ได้ยินข่าวพระราชกิจอย่างเป็นทางการและการเสด็จมาของอ๋องผิงหวาง เฟิงฉิ้นหว่านประหลาดใจมาก ได้ยินคำพูดของหยุนซวน อดไม่ได้ที่จะสงสัย “ยังมีเรื่องดีหรือ?”
“ใช่ แล้วก็......สถานะของราชวงศ์การค้าของตระกูลหยุนถูกถอดถอนโดยพระราชกฤษฎีกาของฝ่าบาทแล้ว!”
หยุนซวนมองท่านชายของตัวเองอย่างภูมิใจมาก ท่านชายแอบช่วยเหลืออย่างลับๆมาก็ไม่น้อย
เฟิงฉิ้นหว่านรีบหันหน้าไปยังฟู่ลั่วเฉิน ประกายความหลงชอบกระพือออก เหมือนกับทะเลสาบใสที่มีคลื่นเล็กน้อย “ท่านชาย?”
ฟู่ลั่วเฉินวางถ้วยชาลง สีหน้าเรียบนิ่ง “ก็แค่เรื่องง่ายหยิบมือ”
“ขอบคุณท่านชายมาก ข้ารู้อยู่แล้วว่าท่านชายดีกับข้าที่สุด” เฟิงฉิ้นหว่านยิ้มอย่างสดใส แลดูสดใสยิ่งกว่าแสงแดดยามเช้าที่ส่องประกายบนดอกไม้ที่บานสะพรั่ง
ฟู่ลั่วเฉินยกถ้วยชาที่วางลงขึ้น “ช่วงนี้อากาศร้อนขึ้นเรื่อยๆ คอแห้งได้ง่าย ดังนั้นต้องดื่มน้ำให้มากๆ” หยุนซวนที่อยู่ข้างๆพยายามช่วยท่านชายของตัวเองให้กระชับความสัมพันธ์ให้ดีขึ้น
“แม่นางเฟิง แม้ว่าหลายปีมานี้ตระกูลหยุนธุรกิจใหญ่โต แต่ในขณะเดียวกันพวกเขาก็ล่วงเกินคนไว้ไม่น้อย ยังมีคนมากมายที่อิจฉาอย่างลับๆ ตอนนี้ตำแหน่งราชางวค์การค้าถูกถอดถอน เหมือนกับเกราะของตระกูลหยุนถูกถอดออก ไม่รู้ว่ามีคนมากขนาดไหนอยากเข้าไปรุมฉีกเนื้อก้อนโตของตระกูลหยุน”
สร้างธุรกิจนั้นง่าย แต่รักษาไว้ยาก ไม่ว่าอดีตตระกูลหยุนรุ่งเรืองเพียงใด ปัจจุบันก็แบกรับธุรกิจขนาดใหญ่ของครอบครัวไม่ไหว
เฟิงฉิ้นหว่านพยักหน้า ในความดีใจก็มิลืมยกความดีให้กับนายตัวเอง ในฐานะที่เป็นข้ารับใช้ที่มีคุณสมบัติ งานหยาบงานหนักตนเป็นคนทำ ความดีความชอบและความสำเร็จล้วนเป็นของนาย
“ล้วนเป็นเพราะท่านชาย ท่านชายเดาแม่นมาก ร้ายกาจยิ่งนัก”
ฟู่ลั่วเฉินวางถ้วยชาที่หมดแล้วลงบนโต๊ะ รู้สึกว่าอากาศร้อนขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นถ้าแม่สาวน้อยยังหยอดอีกสักพัก อย่าโทษเขาว่าบังคับอารมณ์ไม่อยู่
“ค่าเสียหายของตระกูลหยุนมาถึงหรือยัง?”
หยุนซวนรีบตอบ “ให้คนไปเร่งรัดแล้ว วันสองวันนี้น่าจะถึง”
ฟู่ลั่วเฉินมองไปยังเฟิงฉิ้นหว่าน “เงินมากขนาดนั้น คิดหรือยังว่าจะใช้อย่างไร?”
“คิดไว้นานแล้ว หนึ่งในสามเอาออกมาสร้างหอหญิงงามเมืองใหม่ อีกส่วนหนึ่งเอามาลงทุนกับธุรกิจขาดทุนของพวกหวางจื้อหยวน และอีกส่วนมอบให้ท่านชาย”
“ให้ข้า?”
