จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 49

ณ บ้านหลักตระกูลหลง

ภายในห้องประชุมขนาดใหญ่ ตอนนี้สมาชิกหลักฝ่ายหลงซีอัน ซึ่งเป็นอาหญิงของหลงซูฉี กำลังประชุมกันเรื่องงานประมูลที่เมืองเทียนจินในวันพรุ่งนี้

“ รายชื่อรายการประมูลนี่เป็นของจริงใช่ไหม ” หลงซีอันถามขึ้น

“ ฉันไปตรวจสอบมาแล้วเป็นของจริงแน่นอน…ตระกูลลี่ยังปล่อยข่าวว่ารู้จักกับปรมาจารย์โอสถอีกด้วย ” หลงฉินตอบอย่างจริงจัง

“ พวกมันกล้ามากนะ…ตลาดโอสถทั้งหมดอยู่ในมือพวกเราตระกูลหลงมาตลอด ”ผู้อาวุโสคนหนึ่งพูดขึ้นด้วยความโกรธ

“ ถ้าข้อมูลในใบรายการเป็นจริง…สรรพคุณยาเม็ดของพวกมันเหนือกว่าของพวกเราทุกอย่างเลยนะ ” หลงซีอันพูดขึ้นด้วยสีหน้ากังวล

ฮ่า ฮา

ชายชราคนหนึ่งหัวเราะขึ้น เขาคือผู้อาวุโสกิตติมศักดิ์ของตระกูลหลง ยาเม็ดที่ตระกูลหลงขายอยู่ก็เป็นของที่พวกลูกศิษย์ของเขาหลอมเอง

“ ปรมาจารย์โอสถงั้นเหรอ…เป็นแค่กบในกะลาชัดๆ พวกคุณไม่ต้องห่วงเรื่องนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ฉันเอง ”

“ พรุ่งนี้พวกคุณส่งรายชื่อยาเม็ดพวกนี้ร่วมประมูลด้วย ฉันจะให้มันได้รู้ว่าโอสถที่แท้จริงนั้นเป็นยังไง ”

“ ฉันต่างหาก…ปรมาจารย์โอสถที่แท้จริง ” เขายื่นใบรายชื่อให้หลงซีอัน แล้วเดินออกจากห้องประชุมไปเตรียมตัวสำหรับพรุ่งนี้

7 โมงเช้าวันงานประมูล

ตอนนี้จ้าวเทียนกำลังนั่งทานข้าวเช้ากันแบบพร้อมหน้าพร้อมตา เพียงแต่ว่าหลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวาน ทำให้สามสาวทำตัวแปลกไป

“ น้องเป็นอะไรรึเปล่า…ทำไมถึงนั่งก้มหน้าตลอดเวลา ” จ้าวเทียนถามด้วยความสงสัย

“ ก็ไม่มีอะไรนี่คะ…พี่ชายไม่ต้องสนใจหรอก ” จ้าวหยูเหมยตอบแบบเขินๆ คงต้องใช้เวลาอีกซักพักเธอถึงจะทำตัวเป็นปกติได้

“ แล้วเธอล่ะปิงหยู…วันนี้เธอดูไม่มีสมาธิเลยนะ ตั้งแต่ตอนฝึกรอบเช้าแล้ว ” จ้าวเทียนหันไปถามโม่ปิงหยูต่อ

วันนี้ตอนฝึกฝนกระบวนท่า ตัวเขาเองก็เข้าไปแนะนำตามปกติ แต่เวลามีการสัมผัสตัวกัน เธอก็มีท่าทีเขินอาย แล้วมองมาที่เขาด้วยสายตาแปลกๆ ทำให้การฝึกในวันนี้ไม่ค่อยคืบหน้าซักเท่าไหร่

น้องสาวเขากับโม่ปิงหยูนั้นทำตัวแปลกไปจนเห็นได้ชัด แต่โม่ซินหยานนั้นยังเหมือนเดิมทุกอย่างไม่มีอะไรเปลี่ยนไป

เพียงแต่…

วันนี้เขามักจะรู้สึกว่าเธอแอบมองเขาบ่อยๆ ตอนที่เขาฝึกวิชาอยู่ตรงระเบียง โดยเฉพาะตอนที่เขาถอดเสื้อเตรียมตัวจะไปอาบน้ำ

