จ้าวยี่เอ่ยปากพูดว่าเทียนนั้นเป็นหยุนฮั่นโยนประโยคนี้ ทันใดนั้นทำให้หยุนฉิวและหยุนฮั่นตกตะลึงหยุดนิ่งอย่างหนัก
“นี่……นี่มันเป็นไปได้ยังไง?” หยุนฉิวพูดด้วยน้ำเสียงอันตื่นตระหนก จ้าวยี่เห็นด้วยกับตา แล้วจะเถียงต่ออย่างไร?
“ตอนนั้นไม่เพียงแต่ข้าที่ได้เห็น พวกชากวานที่ได้ทุบหน้าตากให้เป็นรูทางออกก็ได้เห็น ปกติเลยที่จะไม่พูดคำโกหกมาใส่ร้ายคนอื่น ฉะนั้น ไฟที่ลุกไหม้ตรงหอหญิงงามเมือง ประเด็นหลักเลยคือเกิดขึ้นจากบนตัวหยุนฮั่น แต่หยุนฮั่นดันเสียชีวิตไปแล้ว หอหญิงงามเมืองก็ถูกเผากลายเป็นขี้เถ้า อยากจะสอบสวนอีก ก็คือความยากบวกกับความยากแล้ว”
หยุนฉิวสีหน้าเทาขาวเป็นแผ่น “ใต้เท้า……ระหว่างนี้ไม่แน่อาจมีการเข้าใจผิด……”
เขาคิดวิเคราะห์อย่างรวดเร็ว พยายามที่จะอยากขจัดลบล้างความสงสัยที่มีต่อตระกูลหยุนออกไปเสีย แต่ไม่รู้ว่าควรจะถกเถียงต่อไปยังไง?
ทันใดนั้นเฟิงฉิ้นหว่านก็เอ่ยปาก “ใต้เท้าจ้าว เรื่องมันจะเป็นเรื่องไม่จริงไม่ได้ เมื่อกี้นายท่านตระกูลหยุนถามข้าว่ามีหลักฐานหรือไม่ ข้าคิดไปคิดมา กลับคิดออกมานิดนึง แค่ไม่รู้ว่าหลักฐานนั้นยังอยู่หรือไม่”
ทันใดนั้นจ้าวยี่ก็ตั้งใจขึ้นมาทันที “หลักฐานอะไร? รีบพูดมา”
“ใต้ท้าว ณ ขณะตอนที่หยุนเลี่ยววางยาพิษฆ่าหยุนฮั่น เป็นยาที่พกมาด้วยตัวเอง ใช้ขวดที่เป็นลวดลายบรรจุไว้ ตอนนั้นเขาไม่ได้รู้ว่าหอหญิงงามเมืองจะเกิดเหตุไฟไหม้ สิ่งของทุกสิ่งจะโดนเผากลายเป็นขี้เถ้า ฉะนั้นขวดที่เป็นลวดลายต้องพกกับตัวแน่นอน เตรียมพร้อมที่จะกำจัดเมื่อออกจากหอหญิงงามเมือง แต่ว่าคิดไม่ถึงเลยว่าจะเกิดไฟไหม้ที่หอหญิงงามเมือง เขายังโดนจับไปขังในคุกอีก ถ้าข้าคาดการณ์ไม่ผิด ขวดที่เป็นลวดลายคงจะยังซ่อนอยู่บนตัวของหยุนเลี่ยว!”
ได้ยินคำนี้ สีหน้าหยุนเลี่ยวซีดมากยิ่งนักในทันที บนหน้าผากมีเหงื่อเป็นเม็ดๆซึมออกมา อย่างไรก็ตามก็ได้โตกลับด้านน้ำเสียงหนักแน่น
“เฟิงฉิ้นหว่าน เจ้าอย่ามาใส่ร้ายคนอื่นนัก ข้าไม่ได้วางยาพิษ ยิ่งไม่ทราบว่าขวดที่มีลวดลายนั้นคืออะไร”
“ที่ผ่านใต้เท้าจ้าวทำอะไรก็ตามมักจะละเอียดรอบคอบ เมื่อท่านออกจากหอหญิงงามเมืองแล้ว รอบข้างก็จะมีกวานชาคอยเฝ้าดูอยู่เสมอ ฉะนั้นท่านจะไม่มีทางที่จะทิ้งมันไปเรื่อย เผื่อมีคนจะมาเห็น เป็นไปได้ที่ว่าขวดที่มีลวดลายนั้นยังซ่อนอยู่บนตัวท่าน”
“ข้าไม่มี เจ้าอย่าพูดไปเรื่อย”
“มีหรือไม่นั้น ขอเชิญใต้เท้าจ้าวตรวจค้นดูก็ได้แล้ว ถ้าหากไม่มี ก็คืนความจริงแก่ท่านผู้นี้ผู้เป็นท่านชายสามของตระกูลหยุน” ภายใต้การแสดงเฟิงฉิ้นหว่านได้มีความยิ้มด้วยความเสียดสี
“มีสิทธิ์อะไร?” ทันใดน้ำเสียงหยุนเลี่ยวก็ดังขึ้นมา มีความแหลมคมเล็กน้อยด้วยความชัดเจน เวลาเดียวกันก็ยิ่งเห็นได้ชัดถึงความกลัวที่กลัวถูกจับได้
สีหน้าจ้าวยี่เต็มไปด้วยความเข้มงวด “สั่งคนมา ตรวจค้นตัวหยุนเลี่ยว ดูว่าบนตัวเขามีขวดที่มีลวดลายบรรจุยาพิษซ่อนไว้หรือไม่?”
