“ฝีมือของอีกฝ่ายเป็นมืออาชีพมาก เบาะแสนี้เกรงว่าตรวจสอบได้ยากในเวลาอันสั้น” บนรถ หลิงห้าวเอ่ยเสียงต่ำ
“จะไปหาคุณหนูฉินอีกครั้งไหมครับ?” ลู่เยว่พยักหน้าเบา ๆ “ดูว่าเธอจะสามารถให้เบาะแสอะไรได้สักนิดไหม?”
“อืม!” หลิงห้าวหายใจเข้าออกลึก ๆ แล้วพยักหน้าตอบ
บรื้น!
ลู่เยว่ล้วงโทรศัพท์ออกมาส่งข้อความออกไปหนึ่งข้อความให้คนสืบหาตำแหน่งของฉินหยู่ซิน จากนั้นก็เหยียบคันเร่งลงไป
ครึ่งชั่วโมงต่อมา ลู่เยว่ก็ขับรถเข้าไปในเขตล้าสมัยแห่งหนึ่ง
หลังจากที่เลาะเลี้ยวไปมาก็จอดลงตรงหน้าอาคารเก่า ๆ หลังหนึ่ง
“คุณหนูฉินกับน้องสาวของเธอ รวมถึงพ่อแม่ของเธออาศัยอยู่ที่ชั้นหนึ่งครับ!” ลู่เยว่มองไปยังหลิงห้าวที่อยู่เบาะข้างคนขับแล้วเอ่ยขึ้น
ฟู่!
หลิงห้าวถอนหายใจเสียงขุ่นทีหนึ่ง
ทอดสายตามองไปยังห้องในตึกสูงที่อยู่ใกล้ ๆ บนใบหน้าปรากฏความละอายใจ “เป็นฉันเองที่ลากครอบครัวของเธอมาลำบาก!”
หลังจากพูดจบแล้วเขาก็ผลักประตูลงจากรถไป!
“พ่อคะ หนูขอร้องล่ะ พ่อช่วยหนูไปขอร้องคุณปู่หน่อยเถอะ ขอให้ท่านส่งคนไปตามหาหรุ่ยหรุ่ย...”
ทั้งสองคนเพิ่งจะเดินเข้าไปในตัวอาคารก็ได้ยินเสียงสะอึกสะอื้นของฉินหยู่ซิน
“เห้อ... ไม่ใช่ว่าฉันไม่ช่วยแก เมื่อวานแกก็เห็นแล้วนี่ว่าคนของตระกูลฉินไม่ให้พวกเราเข้าประตูคฤหาสน์ด้วยซ้ำ ฉันไม่ได้เห็นแม้แต่หน้าปู่ของแก...”
ฉินหงหยวน พ่อของฉินหยู่ซินตอบพลางอุทานออกมาอย่างเศร้าสลด “ฉันโทรหาเขา เขาก็ไม่รับสาย แกจะให้ฉันช่วยแกยังไง...”
“พ่อโทรหาอารองสิ ให้เขาช่วยพูดกับคุณปู่ เมื่อก่อนพ่อช่วยเหลือเขามากมายขนาดนั้น เขาจะต้องสำนึกบุญคุณแน่” เสียงของ
ฉินหยู่ซินดังขึ้นอีกครั้ง
“ฉันโทรไปแล้ว พอเขาเห็นเบอร์ฉันก็ตัดสายไปเลย...” ฉินหงหยวนถอนหายใจอีกครั้ง
“พวก... พวกเรากลับไปหาเขาที่ตงโจวกัน เขาจะต้องอยู่ที่บริษัทแน่...” ฉินหยู่ซินไม่ยอม เธอพูดต่อไป
“ฉินหยู่ซิน เธอจะตั้งสติได้เมื่อไหร่!?”
ตอนนี้ เสียงตะโกนของผู้หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งก็ดังขึ้นมา ก็คือเสิ่นชิวหนานแม่ของฉินหยู่ซิน
“ตระกูลฉินไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับพวกเราแล้ว พวกเขาไม่มีทางมาสนความเป็นความตายของพวกเราอีก แกเข้าใจไหม!?”
