หออี้เป่า หอจู้ฝู ร้านซู่หยุน ร้านฉายอี……
แต่ละร้านเปิดทำการทีละร้านๆ ของที่คนการค้าของตงเหว้ยส่งมาก็ค่อยๆ แยกไปตามร้านต่างๆ
จ้าวยี่และอ๋องผิงหวางทำซ้ำตามขั้นก่อนหน้า ไปข้างหน้าถอดผ้าคลุมป้าย ดูคนขนของเข้าร้าน เสียงประทัดดังขึ้น ซองแดงกระจาย ประชาชนเฮฮา พวกเขาก็ยิ้มพร้อมกับคนอื่นไปด้วย
แบบนี้ เปิดร้านค้าในนามของเฟิงฉิ้นหว่าน จากเดิมที่แข็งดิบๆกลายเป็นงานที่ประชาชนทั่วหลินผิงสนุกสนานเฮฮา
ตอนนี้ใครก็ไม่สนแล้วว่าชื่อเสียงของเฟิงฉิ้นหว่านจะเป็นยังไง คิดว่าแต่วิ่งเร็วหน่อยหนึ่ง อัดเข้าไปข้างหน้าหน่อยหนึ่ง แย่งซองแดงได้สักสองอันก็ยังดี
จ้าวยี่และอ๋องผิงหวางก็กลายเป็นว่าชื่อเสียงโด่งดังกว่าแต่ก่อน เพียงแค่พวกเขาสองคนยื่นมือไปลากหน้าสีแดงที่บังป้ายไว้ มักจะมีทำให้ประชาชนส่งเสียงอันสนุกสนานขึ้นมา
เวลาติดต่อกันสามชั่วโมง ร้านค้าที่อยู่ภายใต้นามของเฟิงฉิ้นหว่านก็ได้เปิดทำการหมดแล้ว จ้าวยี่และอ๋องผิงหวางปัดเหงื่อที่อยู่บนหัว แล้วมองเฟิงฉิ้นหว่านที่ตามอยู่ด้านข้างพวกเขา ในใจได้ผุดความชื่นชมขึ้นมา
“แม่นางเฟิงวันนี้เหนื่อยแย่แล้วสิ? กลับไปพักผ่อนดีๆ”
เฟิงฉิ้นหว่านยังคงสดใสเหมือนเจอกันตอนเช้าตรู่ รอยยิ้มเบิกบาน จนกระทั่งเพราะจัดการเรื่องใหญ่เสร็จดวงตาจึงสว่างไสว ยิ่งดีมีชีวิตชีวามากขึ้น
“วันนี้ลำบากใต้เท้าจ้าวและอ๋องผิงหวางแล้ว”
“แม่นางเฟิงไม่ต้องเกรงใจ”
ซองแดงก็ได้แจกจ่ายหมด ประชาชนที่สนุกสนานกับงานมาตลอดครึ่งวันยังคงแสดงถึงความยังไม่จบสิ้น
เก็บเงินตลอดทาง ไม่กลัวเหนื่อยล้า พวกเขาสามารถสู้ต่ออีกสามวันสามคืนได้!
มีคนอดไม่ได้ที่จะถาม “แม่นางเฟิง เจ้าให้คนใส่เหรียญและเงินที่แตกเป็นชิ้นส่วนในซองแดง ยังมีกระดาษข้อความ บนกระดาษได้มีข้อความที่เขียนไว้ว่านำของเหล่านี้สามารถไปแลกของขวัญฟรีได้ ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่?”
“ที่ข้าก็มี ไม่เพียงแต่นำไปแลกของขวัญ แต่ถ้าซื้อของ ก็จะได้ลดถึงเงินเก้าตำลึงเลย ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่?”
เฟิงฉิ้นหว่านหันไปยังประชาชนที่ซักถามนาง พยักหน้าด้วยความแน่นอน “พี่น้องที่รักทุกท่านไว้ใจได้ ข้อความบนกระดาษเป็นเรื่องจริง สามารถไปแลกที่ร้านค้าที่กำหนดไว้ได้”
พวกประชาชนด้านล่างที่เก็บซองแดงได้ต่างก็ดีใจกันใหญ่
แค่กระดาษเล็กๆใบหนึ่งก็สามารถเป็นเงินเก้าตำลึงมาใช้จ่ายได้ เรื่องดีๆแบบนี้พวกเขาเจอครั้งแรกเลยนะ
“ดีมากเลย! แม่นางเฟิงเนี่ยงามทั้งหน้าตาและใจ”
“ถ้าให้ข้าพูด ร้านค้าทั่วหลินผิงเป็นของแม่นางเฟิงก็จะดีมากเลย!”
ใต้สายตาเฟิงฉิ้นหว่านมีแสงแวบเข้ามาเบาๆ ตอนนี้นางก็พยายามเพื่อเป้าหมายนี้มิใช่หรือ?
มีความแน่ชัดของแม่นางเฟิง พวกประชาชนก็ไม่สนที่จะดูความสนุกสนานแล้ว ต่างคนต่างแย่งซองแดงไปตามร้านค้าต่างๆเพื่อเลือกของขวัญแลกเปลี่ยนตำลึง
มองยังคนเป็นขบวนอัดกันเข้าร้านค้า อ๋องผิงหวางเริ่มกลัวขึ้นมา
“แม่นางเฟิง ทำแบบนี้ จะไม่ขาดทุนหรือ?”