สายตาที่เธอมองมา…

มันคือสายตาของนักล่าชัดๆ…

‘ เมื่อวานคงไม่เกิดอะไรขึ้น ตอนที่ฉันสลบไปใช่ไหม ’

เวลา 9.30 น. ห้องจัดงานประมูล

วันนี้การประมูลจะเริ่มขึ้นตอนเวลา 10 โมง ที่โรงแรมแกรนด์มารีออท ซึ่งเป็นของท่านผู้เฒ่าตระกูลหวัง คนที่ให้บัตรส่วนลดคลับแมวป่ากับจ้าวเทียน

ชายวัยกลางคนพร้อมกับลูกน้องอีก 2 คน เดินตรงเข้ามาหน้าสถานที่จัดงานประมูล พวกเขาสวมชุดจีนคอปกสีดำ พร้อมกับหมวกและผ้าพันคอสีขาว เหมือนหลุดมาจากหนังมาเฟียจีนยุค 80

“ พี่จ้าว…เราจะเข้าไปแบบนี้จริงๆเหรอ ” เฉินจิ้งพูดด้วยท่าทีอับอาย ตั้งแต่ลงมาจากรถ แขกทั้งโรงแรมก็ชี้มาที่พวกเขาแล้วหันไปกระซิบกระซาบกันตลอด

“ นายจะสนใจอะไร…พวกเรากำลังปลอมตัวอยู่ ไม่มีใครรู้หรอกว่าเราเป็นใคร ” ลี่หวูเฉินพูดแทรกขึ้นด้วยรอยยิ้ม ตอนนี้เขารู้สึกดีมากเหมือนได้ปลดปล่อยตัวเองออกมา

“ นายอย่าคิดมากเลย…แล้วก็ เวลาอยู่ที่นี่ให้เรียกฉันว่าคุณโฮ่ว ” จ้าวเทียนตอบเฉินจิ้งด้วยสีหน้าเรียบเฉย

เฉินจิ้งได้แต่จำใจยอมรับความจริง เขามองพี่ชายทั้งสองที่อยู่ด้านหน้า พวกเขาดูไม่ได้สะทกสะท้านกับสายตาของคนอื่นเลย ทั้งยังเดินยืดอกอย่างสง่าผ่าเผย ด้วยความมั่นใจ

ฉันรู้นะ พวกพี่ก็แค่อยากเล่นบทเจ้าพ่อดูใช่ไหม…

เนื่องเพราะวันนี้พวกเขาต้องปลอมตัวเข้าร่วมงานประมูล จึงต้องให้ผู้มีประสบการณ์ในการปลอมตัวอย่างโม่ซินหยานจัดการให้

ส่วนเสื้อผ้านั้น จ้าวหยูเหมยเป็นคนเตรียมให้ ซึ่งมันเกิดจากเมื่อวานจ้าวเทียนได้คุยกับโม่ซินหยานเรื่องที่จะต้องปลอมตัวเข้าร่วมงานประมูล

เมื่อน้องสาวของเขาได้ยินเข้า แววตาเธอก็เป็นประกายทันที เธอเลยขออาสาจัดเตรียมเสื้อผ้าให้เอง ด้วยความที่ตอนนั้นเขามีสิ่งอื่นที่ต้องทำ ก็เลยตอบตกลงไปอย่างไม่คิดอะไร

สุดท้ายเลยมาจบที่ชุดนี้ จ้าวเทียนก็เพิ่งรู้ว่าช่วงนี้จ้าวหยูเหมยกับโม่ปิงหยูติดละครเรื่อง เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ ที่นำมาฉายซ้ำอยู่ พวกเธอเลยอยากเห็นจ้าวเทียนใส่ชุดนี้

“ จำไว้ว่า…วันนี้พวกเราเล่นบทเป็นคนจากสำนักโบราณที่เย่อหยิ่งอวดดีนะ ” จ้าวเทียนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง

เขาได้ยินมาจากท่านปู่ลี่ ว่าคนที่มาจากสำนักโบราณส่วนใหญ่จะมีนิสัยดูถูกคนจากโลกภายนอก วันนี้เขาต้องแสดงให้สมจริงไม่ให้ศัตรูเขาเห็นพิรุธ

วันนี้เป้าหมายของพวกเขาคือดึงดูดความสนใจจากคนตระกูลจ้าว เพื่อที่จะแฝงตัวเข้าไปตรวจสอบขุมกำลังของพวกมัน

