จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 547

ภายในโลกมิติมายา เทพธิดาซวนเฉวียนนั่งดีดพิณโบราณ อยู่ด้านหน้าผลึกคริสตัลเจ็ดสีหรือก็คือรูปลักษณ์ที่แท้จริงของลูกแก้วอุทัยหมื่นโลกา สมบัติระดับพระเจ้าขั้นสูงสุดซึ่งเป็นมรดกสืบทอดของจักรพรรดินีเทพปิงเยว่

ติง!ๆๆๆๆ

ทุกครั้งที่นิ้วอันเรียวงามของเทพธิดาซวนเฉวียนดีดไปที่สายพิณ ก็จะเกิดเป็นพายุสายฟ้า คลื่นหอกน้ำแข็ง และฝนเพลิงดาวตก ซัดกระหน่ำโจมตีเทพวายุซูซาโนะโอะอย่างต่อเนื่อง

นี่คือการหลอมรวมเคล็ดวิชามายาเข้ากับเสียงดนตรีสังหาร เปลี่ยนนามธรรมให้เป็นรูปธรรม ยิ่งเมื่อมันถูกใช้ในโลกแห่งนี้ ก็จะมีอานุภาพเพิ่มพูนกว่าเดิมหลายเท่า

เปรี้ยงๆๆ ตูม!ๆๆๆ

เทพซูซาโนะโอะเลือกโจมตีแทนการตั้งรับ ขณะที่พุ่งทะยานเข้าใส่ฝ่ายตรงข้าม ก็ฟาดฟันดาบคุซานางิออกไปด้วยความเร็วสูงหลายสิบครั้ง

จนกระทั่งพายุสายฟ้าแหลกสลาย คลื่นหอกน้ำแข็งแยกออกเป็นสองส่วน แม้แต่ฝนเพลิงดาวตกก็ยังระเบิดเป็นจุล

ถึงแม้อาวุธระดับพระเจ้าจะถูกผนึกพลังความสามารถเอาไว้ แต่ความแข็งแกร่งและความคมกล้ายังคงเป็นเช่นเดิม ย่อมสามารถทำลายภาพมายาเสียงสังหารได้อย่างง่ายดาย

บูมมมม! โฮก!

ดวงวิญญาณสิงสถิตอยู่ในดาบคุซานางิได้ระเบิดพลังแห่งความแค้นออกมา กลับคืนสู่ร่างพญาอสรพิษแปดเศียร ยามาตะ โนะ โอโรจิ อสูรร้ายยุคบรรพกาลที่ถูกสังหารโดยเทพซูซาโนะโอะ

“ เผามันซะ ”

ฮูมมมมมม!ๆๆๆๆๆๆๆ

หัวทั้งแปดของโอโรจิพ่นเปลวเพลิงสีเขียวออกมาพร้อมกัน ก่อนจะกลับเข้าไปสิงสถิตอยู่ในดาบตามเดิม

เปลวเพลิงทั้งแปดสายนี้มีอุณหภูมิสูงประมาณหนึ่งแสนองศา ทั้งยังแฝงไปด้วยพิษร้ายที่มีฤทธิ์กัดกร่อนรุนแรง สามารถหลอมละลายเหล็กกล้าได้ในพริบตา หากเทพธิดาซวนเสวียนโดนเข้าไปตรงๆ ต่อให้ไม่ตายก็บาดเจ็บสาหัสแน่นอน

ทันใดนั้น…

“… จงบิดเบือนมิติความเป็นจริง ”

แวบ!

ตำแหน่งของเทพซูซาโนะโอะ ได้สลับที่กับเทพธิดาซวนเฉวียนและผลึกคริสตัลเจ็ดสี ทำให้การโจมตีนี้ย้อนกลับคืนไปเล่นงานผู้ลงมือแทน

เปรี้ยง! ตูมมมมมม!!!!

มองเห็นคลื่นดาบขนาดยักษ์ระเบิดออกมาเป็นรูปกากบาท ฉีกกระชากเปลวเพลิงเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ก่อนที่ร่างของเทพซูซาโนะโอะจะพุ่งทะลวงเข้าโจมตีเทพธิดาซวนเฉวียนอีกครั้ง

“ ข้าอยากจะรู้นัก ว่าเจ้าจะถ่วงเวลาไปได้อีกซักเท่าไหร่กัน ”

ได้ยินแบบนั้น เทพธิดาซวนเฉวียนก็แค่นเสียงอย่างเย็นชา แต่ก็ไม่ได้ตอบอะไรออกไป เนื่องจากสิ่งที่ฝ่ายตรงข้ามพูดขึ้นเป็นความจริงทุกประการ

‘ ข้าใกล้จะถึงขีดจำกัดแล้ว… การควบคุมลูกแก้วอุทัยหมื่นโลกา พร้อมกับต่อสู้ไปด้วยทำให้ร่างจิตวิญญาณนี้รับภาระหนักเกินไป ’

ต้องเข้าใจก่อน ว่าเทพธิดาซวนเฉวียน คือดวงวิญญาณที่สถิตอยู่ในร่างลี่เหยาเหยา แม้เธอจะมีต้นกำเนิดพลังเป็นของตัวเอง แต่มันก็ด้อยกว่าผู้อื่นที่อยู่ในระดับเดียวกันมาก โดยเฉพาะเวลาที่เจ้าของร่างไม่ได้อยู่ใกล้ๆ

ทันใดนั้น…

ตูมมมม!