ในเมื่อทั้งให้ซองแดง ให้ของขวัญ ยังมีกระดาษที่สามารถลดเงิน นี่มันเงินเยอะเกินแล้วไม่มีที่ใช้จ่ายชัดๆ
เฟิงฉิ้นหว่านเอ่ยพร้อมหัวเราะ “คนทำการค้า มีที่ไหนที่ไม่เอากำไร?”
“มีกำไรจริงหรือ?”
“ถูกต้อง ประชาชนที่ได้เข้าร้านค้าในวันนี้ จะรู้ว่าร้านค้าในนามของข้าตระกูลเฟิงเนี่ยขายอะไรกันแน่ อีกอย่างเขายังจะรู้อีกว่า หลังจากนี้ร้านค้าของตระกูลเฟิงยังจะส่งแจกกระดาษข้อความที่ลดราคาเงินส่วนหนึ่ง สามารถใช้จ่ายแทนเงินได้ เขาจะไม่ดีใจหรือ?”
“ถ้าหากเป็นข้าน้อย จะดีใจแน่นอน” เหว้ยหลันพูดอย่างมั่นใจ
“ฉะนั้นประชาชนเหล่านั้นก็จะดีใจเช่นกัน กลายเป็นลูกค้าของร้านค้าตระกูลเฟิงของข้า พวกหวางจื้อหยวนเขาลำบากมาเป็นเวลาอันยาวนานแล้ว สะสมของหลักสีได้เยอะแล้ว สองสามวันนี้จะรีบนำมาไว้ในร้านค้าของตระกูลเฟิง ราคาที่ตั้งไว้จะแพงกว่าตลาดเป็นสองเท่า แต่หากใช้ส่วนลดกระดาษข้อความลดค่าเงิน ก็สามารถซื้อมาด้วยราคาที่ต่ำ ถูกกว่าที่ตลาดครึ่งหนึ่ง ถ้าเป็นท่าน จะเลือกอย่างไร?”
“แน่นอนอยู่แล้วข้าจะมาซื้อของที่ร้านค้าของตระกูลเฟิง นี่ได้กำไรชัดๆเลยมิใช่หรือ?”
“ถูกต้อง ก็ต้องการความคิดแบบนี้แหละ” สีสันในการยิ้มของเฟิงฉิ้นหว่านยิ่งเข้มข้นขึ้น “อีกอย่างการซื้อของเนี่ยถ้าหากซื้อไปเรื่อยๆ ก็จะเกิดความเคยชินขึ้นมา เพียงแค่ว่าความคิดของประชาชนของหลินผิงคิดในแบบที่ว่าร้านค้าของตระกูลเฟิงของราคาถูกกว่าที่อื่น หลังๆพวกเขาก็จะเลือกเชื่อใจในตระกูลเฟิง”
สิ่งที่นางหวังไม่ใช่สิ่งเล็กน้อยในวันนี้ แต่เป็นความมั่นคงของวันหน้า
“คุณหนูเก่งจริงๆเลย” เหว้ยหลันพนมมือเชิดชูนาง
แต่ก็ไม่รู้ว่าความคิดของคุณหนูคือคิดยังไงกันแน่ ถ้าหากไม่ฟังคำอธิบายของคุณหนู คงคิดว่าตระกูลเฟิงเสียเปรียบมากๆเลยแหละ!
“ตลอดที่ผ่านมา พวกข้าตระกูลเฟิงไม่ใช่หรือที่เป็นที่หนึ่งของหลายๆเรื่องแย่ๆ ร้านค้าร้านอื่นคงจะเจ๊งไปแล้วแหละ?”
สายตาเฟิงฉิ้นหว่านขยับเล็กน้อย “พวกข้าตระกูลเฟิงคือผู้ทำกิจการ ไม่ใช่ขโมยขโจร แน่นอนอยู่แล้วต้องมีทุกสิ่งทุกอย่างเป็นตามธรรมชาติ”
“แต่ร้านค้าอื่นไม่มีกิจการมิใช่หรือ? ลูกค้าถูกคุณหนูแย่งมาหมดแล้วมิใช่หรือ?”
“ถ้าอย่างนั้นเถ้าแก่ของทุกร้านค้าห้อยป้ายของข้าตระกูลเฟิงไว้ ใช้สินค้ากับร้านข้าก็ได้แล้วสิ? ถึงยังไงผู้ที่ตามทางการค้าของหวางจื้อหยวนและคนอื่นๆยิ่งขยายใหญ่มากขึ้น เก็บสิ่งของที่ได้ก็ยิ่งเยอะขึ้น พึ่งแต่ร้านค้าของตระกูลเฟิงก็คงล้นแล้วแหละ”
เหว้ยหลันรีบถือถ้วยชาจากด้านข้างมา สองมือยกขึ้นเลยศีรษะ ยื่นให้เฟิงฉิ้นหว่านด้วยความเคารพอย่างสูง “เชิญคุณหนูดื่มชา”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาบุปผาซ่อนพิษ