ ที่นำมาฉายซ้ำอยู่ พวกเธอเลยอยากเห็นจ้าวเทียนใส่ชุดนี้
“ จำไว้ว่า…วันนี้พวกเราเล่นบทเป็นคนจากสำนักโบราณที่เย่อหยิ่งอวดดีนะ ” จ้าวเทียนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง
เขาได้ยินมาจากท่านปู่ลี่ ว่าคนที่มาจากสำนักโบราณส่วนใหญ่จะมีนิสัยดูถูกคนจากโลกภายนอก วันนี้เขาต้องแสดงให้สมจริงไม่ให้ศัตรูเขาเห็นพิรุธ
วันนี้เป้าหมายของพวกเขาคือดึงดูดความสนใจจากคนตระกูลจ้าว เพื่อที่จะแฝงตัวเข้าไปตรวจสอบขุมกำลังของพวกมัน
“ ไม่ได้ยินที่ฉันสั่งรึ…คุกเข่าลง! ” ลี่หวูเฉินพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา ใจเขาเริ่มรู้สึกติดใจบทบาทนี้เสียแล้ว
เสียงพูดคุยบริเวณรอบๆเงียบลงทันที ตอนนี้ทุกสายตามองมาที่พวกจ้าวเทียนด้วยความตกใจ งานครั้งนี้เป็นงานใหญ่ ที่มีบุคคลสำคัญจากปักกิ่งมาร่วมมากมาย คนพวกนี้มันกล้าลงมือได้อย่างไร
หรือพวกมันจะเป็นเจ้าพ่อมาเฟียของจริง…
“ พวกแกยังรออะไรอีก…จัดการมันสิวะ ” ลู่ไป๋หันไปสั่งบอดีการ์ดด้านหลังเสียงดัง
บอดี้การ์ดทั้งคู่มองหน้ากันเอง ลงมือในงานสำคัญแบบนี้จะไม่เป็นไรงั้นเหรอ แต่เมื่อเห็นว่าลู่เหยียนไม่ได้ห้าม
บอดี้การ์ดทั้งสองคนก็พุ่งเข้าใส่ลี่หวูเฉินทันที
“ หยุดเดี๋ยวนี้! ”
!!
ชายหนุ่มผมยาวตะโกนห้ามขึ้น ด้านข้างเขามีชายอีกคนที่กำลังจิบไวน์มองเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยท่าทางสนใจ
“ เกิดอะไรขึ้น…ทำไมกล้าก่อปัญหาที่นี่ ” ชายหนุ่มผมยาวพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา
ผู้คนที่อยู่รอบๆเมื่อเห็นชายหนุ่มทั้งสองคนที่มาใหม่ ก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปทันที ทุกคนหันไปพูดคุยกันด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“ นั่นมัน…หวังเจี้ยนเฟยใช่ไหม ส่วนคนที่จิบไวน์นั่นก็จ้าวหยุนปิง พวก 4 คุณชายแห่งปักกิ่งมาร่วมงานนี่ด้วยเหรอ ”
“ พวกเราต้องฉวยโอกาสนี้ไว้นะ…ถ้าสร้างสัมพันธ์กับพวกเขาได้ก็จะสบายไปสิบชาติ ”
“ ฉันได้ยินข่าวมาว่า…จ้าวฉงซานเตรียมวางตัวจ้าวหยุนปิงเป็นผู้สืบทอดตระกูลจ้าวแล้ว ”
ท่ามกลางเสียงพูดคุยกันของคนโดยรอบ พวกจ้าวเทียนได้หันมาสบตากัน ตอนนี้เป้าหมายของพวกเขาโผล่ออกมาแล้ว
“ คุณชายหวัง…พวกเขาลงมือกับผมก่อน ” ลู่ไป๋รีบพูดขึ้นด้วยท่าทีหวาดกลัว บุคคลตรงหน้าไม่ใช่คนที่ตระกูลเขาจะรับมือได้
“ พวกคุณเริ่มก่อนงั้นเหรอ ” หวังเจี้ยนเฟย หันมาถามพวกจ้าวเทียน
“ มันกล้าพูดจาดูหมิ่นเจ้านายฉัน…นี่เป็นแค่การสั่งสอนเท่านั้น ” ลี่หวูเฉินพูดขึ้นอย่างถือดี เขาแกล้งทำเป็นโกรธแล้วปลดปล่อยพลังระดับผู้เชี่ยวชาญออกมาเล็กน้อย
หวังเจี้ยนเฟยกับจ้าวหยุนปิงมีแววตาเปลี่ยนไปเมื่อเห็นพลังของลี่หวูเฉิน
พวกเขารู้มาว่าในเมืองเทียนจิน คนที่มีขอบเขตผู้เชี่ยวชาญนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นระดับหัวหน้าตระกูลหรือผู้อาวุโสระดับสูงซึ่งมีอายุมากแล้ว
แต่ดูผู้เชี่ยวชาญคนนี้เขามีอายุเพียง 30 กว่าปีเท่านั้นถือเป็นอัจฉริยะเลยทีเดียว คนที่เขาเรียกว่าเจ้านายก็คงไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน
หรือว่า…
พวกสำนักโบราณงั้นเหรอ…
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน
ดีๆๆเดินเรื่องดี...
ต่อๆไป...
ขอบคุณทีมงานที่นำเรื่องดีๆมาลงให้อ่าน...