เงาร่างขนาดใหญ่ร่วงหล่นจากท้องฟ้า ลงมากระแทกพื้นอย่างรุนแรงจนโลหิตสาดกระเซ็น มันคือสัตว์อสูรจิ้งจอกเก้าหางในตำนาน ซึ่งขณะนี้เหลือเพียงสองหางเท่านั้น

‘ เพื่อช่วยชีวิตข้า ลี่เหยาเหยาถึงได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นนี้ ข้าจะสร้างความผิดหวังให้กับนางไม่ได้เป็นอันขาด ’

ซูต๋าจีตั้งปณิธานกับตนเอง อันที่จริงโดยธรรมชาติของเผ่าพันธุ์อสูรจิ้งจอก จะมีความเชี่ยวชาญในด้านมนต์เสน่ห์และภาพมายา โดยหากเจอคู่ต่อสู้ที่ทักษะเหล่านี้ใช้ไม่ได้ผลก็จะเลือกหลบหนีทันที นี่จึงเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง

แต่ทว่า ในสถานการณ์ปัจจุบัน ซูต๋าจีไม่มีหนทางให้ถอยอีกต่อไปแล้ว ถ้าปล่อยให้ศัตรูเป็นฝ่ายชนะสงคราม ไม่เพียงแค่ตัวนางที่ต้องตาย แม้แต่สหายปีศาจร่วมเผ่าพันธุ์ที่หลบซ่อนตัวอยู่ ก็คงถูกพวกเทพสวรรค์กวาดล้างไม่มีเหลือแน่นอน

ดังนั้น ทางเลือกเดียวของซูต๋าจีจึงเหลือแค่สู้ถ่วงเวลาต่อไปเรื่อยๆ อย่างน้อยก็จนกว่าสหายคนอื่นจะสังหารศัตรูได้สำเร็จแล้วกลับมาช่วยนาง

“ พี่ต๋าจีอย่าฝืนตัวเองเกินไป คุณไปช่วยคนอื่นๆเถอะ ส่วนเทพฮอรัสฉันจะรับมือเอง ” ลี่เหยาเหยาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง เธอดูออกว่าหากปล่อยให้อีกฝ่ายไปสู้ในสภาพนี้จะเป็นการเอาชีวิตไปทิ้งเสียเปล่าๆ

“ นี่เจ้า รู้ตัวมั้ยว่าพูดอะไรออกมา คิดจะต่อสู้กับราชันเทพโอดินกับเทพฮอรัสพร้อมกันงั้นรึ มันเป็นไม่ได้หรอก ” ซูต๋าจี่รีบพูดทักท้วงขึ้นเสียงดัง

ถึงแม้ว่าจะหายไปฝึกฝนแบบลับๆเป็นเวลาสองเดือน ลี่เหยาเหยาแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมนับสิบเท่า แต่อีกฝ่ายเป็นถึงระดับผู้ยิ่งใหญ่แห่งแดนสวรรค์

ต่อให้เป็นร่างอวตารก็เหนือกว่าเหล่าเซียนบนโลกมากนัก ไม่ใช่ตัวตนที่พวกนางจะรับมือเพียงลำพังได้ ซึ่งเรื่องนี้หกชีวิตที่สูญเสียไปของนางก็คือข้อพิสูจน์

“ หืม... ฮอรัส เจ้าได้ยินเหมือนข้าหรือไม่ สตรีนางนี้คิดจะรับมือพวกเราพร้อมกันเพียงลำพัง ” ราชันเทพโอดินเดินเหยียบอากาศ มาปรากฏกายตรงหน้าพวกลี่เหยาเหยาด้วยร้อยยิ้มเย็นชา

“ เหอะ! ก็แค่มนุษย์ที่โชคดีได้หลอมรวมโลหิตสัตว์เทวะบรรพกาลเท่านั้น ช่างพูดจาโอหังเสียจริง ” เทพฮอรัสพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงดูถูก พร้อมกับกระพือปีกลงมายืนอยู่ด้านข้างเทพโอดิน

“ ห้ามสังหาร ข้าต้องการได้ตัวนางแบบมีชีวิต เพราะบางทีโลหิตของนางอาจจะมีประโยชน์ในการปรุงโอสถของข้า ” ราชันเทพโอดินพูดขึ้นเบาๆ แววตาของเขาเต็มไปด้วยความโลภเมื่อสังเกตเห็นว่าบาดแผลที่กลางหลังของลี่เหยาเหยา ได้สมานตัวเกือบจะหายดีแล้ว

แม้จะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายได้รับสายโลหิตของสัตว์เทวะบรรพกาลตนใด แต่มันจะต้องมีการฟื้นฟูที่ทรงพลังมากอย่างแน่นอน

ในเวลาเดียวกัน

ผลึกน้ำแข็งรูปทรงแปดเหลี่ยม ที่อยู่ภายในพื้นที่จิตวิญญาณของลี่เหยาเหยา ก็ปรากฏรอยแตกร้าวทีละน้อย พร้อมกับเริ่มมีจิตสังหารอันดุดัน และกลิ่นอายเย็นยะเยือกแพร่กระจายออกมา

และที่สำคัญที่สุด ตรงใจกลางของผนึกน้ำแข็งก้อนนั้น ถึงกับมีเงาร่างที่เปล่งประกายระยิบระยับเหมือนแสงดาว ของวิหคแปดปีกตัวหนึ่งหลับใหลอยู่อีกด้วย…

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน