จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 585

เสี้ยววินาที ที่ภาพลวงตาสะพานหินโบราณถูกทำลายโดยจ้าวเทียน ห้วงเวลาก็เหมือนจะหยุดนิ่งลงครู่หนึ่ง

ไม่ว่าจะเป็นกองทัพวัลคีรีบนโลกมนุษย์ หรือเหล่ามหาอำนาจในสนามรบเทพมารบรรพกาล ทุกสายตาล้วนจับจ้องไปที่รังไหมสีทองด้วยความกระหาย เกิดความโลภในสิ่งที่ไม่ได้เป็นของตน

นี่คือ พลังงานฟ้าดินบริสุทธิ์จำนวนมหาศาล ซึ่งสามารถเปลี่ยนให้ดาวเคราะห์ล้าหลังดวงหนึ่ง กลายเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งผู้ฝึกตนได้สบาย จึงไม่แปลกที่จะดึงดูดความสนใจของผู้คนจำนวนมาก ไม่เว้นแม้แต่ขุมกำลังชั้นสูงสุดบนแดนสวรรค์

บูมม!

จักรพรรดินีปิงเย่ รีบทำลายรอยแยกมิติที่สนามรบทิ้งทันที เพื่อป้องกันไม่ให้เหล่าผู้ยิ่งใหญ่ แอบส่งเจตจำนงไปสอดแนมสถานการณ์บนโลกมนุษย์อีกต่อไป

“ ผู้ใดกล้าคิดร้ายกับศิษย์ข้า จงระวังศีรษะบนบ่าเอาไว้ให้ดี หึๆ ”

เสียงเย็นชาของจักรพรรดินีหลินซินเยว่ดังก้องไปทั่วจักรวาล ทำให้พวกที่กำลังถูกความโลภเข้าครอบงำพากันได้สติขึ้นมาในพริบตา

ขนาดตัวตนระดับมหาเทพอวี่หวงผู้ยิ่งใหญ่ ยังถูกนางกดดันจนไร้หนทางตอบโต้ แล้วพวกเขาจะไปเหลืออะไร

ขณะเดียวกันบนโลกมนุษย์ ตอนนี้ทั้งกองทัพวัลคีรีและกองทัพแอสการ์ดเดี้ยน ได้ระเบิดความบ้าคลั่งเหนือขีดจำกัดออกมาเรียบร้อย

ขอเพียงพวกเขาบุกเข้าไปทำลายรังไหมสีทองได้ นอกจากจะได้สังหารจ้าวเทียนเพื่อแก้แค้นให้ราชันเทพโอดินแล้ว ยังจะได้รับพลังฟ้าดินมหาศาลมาครอบครองอีกด้วย ทำเรื่องที่ต้องตัดขั้นพลังตนเองกลายเป็นเรื่องเล็กน้อยไปเลย

โดยเฉพาะมหาเทวีเฟรย่า ที่ได้ตัดสินใจก่อกบฏต่ออาณาจักรเทวะตำนาน ตราบใดที่นางแย่งชิงขุมพลังตรงหน้ามาได้ ก็จะได้รับความชอบธรรมในการขึ้นครองบังลังก์ทันที

“ ไสหัวไปซะ ”

บูมมมม!

มหาเทวีเฟรย่าเผาผลาญแก่นชีวิตระเบิดพลังทั้งหมด ควบม้าเพกาซัสบุกทะลวงฝ่ากองทัพหุ่นเชิดไปข้างหน้าด้วยความเร็วดุจสายฟ้า

ด้วยอานุภาพแห่งแก่นแท้เวลาระดับสูง นางจึงสามารถควงหอกกุงนีร์สะบัดฟาดฟันหลายหมื่นครั้งในพริบตาเดียว ซัดลี่เหยาเหยากับกงเสี่ยวเหมยที่ตามพัวพันอยู่กระเด็นออกไปทันที

“ องครักษ์วัลคีรี ตามข้าไปสังหารจ้าวเทียน ส่วนกองกำลังที่เหลือให้ตั้งค่ายกลหอกสยบฟ้าดินต้านทานศัตรูทั้งหมดเอาไว้ ” มหาเทวีเฟรย่าร้องตะโกนเสียงดัง

ทำให้รูปขบวนรบของกองทัพวัลคีรีเปลี่ยนไปทันที มันทั้งดุดันและเหี้ยมโหดกว่าเดิมเป็นอันมาก ราวกับต้องการตกตายไปพร้อมกับศัตรูเลยทีเดียว

ทันใดนั้น

ฟุ่บ!ๆๆๆ

เงาร่างของครึ่งอสูรสาวสี่คน ได้พุ่งทะยานออกมาจากเงาเพื่อลอบจู่โจมสังหารมหาเทวีเฟรย่า พวกเธอได้ระเบิดควันพิษร้ายสีเขียวบดบังสายตาศัตรู พร้อมทั้งแทงมีดใส่ศีรษะฝ่ายตรงข้ามอย่างแม่นยำ

“ ไร้สาระ ครึ่งอสูรชั้นต่ำอย่างพวกเจ้ากล้ามาโจมตีข้างั้นรึ ” มหาเทวีเฟรย่าพูดขึ้นด้วยสีหน้าดูถูก เพียงแค่ขยับหอกซ้ายขวาเบาๆโดยไม่ต้องมอง ก็ป้องกันการโจมตีทั้งหมดไว้ได้ทันที