สีหน้าหยุนเลี่ยวเต็มไปด้วยความโกรธ เหมือนกับว่าโดนขายหน้ามาก “ได้ ใต้เท้าจ้าวจะฟังคำพูดเฟิงฉิ้นหว่านอย่างเดียว จะค้นก็ค้น ถ้าหากค้นไม่เจอหลักฐานอะไรบนตัวข้าละ ใช่หรือไม่ที่จะเป็นพยานได้ว่าทั้งหมดที่เฟิงฉิ้นหว่านได้กล่าวมานั้นเป็นเรื่องไม่จริง?”
ใจเฟิงฉิ้นหว่านขยับเล็กน้อย ชัดเจนมากที่สีหน้าหยุนเลี่ยวจะไม่ค่อยปกติ เหมือนดั่งว่าแน่ใจมากที่บนตัวเขาจะค้นไม่เจออะไร จากนั้นก็สวนด้านกลับมากัดตัวเองทีหนึ่ง
“ความจริงเป็นอย่างไรกันแน่? ยังต้องตรวจค้นค่อยว่ากัน” จ้าวยี่เลือกกวานชาอีกสองท่านไปด้านหน้า “ค้นละเอียดหน่อย”
เฟิงฉิ้นหว่านค่อยๆหันหัวไป กวานชาสองท่านไปข้างหน้าทันทีเพื่อค้นตัวหยุนเลี่ยวล่างจากสู่บน
ผ่านไปสักครู่ กุมมือต่อจ้าวยี่กราบทูลว่า “ใต้เท้าจ้าว หยุนเลี่ยวผู้ต้องสงสัยนั้นบนตัวเขาไม่พบร่องรอยของขวดที่มีลวดลาย”
หยุนเลี่ยวโผล่สีหน้ายิ้มอันมีชัยชนะทันที “เฟิงฉิ้นหว่าน เจ้ายังมีอะไรจะพูดอีก?”
เฟิงฉิ้นหว่านหันหัวมา มองสายตาของหยุนเลี่ยว สังเกตสีหน้าของหยุนเลี่ยวอย่างละเอียดถี่ถ้วน
“ขวดที่มีลวดลายที่บรรจุยาพิษเป็นไปไม่ได้ที่จะหายไปโดยไร้สาเหตุ…… ถ้าหากไม่อยู่บนตัวท่าน ถ้าอย่างนั้นสถานที่ที่ท่านเคยอยู่ หรือว่าคนที่ท่านเคยพบ ใต้เท้าจ้าว นายท่านตระกูลหยุนรวมถึงผู้ที่ถูกขังในตรงคุกสองคน ใช่หรือไม่ที่ควรจะตรวจค้น?”
จ้าวยี่ขมวดคิ้ว ได้ให้คำสั่งแก่กวานชาไปตรวจสอบ
“ใต้เท้าจ้าวพวกข้าไม่ได้ทำความผิด พวกข้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเศษผงนั้นมาจากไหน”
มุมริมฝีปากของเฟิงฉิ้นหว่านได้ยิ้มถึงความเยาะเย้ย “จะทำการบดผงพวกนี้ไม่ง่ายเลยจริงๆ พวกท่านสองคนคงไม่ได้พักผ่อนมาทั้งคืนละสิ ไม่รู้ว่านิ้วมือยังดีอยู่หรือ ยื่นออกมาให้พวกข้าดูสักหน่อยดีหรือ?”
หยุนเลี่ยวสีหน้ายิ่งอยู่ยิ่งขาว เหงื่ออันเย็นชำหยดลงมาตามแก้ม ท่านร้องหาความช่วยเหลือหันมองไปยังหยุนฉิว “ท่านพ่อ……”
หยุนฉิวกัดฟันอย่างแน่น เส้นเลือดขยับบนหน้าผาก เหมือนกับพยายามอดทนกับอะไรบางอย่าง
เฟิงฉิ้นหว่านเอ่ยเสียงอีกรอบ “หรือว่าทั้งสองท่านเลียมือตัวเองดู ให้พวกข้าได้แน่ใจ มือของพวกท่านไม่มียาพิษติดอยู่?”
หยุนฉิวมองไปยังหยุนเลี่ยว แววตาที่เจ็บปวดฉายแวบเข้ามาในตาเขา “หยุนเลี่ยว เรื่องมาถึงวันนี้ ท่านพ่อก็ช่วยเจ้าปิดบังไม่ได้แล้ว……”
หยุนเลี่ยวตายได้ แต่ตระกูลหยุนยังต้องสืบทอดต่อไป ก่อนหน้านี้เขาก็ได้สละลูกชายไปคนหนึ่งไป ตอนนี้ก็สามารถสละได้!
หยุนเลี่ยวไม่คาดคิดลืมตาขึ้นอย่างโต “ท่านพ่อ……ท่านพูดอะไรไป?”
เขาจะถูกยอมแพ้แล้ว? นี่มันเป็นไปได้อย่างไร?
“หยุนเลี่ยว ข้าคิดไม่ถึงเลยจริงๆ เจ้ากล้าที่จะทำสิ่งที่ชั่วร้ายแบบนี้ต่อพี่น้องตัวเอง……” หยุนฉิวมองไปยังจ้าวยี่ ร้องไห้หนัก “ใต้เท้าจ้าว ฉ่าวหมินยอมรับการลงโทษ คำพูดของเฟิงฉิ้นหว่านเป็นความจริงทุกประการ ก่อนหน้าที่ได้ปิดบังโกหกใต้เท้า ก็แค่อยากช่วยลูกชายแท้ๆที่ตกอยู่ในความทุกข์ยาก จึงได้……”
เฟิงฉิ้นหว่านพริบตาเดียว ตัดหางเพื่อมาขอชีวิต ตระกูลหยุนเนี่ยชั่วร้ายที่สุด!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาบุปผาซ่อนพิษ