“ได้เงินมามากขนาดนี้ ล้วนอาศัยการสนับสนุนของท่านชาย ย่อมต้องตอบแทนท่านชายให้ดีไม่ใช่หรือ?” เฟิงฉิ้นหว่านพูดอย่างยิ้มแย้ม อารมณ์แปรปรวนของหลายวันมานี้ดีขึ้น
“ตอบแทน?” ฟู่ลั่วเฉินหรี่ตาเล็กน้อย ในส่วนลึกของแววตามีความไม่เข้าใจ
“ท่านชายรู้สึกคำว่าตอบแทนไม่เหมาะสมหรือ? ถ้าอย่างนั้นก็ขอบคุณ?”
“เจ้ากับข้า เราสองคนเป็นอะไรกัน ยังต้องขอบคุณ? แบบนั้นก็ห่างเหินไปแล้ว?”
เฟิงฉิ้นหว่านรีบใช้สมองคิดอย่างหนัก ผ่านไปสักพัก มีประกายของความเจ้าเล่ห์แลบผ่าน “ถ้าอย่างนั้นก็ถือว่าเป็นค่าขนมที่ข้าให้ท่านชาย”
ฟู่ลั่วเฉินอึ้งเล็กน้อย “ค่าขนนม......”
“อืม ข้าหาเงินได้มากมายเช่นนี้อย่างกะทันหัน แน่นอนต้องให้ค่าขนมท่านชายบ้าง ท่านชายเอาไปใช้ตามใจเลย ห้ามเกรงใจกับข้า”
เฟิงฉิ้นหว่านลุกขึ้น คำนี้มีความไม่ให้เกียรติเล็กน้อย ถ้าฟู่ลั่วเฉินจะลงมือ ลุกขึ้นอาจจะหนีได้เร็วหน่อย
“สิ่งนี้ข้าน้อยก็ให้คนไปตรวจสอบแล้ว หลายปีมานี้ตรวจสอบไม่พบการติดต่อระหว่างตระกูลเหลียงและตระกูลซู แต่ว่าเมื่อสิบปีก่อน ตระกูลเหลียงได้มอบหญิงสาวคนหนึ่งให้กับซูฮั่นจางที่ตอนนั้นยังเป็นแค่ราชเลขา จากนั้นผู้หญิงคนนั้นก็ตายอย่างน่าประหลาด ตระกูลเหลียงก็ไม่ได้ตามเรื่อง ตัดขาดการไปมาหาสู่โดยตรง”
“ผู้หญิง? เมื่อสิบปีที่แล้ว?”
“น่าจะใกล้สิบหกปีแล้ว......”
“สิบหกปี......”ฟู่ลั่วเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย “ตอนนี้เหลียงฮุยคนนั้นทำอะไรอยู่?”
“หาวิธีติดต่อพวกของหวางจื้อหยวน แต่ว่าไม่มีหนทางอะไร อยากจะซื้อร้านที่หลินผิงแต่ถูกปฎิเสธ ช่วงนี้ไปมาระหว่างหอนางโลมกับโรงฉู่”
“เขาเคยถามเกี่ยวกับเรื่องของเฟิงฉิ้นหว่านหรือไม่?”
“ไม่เคย”
“หาที่ที่เขาไปประจำ มอมเหล้าให้เมา ดูว่าจะสามารถหลอกให้หลุดคำพูดอะไรออกมา”
“ท่านชาย ข้าน้อยจับตัวเขามาสอบปากคำเลยก็ได้แล้ว เพราะดูจากท่าทางเหลียงฮุย ดูก็รู้ว่าเป็นคนโลภที่ขี้ขลาด แค่จัดการให้เขาให้ทำตัวดีก็ได้แล้ว ปล่อยออกไปก็ไม่กล้าพูดอะไรมาก ”
“อย่างเพิ่งทำให้กระต่ายตื่นตม ยิ่งไปกว่านั้นฉิ้นหว่านไม่อยากให้ข้ารับรู้เรื่องนี้” ในใจของฟู่ลั่วเฉินสลดเล็กน้อย สายตานิ่งเรียบ
เฟิงฉิ้นหว่านในปัจจุบัน ภายนอกสนิทสนมกับเขา ในใจก็รู้ดีว่ามันไม่จริง ดังนั้นเขาต้องค่อยๆรอ รอให้เฟิงฉิ้นหว่านลืมหนังสือสัญญาไปเอง ปฏิบัติต่อเขาอย่างเป็นกันเองด้วยความจริงใจ
หยุนซวนพยักหน้าอย่างเงียบๆ “ที่แท้แบบนี้เอง ถ้าอย่างนั้นท่านชายต้องเชื่อฟังแม่นางเฟิง ข้าน้อยจะไปจัดการเดี๋ยวนี้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาบุปผาซ่อนพิษ