“ทุกอย่างของตอนนี้ล้วนแต่เป็นสิ่งที่แกสร้างขึ้น แกโทษใครไม่ได้ ชีวิตของแกถูกตัวแกเองทำลายไปหมดแล้ว!”
“ตอนแรกให้แกเอาเด็กไม่มีพ่อนั่งออก จะเป็นจะตายแกก็ไม่ยอม ยังหนีออกจากบ้านไปคลอดมันออกมาอีก!”
“ตอนนี้แกรู้หรือยังว่าทุกอย่างขึ้นอยู่กับที่ตัวเราตัดสินใจคืออะไร?”
“ถ้าหากไม่มีเจ้าเด็กไม่มีพ่อนั่น พวกเราก็ไม่มีทางเร่ร่อนมาอยู่ที่หยุนเฉิงหรอก แกก็จะได้กลายเป็นลูกสะใภ้ของตระกูลเถาไปตั้งนานแล้ว!”
“แม่! หนูจะพูดอีกครั้ง หรุ่ยหรุ่ยไม่ใช่ลูกไม่มีพ่อ เธอมีพ่อ!” ฉินหยู่ซินตอบเสียงดัง “หนูหวังว่าจะไม่ได้ยินแม่พูดคำนี้อีกนะคะ!”
“เฮอะ!” แกตะคอกฉันจะไปมีประโยชน์อะไร!” เสิ่นชิวหนานเอ่ยเสียงสูงอีกครั้ง
“มันมีพ่อ? แล้วพ่อของมันไปไหนซะล่ะ?”
“ตั้งหลายปีแล้ว เขาเคยมาหาแกกับลูกสักครั้งไหม? เขาเคยโทรหาแกสักครั้งไหม? เขาเคยส่งเงินมาให้แกสักแดงไหม?”
“ไม่เคยเลยสินะ?”
“แม่ แม่พูดให้น้อยลงหน่อยเถอะ พี่ก็เศร้ามาอยู่แล้วนะ!” เสียงของผู้หญิงอายุน้อยคนหนึ่งดังขึ้นมา เป็นฉินหยู่เฟย น้องสาวของฉินหยู่ซิน
“ทำไมฉันต้องพูดน้อย ๆ ด้วย!” เสิ่นชิวหนานตอบ “ฉันพูดผิดเหรอ? มีคำไหนบ้างที่ฉันพูดแล้วไม่เป็นความจริง!?”
“ขอแค่ผู้ชายคนนั้นมีความรับผิดชอบสักหน่อยก็คงไม่หายไปไม่ส่งข่าวมาห้าปีแบบนี้!”
“แม่แค่ผู้หญิงที่ไม่มีสมองอย่างพี่สาวของแกเท่านั้นแหละ ที่จะห้าวหาญคลอดลูกสาวคนหนึ่งให้เขาได้!”
ฟังมาถึงตรงนี้แล้วร่างกายของหลิงห้าวที่อยู่ที่ทางเดินก็สั่นสะท้านเบา ๆ ดวงตาทั้งคู่แดงก่ำ
เขาล้มเหลวทั้งการเป็นสามีและการเป็นพ่อคนจริง ๆ!
เขาติดค้างฉินหยู่ซินกับหรุ่ยหรุ่ยสองแม่ลูกไว้มากเกินไปจริง ๆ!
ฟู่!
หลังจากถอนหายใจเสียงขุ่นอีกครั้ง เขาก็ก้าวเท้าเดินเข้าไป
มาถึงประตูบ้านสกุลฉิน เห็นว่าประตูไม้ด้านในไม่ได้ปิด เพียงแค่ลากประตูเหล็กเอาไว้
“แม่ ทำอะไรเนี่ย!?” ในเวลาเดียวกันนี้เอง สองพี่น้องฉินหยู่ซินก็ดึงตัวเสิ่นชิวหนานเอาไว้ทั้งสองข้างซ้ายขวา
“พวกแกปล่อยฉันนะ มันทำให้พวกเราลำบากขนาดนี้ ฉันจะฆ่ามัน...”
เสิ่นชิวหนานพูดมาถึงตอนสุดท้ายแล้วก็ทรุดตัวลงไปนั่งตะโกนร้องไห้ออกมา
“คุณอาครับ คุณน้า ผมขอโทษครับ!” หลิงห้าวโค้งให้ทั้งสองคนต่ำ ๆ
“เชื่อผมนะครับว่านับตั้งแต่วันนี้ไปผมจะชดเชยสิ่งที่พวกคุณสูญเสียไปให้พวกคุณเป็นพันเป็นหมื่นเท่า!”
“ฉันว่าคุณอย่ามาสร้างปัญหาที่นี่จะดีกว่า คุณรีบกลับไปเถอะ!” ฉินหยู่เฟยกวาดตามองเขาอย่างหมดคำจะพูด
จะโม้ก็ไม่ดูสถานที่เลย ชดเชยเป็นพันเป็นหมื่นเท่า นึกว่าถ่ายหนังอยู่หรือไง!
และก็ไม่รู้ว่าพี่สาวของตัวเองไปถูกใจเขาตรงไหน นอกจากรูปร่างหน้าตาแล้วก็ไม่เห็นว่าจะมีข้อดีตรงไหนเลย!
“หยู่ซิน ผมมาหาคุณเพราะอยากจะรู้ว่าสองวันมานี้ได้เกิดเรื่องผิดปกติอะไรกับหรุ่ยหรุ่ยบ้างไหม?” จากนั้นหลิงห้าวก็มองไปยังฉินหยู่ซิน
“เชื่อผมนะ ขอแค่รู้ว่าใครเป็นคนจับตัวหรุ่ยหรุ่ยไป ผมจะต้องช่วยชีวิตหรุ่ยหรุ่ยกลับมาได้แน่!”
“สองวันมานี้ทุกอย่างเป็นปกติมาก ไม่มีเรื่องผิดปกติอะไรทั้งนั้น!” ฉินหยู่ซินสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ หนึ่งเฮือกสงบสติอารมณ์ของตัวเอง
สำหรับเธอนั้นได้มาถึงสภาพที่จนมุมแล้ว ตอนนี้นอกเสียจากมุ่งหวังไปที่หลิงห้าวแล้ว เธอก็ไม่มีทางเลือกอื่นอีก!
ส่วนเรื่องของตนกับหลิงห้าว นั่นเป็นเรื่องอีกเรื่องหนึ่ง ทุกอย่างรอให้ช่วยขีวิตหรุ่ยหรุ่ยกลับมาได้ก่อนแล้วค่อยว่ากัน!
“ถ้าอย่างนั้นช่วงนี้มีเหตุการณ์ที่มีคนแปลกหน้ามาตามหรือมาชวยคุยกับพวกคุณบ้างไหม?”
หลิงห้าวเห็นว่าฉินหยู่ซินสนใจเขาแล้วก็รีบเอ่ยถาม
“ไม่มีเหมือนกัน!” ฉินหยู่ซินส่ายหน้าต่อ
“ถ้าอย่างนั้น...” หลิงห้าวเอ่ยปากอีกครั้ง
ตึง ๆ ๆ!
ใตอนนี้เอง เสียฝีเท้าที่ยุ่งเหยิงไม่เป็นระเบียบก็ดังขึ้นอย่างฉับพลัน
ไม่นานก็เห็นลูกเศรษฐีจอมเจ้าชู้เดินหน้าบวมปูดเข้ามา ที่แขนยังพันผ้าพันแผลเอาไว้ด้วย
ด้านหลังของเขามีคนชุดดำถือมีดสิบกว่าคนตามมา ทางเดินที่เดิมทีก็แคบขนัดอยู่แล้วก็เบียดเสียดกันแน่นในทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติสิงห์ร้ายดินแดนมืด
ไม่ลงตอนต่อไปแล้วหรอค่ะ...
รอๆๆๆ...