“ ไม่ได้ยินที่ฉันสั่งรึ…คุกเข่าลง! ” ลี่หวูเฉินพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา ใจเขาเริ่มรู้สึกติดใจบทบาทนี้เสียแล้ว

เสียงพูดคุยบริเวณรอบๆเงียบลงทันที ตอนนี้ทุกสายตามองมาที่พวกจ้าวเทียนด้วยความตกใจ งานครั้งนี้เป็นงานใหญ่ ที่มีบุคคลสำคัญจากปักกิ่งมาร่วมมากมาย คนพวกนี้มันกล้าลงมือได้อย่างไร

หรือพวกมันจะเป็นเจ้าพ่อมาเฟียของจริง…

“ พวกแกยังรออะไรอีก…จัดการมันสิวะ ” ลู่ไป๋หันไปสั่งบอดีการ์ดด้านหลังเสียงดัง

บอดี้การ์ดทั้งคู่มองหน้ากันเอง ลงมือในงานสำคัญแบบนี้จะไม่เป็นไรงั้นเหรอ แต่เมื่อเห็นว่าลู่เหยียนไม่ได้ห้าม

บอดี้การ์ดทั้งสองคนก็พุ่งเข้าใส่ลี่หวูเฉินทันที

“ หยุดเดี๋ยวนี้! ”

!!

ชายหนุ่มผมยาวตะโกนห้ามขึ้น ด้านข้างเขามีชายอีกคนที่กำลังจิบไวน์มองเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยท่าทางสนใจ

“ เกิดอะไรขึ้น…ทำไมกล้าก่อปัญหาที่นี่ ” ชายหนุ่มผมยาวพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา

ผู้คนที่อยู่รอบๆเมื่อเห็นชายหนุ่มทั้งสองคนที่มาใหม่ ก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปทันที ทุกคนหันไปพูดคุยกันด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น

“ นั่นมัน…หวังเจี้ยนเฟยใช่ไหม ส่วนคนที่จิบไวน์นั่นก็จ้าวหยุนปิง พวก 4 คุณชายแห่งปักกิ่งมาร่วมงานนี่ด้วยเหรอ ”

“ พวกเราต้องฉวยโอกาสนี้ไว้นะ…ถ้าสร้างสัมพันธ์กับพวกเขาได้ก็จะสบายไปสิบชาติ ”

“ ฉันได้ยินข่าวมาว่า…จ้าวฉงซานเตรียมวางตัวจ้าวหยุนปิงเป็นผู้สืบทอดตระกูลจ้าวแล้ว ”

ท่ามกลางเสียงพูดคุยกันของคนโดยรอบ พวกจ้าวเทียนได้หันมาสบตากัน ตอนนี้เป้าหมายของพวกเขาโผล่ออกมาแล้ว

“ คุณชายหวัง…พวกเขาลงมือกับผมก่อน ” ลู่ไป๋รีบพูดขึ้นด้วยท่าทีหวาดกลัว บุคคลตรงหน้าไม่ใช่คนที่ตระกูลเขาจะรับมือได้

“ พวกคุณเริ่มก่อนงั้นเหรอ ” หวังเจี้ยนเฟย หันมาถามพวกจ้าวเทียน

“ มันกล้าพูดจาดูหมิ่นเจ้านายฉัน…นี่เป็นแค่การสั่งสอนเท่านั้น ” ลี่หวูเฉินพูดขึ้นอย่างถือดี เขาแกล้งทำเป็นโกรธแล้วปลดปล่อยพลังระดับผู้เชี่ยวชาญออกมาเล็กน้อย

หวังเจี้ยนเฟยกับจ้าวหยุนปิงมีแววตาเปลี่ยนไปเมื่อเห็นพลังของลี่หวูเฉิน

พวกเขารู้มาว่าในเมืองเทียนจิน คนที่มีขอบเขตผู้เชี่ยวชาญนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นระดับหัวหน้าตระกูลหรือผู้อาวุโสระดับสูงซึ่งมีอายุมากแล้ว

แต่ดูผู้เชี่ยวชาญคนนี้เขามีอายุเพียง 30 กว่าปีเท่านั้นถือเป็นอัจฉริยะเลยทีเดียว คนที่เขาเรียกว่าเจ้านายก็คงไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน

หรือว่า…

พวกสำนักโบราณงั้นเหรอ…

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน