ชายาบุปผาซ่อนพิษ นิยาย บท 145

เฟิงฉิ้นหว่านมองเห็นฟู่ลั่วเฉินตะลึงอยู่เล็กน้อย อดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากพูดด้วยน้ำเสียงเบาอีกครั้ง: “ท่านชาย?”

“อืม” ฟู่ลั่วเฉินได้สติกลับคืนมาทันทีทันใด นำความรู้สึกนึกคิดที่พุ่งขึ้นมาภายในใจอย่างกะทันหันกดลงไป “เหตุใดวันนี้จึงมาแต่เช้าเช่นนี้?”

รอยยิ้มภายในดวงตาของเฟิงฉิ้นหว่านสลายหายไปในชั่วพริบตา แล้วแทนที่ด้วยความเป็นกังวลกลุ่มหนึ่ง: “เมื่อวานนี้เมื่อทราบว่าท่านชายได้รับบาดเจ็บ แต่ทว่าไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามท่านชายก็ไม่ยอมให้ข้าตรวจดูบาดแผล ด้วยเหตุนี้ภายในใจจึงเป็นกังวล ฉะนั้นจึงอยากจะมาดูแต่เช้าเสียหน่อย”

การเอาใจเจ้านายของตนเองที่ละเอียดรอบคอบและพิถีพิถันเช่นนี้ นี่ก็นับว่ามีนางเพียงคนเดียวเท่านั้น

สีหน้าของฟู่ลั่วเฉินนุ่มนวลมากขึ้น: “นำขนมมาด้วย?”

“เจ้าค่ะ ท่านชายอยากจะลองชิมดูหรือไม่?”

“อืม”

เพื่อทำขนมให้ฟู่ลั่วเฉิน เฟิงฉิ้นหว่านยุ่งอยู่ในห้องครัวอยู่นานสองนาน เสิ่นเยว่ยังคิดว่านางชอบทำอาหาร ดีใจมากเป็นพิเศษจนให้คนจัดเตรียมแม่พิมพ์สำหรับทำขนมเอาไว้ไม่น้อย

เฟิงฉิ้นหว่านเพื่อไม่ให้ท่านแม่ของตนเองต้องเสียแรงเปล่า ด้วยเหตุนี้ขนมนี้จึงทำมาไม่น้อยเลยทีเดียว

เมื่อฟู่ลั่วเฉินเห็นขนมที่ยกออกมาวาง อดไม่ได้ที่จะทำหน้าตกตะลึง

ด้านในจานเล็กราวกับหยกมีเค้กน้ำตาลรูปทรงกระต่ายสองสามก้อนวางอยู่ เค้กน้ำตาลทรายขาวนั้นทำออกมาแบบนุ่มๆเหนียวๆ ตอนที่ถูกยกขึ้นมายังมีความสั่นไปมาเล็กน้อย อ้วนๆกลมๆมีชีวิตชีวา

ฟู่ลั่วเฉินรู้สึกเพียงว่าภายในใจเหมือนกับถูกสะกิดเบาๆด้วยขนนก รอยยิ้มที่มุมริมฝีปากอดไม่ได้ที่จะลุ่มลึกมากขึ้นไปอีก: ช่างเป็นแม่นางน้อยดั่งที่คิดเอาไว้จริงๆ แม้ว่ากลอุบายในวันปกติจะเลิศเลออีกสักเท่าไหร่ ภายในใจยังคงบริสุทธิ์และอบอุ่นอ่อนโยน

“ท่านชายชอบหรือไม่?”

“พอได้”

ฟู่ลั่วเฉินพลางพูด พลางหยิบเค้กน้ำตาลกระต่ายก้อนหนึ่งใส่เข้าไปในปาก กัดหัวกระต่ายไปมากกว่าครึ่งในคำเดียว

หวานมาก......

หยุนซวนที่กำลังมองดูอยู่ด้านข้าง แอบเรียบเรียงโครงเรื่องอยู่ภายในใจเงียบๆ: สองวันมานี้มีเนื้อหาที่จะเขียนจดหมายรายงานแก่ท่านอ๋องแล้ว!

แม่นางเฟิงหัวไวมือคล่องส่งขนมเค้กมาให้ ท่านชายใหญ่กินด้วยความสุขใบหน้าเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม!

สมบูรณ์แบบ!

เฟิงฉิ้นหว่านมองดูฟู่ลั่วเฉินกินขนมเค้กไปมากเกินกว่าครึ่งด้วยความตกตะลึงเล็กน้อย แอบจดไว้ภายในใจเงียบๆแล้วว่าเขาโปรดปรานการกินของหวาน หลังจากนี้ไปเวลาที่จะประจบเอาใจอีกก็มีเป้าหมายในการดำเนินการแล้ว

เมื่อขนมเค้กถูกยกออกไปแล้ว ฟู่ลั่วเฉินก็ค่อยๆจิบชาทีละคำๆ

เฟิงฉิ้นหว่านเริ่มเอ่ยปากกล่าว: “ท่านชาย เมื่อคืนวานนี้ที่ท่านเตือนสติข้าทราบแล้ว ในตอนนี้ท่านชายมีเป้าหมายอะไรหรือไม่ ข้ารู้อยู่แก่ใจแล้ว ว่าต่อจากนี้ไปเวลาจะทำอะไรก็ต้องมีขอบเขตที่เหมาะสม”

ฟู่ลั่วเฉินวางถ้วยชาลง: “เมื่อคืนข้าเตือนสติอะไรเจ้า?”

“เมื่อวานนี้ท่านชายมิได้บอกว่าองค์ชายสามมีเจตนาจะนำโทษฐานที่ลอบสังหารท่านผลักไปให้ตระกูลหยุนหรอกหรือ? เช่นนั้นมิใช่ว่าบอกว่าความสัมพันธ์ของตระกูลหยุนกับองค์ชายสามไม่ได้สนิทสนมกลมเกลียวกัน?”

ดวงตาของฟู่ลั่วเฉินเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมขึ้น: “นี่คือที่ข้าเตือนสติเจ้าเมื่อวานนี้หรือ?”

“ท่านชายตั้งใจมาหาข้าโดยเฉพาะ หรือว่าที่อยากจะบอกไม่ใช่เรื่องนี้?”

ฟู่ลั่วเฉินแอบสูดลมหายใจเข้าเงียบๆ: “ข้าคิดว่ามีอีกหลายสิ่งหลายอย่าง ที่เจ้าควรต้องเรียนรู้ตั้งแต่ต้นจนจบ!”

“เจ้าค่ะ องค์ชายแล้วอย่างไร องค์ชายกระทำความผิดก็ต้องมีความผิดเช่นเดียวกันกับอาณาประชาราษฎร์มิใช่หรือ? ท่านชายนี่เป็นการส่งเสริมความเป็นธรรม ในฐานะที่เป็นลูกน้อง สามารถที่จะมีส่วนร่วมในการปฏิบัติการของท่านชาย ช่างรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งจริงๆ” ดวงตาของเฟิงฉิ้นหว่านเผยให้เห็นความซื่อสัตย์อย่างชัดเจน

ดวงตาของฟู่ลั่วเฉินเคร่งขรึมมากขึ้น: “เจ้า……ช่างเถอะ”

ภายในปากของแม่นางน้อยผู้นี้ ถามอะไรก็คงไม่ได้ฟังความจริง

“ข้าตั้งใจว่าจะปราบปรามควบคุมตระกูลหยุน แต่ทว่าคิดอยากจะกำจัดให้สิ้นซาก ยังต้องการโอกาส นายท่านตระกูลหยุนเข้าใจถึงสถานการณ์ที่ไม่ดีของตนเอง อีกทั้งยังได้รับการเตือนจากองค์ชายรองอย่างลับๆ ทุกการเคลื่อนไหวล้วนต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ การค้าขายของภายในวงศ์ตระกูลจะต้องถูกต้องตรงไปตรงมา ลูกหลานมีความผิดก็ต้องถูกลงโทษ ทำให้คนตามหาความผิดพลาดได้ยาก”

เฟิงฉิ้นหว่านพยักหน้า ความคิดหนักแน่นมากขึ้นเล็กน้อย: “ถ้าหากว่าหาความผิดพลาดไม่พบ ถ้าเช่นนั้นก็ทำได้เพียงแค่บีบบังคับให้เขากระทำความผิด ในตอนนี้หยุนเลี่ยวเข้าคุก บางทีก็อาจจะเป็นโอกาสที่ดีมากโอกาสหนึ่ง”

“สายตาของตระกูลหยุนก็จะต้องจับจ้องมาที่ตัวเจ้าอย่างแน่นอน คิดอยากจะทำอะไร ให้เหว้ยหลันมาแจ้งให้ทราบก่อนล่วงหน้า ข้าก็จะให้ความร่วมมือกับเจ้าเป็นอย่างดี ใต้เท้าจ้าวทางนั้นข้าก็จะกำชับเอาไว้เสียหน่อย ให้เขาพยายามอำนวยความสะดวกให้แก่เจ้าสักเล็กน้อย”

“ขอบคุณท่านชาย” เฟิงฉิ้นหว่านสีหน้ายิ้มแย้มเบิกบาน

“เอาละ ตอนนี้ต้องเริ่มสั่งสอนวิชาความรู้ให้เจ้าแล้ว ลองเขียนหนังสือดูสักสองสามตัวให้ข้าดู?”

หยุนซวนสั่งให้คนนำพู่กันหมึกกระดาษแท่นฝนหมึกส่งมาให้อย่างรู้ทัน หลังจากนั้นก็พาคนออกไปไกลๆ

เฟิงฉิ้นหว่านคิดแล้วคิดอีก ยกพู่กันขึ้นมาแล้วเขียนลงไปในกระดาษว่า: กำจัดสิ่งชั่วร้ายอย่างโหดเหี้ยม ต้อนรับความเจริญรุ่งเรืองอย่างอำมหิต

นั่นคือตัวหนังสือฟู่ที่ฟู่ลั่วเฉินเขียนให้นางก่อนหน้านี้

หลังจากเฟิงฉิ้นหว่านเขียนเสร็จ ก็พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ หลังจากนั้นก็หิ้วตัวหนังสือขนาดใหญ่แผ่นนั้นขึ้น เงยหน้ามองไปยังฟู่ลั่วเฉิน ในดวงตาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม: “ท่านชาย เป็นอย่างไร?”

สันกรามของฟู่ลั่วเฉินขยับเล็กน้อย ดวงตาเย็นยะเยือกกวาดมองเฟิงฉิ้นหว่านตั้งแต่หัวจรดปลายเท้ารอบหนึ่ง: ช่างเป็นแม่นางน้อยที่ผูกพยาบาทเสียจริง!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาบุปผาซ่อนพิษ