“ ไม่นะ รีบถอยไปเร็ว ” โม่ซินหนานที่หลบซ่อนตัวอยู่ไม่ไกล รีบพุ่งเข้าไปช่วยเหลือเหล่าลูกศิษย์สาวทันที

เปรี้ยง!ๆๆๆ

แต่น่าเสียดายที่มันกลับสายเกินไป เพราะกว่าที่เธอจะไปถึงลูกศิษย์ทั้งสี่คนก็ระเบิดกลายหมอกเลือดไปเรียบร้อยแล้ว

แม้แต่ตัวเธอเองก็ยังเกือบเอาชีวิตไปทิ้งซะด้วยซ้ำ ถ้าไม่ได้ลี่เหยาเหยากับกงเสี่ยวเหมยเข้ามาขัดขวางเสียก่อน

“ พวกเจ้านี่มันน่ารำคาญจริงๆ ” มหาเทวีเฟรย่าพูดขึ้นอย่างหงุดหงิด นางตัดสินใจปลดขีดจำกัดอาวุธเทพเจ้าทันที เพราะไม่ต้องการเสียเวลากับพวกลี่เหยาเหยาอีกต่อไป

“ กุงนีร์ จงบิดเบือนกาลเวลา! ”

สนามพลังสีทอง ได้เข้าปกคลุมพวกลี่เหยาเหยาและครึ่งอสูรสาวที่เหลือสิบเจ็ดคน รวมไปถึงกองทัพหุ่นเชิดทั้งหมดเอาไว้ สร้างอาณาเขตที่กาลเวลาไหลช้าลงหนึ่งพันเท่า เพื่อป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายติดตามมาก่อกวน

“ นี่เป็นความผิดของฉันเอง ขอโทษนะทุกคน ” กงเสี่ยวเหมยพูดออกมาเบาๆ ถ้าเธอไม่ตัดสินใจโดยพละการนำกองทัพหุ่นเชิดออกมาสู้ พวกลี่เหยาเหยาก็ไม่ต้องเอาชีวิตเข้ามาเสี่ยงเพื่อช่วยเหลือตัวเอง

แต่ทว่า

“ เอ่อ นี่หนูมาทันใช่ไหม ”

วูป!

สาวน้อยหลินซิงเสวียนเดินอุ้มตุ๊กตาหมีสีน้ำตาลผูกโบว์ ออกมาจากรอยแยกมิติโดยมีท่านตาของจ้าวเทียนติดตามมาด้วย

หลังจากบรรลุขอบเขตเซียนนภา หลินซิงเสวียนกับตุ๊กตาหมีก็ถูกผนึกเอาไว้ในดักแด้สีทองมาโดยตลอด เลยไม่ค่อยเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนัก

“ ถึงแม้ข้าจะไม่รู้ ว่าเจ้าเปิดช่องว่างมิติภายใต้เขตแดนวรีชนได้อย่างไร แต่จงหลีกทางไปซะหากยังไม่อยากตาย ” มหาเทวีเฟรย่าพูดเตือนอีกฝ่าย นางสัมผัสได้ว่าเด็กสาวลึกลับตรงหน้าไม่ใช่คนธรรมดา จึงเลือกที่จะลองเจรจาดูก่อน

ทางหลินซิงเสวียนที่ได้ยินแบบนั้น กลับไม่ได้สนใจคำขู่ของอีกฝ่ายแม้แต่น้อย สายตาเธอกวาดมองไปยังบาดแผลของพวกลี่เหยาเหยา และซากศพมากมายที่กองพะเนินอยู่บนพื้น ก่อนจะถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“ ทั้งหมดนี่ เป็นฝีมือของพวกคุณเหรอ ”

“ ใช่ หากเจ้าไม่อยากมีชะตากรรมแบบพวกมัน ก็จงไสหัวไปซะ ” หนึ่งในองค์รักษ์วัลคีรีพูดแทรกขึ้นด้วยความหงุดหงิด

ชัยชนะอยู่ตรงหน้าแท้ๆ นางไม่เข้าใจว่ามหาเทวีเฟรย่าจะมามัวเสียเวลาพูดคุยกับเด็กสาวคนนี้ทำไม แค่สังหารทิ้งให้สิ้นเรื่องสิ้นราวก็จบเรื่องแล้ว

“ งั้นก็หมายความว่า พวกคุณเป็นพวกคนเลวสินะ ” หลินซิงเสวียนพูดกับตัวเองเบาๆ ทั้งเส้นผมและดวงตาของเธอ เริ่มเปล่งประกายสีม่วงระยิบระยับ

“ บัดซบ มัวพูดพิรี้พิไรน่ารำคาญอยู่ได้ ถ้าไม่ติดที่นายหญิงไม่อยากสังหารเจ้า ข้าคงใช้หอกแทงทะลุศีรษะเจ้ากับไอตุ๊กตาโง่ๆนั่นไปเจ็ดแปดรูแล้ว ”

เมื่อคำพูดประโยคนี้ดังขึ้น บรรยากาศก็เปลี่ยนเป็นหนักอึ้งโดยไม่ทราบสาเหตุ ท่านตาของจ้าวเทียนรีบพุ่งทะยานหนีไปทันที แม้แต่ห้าผู้อาวุโสเจ้าสำนักและเฉินจิ้งเองก็พยายามถอยห่างออกไปเช่นกัน

บางสิ่งที่น่าสะพรึงกลัว กำลังจะตื่นขึ้นจากการหลับใหลแล้ว…

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน