การแสดงของลู่เยาทำให้บรรยากาศของหอหญิงงามเมืองไปถึงจุดสูงสุด มีเสียงปรบมือและชื่นชมอย่างต่อเนื่อง
หลังจากที่เฟิงฉิ้นหว่านแน่ใจว่าจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ก็กลับไปที่ห้องของตนเรียกหยุนชีเข้ามา
“”นายท่าน”
“ตามแผนก่อนหน้านี้ ให้คนเผยแพร่ภาพของหอหญิงงามเมืองในวันนี้ออกไป กลอนที่เตรียมไว้ล่วงหน้าก็กระจายออกไปด้วย ยกชื่อเสียงของหอหญิงงามเมืองให้มากที่สุด”
“ขอรับ”
หยุนชีออกไป เฟิงฉิ้นหวานพลิกดูหนังสือในมือของเขาอีกครั้ง ในหนังสือบันทึกตระกูลที่มีชื่อเสียงและมีอำนาจทั้งหมดในหลินผิง
บางส่วนรวบรวมโดยอิงจากความทรงจำในอดีตของนาง บางอย่างถามจากฉินฮั๋วเหนียนและหญิงในหอหญิงงามเมือง และบางอย่างก็เพิ่มเติมเสริมจากหยุนชีและคนอื่นๆ หนังสือเล่มนี้ยังบันทึกความชอบของคนเหล่านี้อย่างละเอียดรวมถึงความขัดแย้งส่วนตัวด้วยและความแค้นความเกลียดชัง
เฟิงฉิ้นหว่านดูอย่างละเอียดเป็นเวลานาน แล้วค่อยๆ ทำเครื่องหมายลงบนชื่อสองสามคนในหนังสือ
เวลาดึก หอหญิงงามเมืองปิดบริการ
แขกบางคนยังไม่รู้สึกดูไม่พอ อยากอยู่ต่อก็ไม่ได้ร ทำได้เพียงรอคอยวันพรุ่งนี้
เฟิงฉิ้นหว่านส่งหลี่หยวนและจ้าวยี่ออกไปด้วยความเคารพ จากนั้นมอบคำเชิญที่เขียนเสร็จแล้วให้นางลี่ “ส่งออกไปเถอะ”
“อือ”
ชื่อเสียงของหอหญิงงามเมืองดังไปทั่วหลินผิงในชั่วข้ามคืน ทุกคนที่เคยไปที่นั่นต่างชมไม่หยุด ยังมีคนบางคนเขียนกลอนหรือภาพวาด พรรณนาถึงทัศนียภาพอันงดงามในหอหญิงงามเมือง ในนั้นยังมีความโดดเด่นเป็นพิเศษที่ได้ดึงดูดผู้คนมากมายมาติดตาม
ฟู่ลั่วเฉินมองดูรายชื่อแขกของหอหญิงงามเมืองในมือ มีแสงส่องประกายแวบเข้ามาในดวงตาของเขา
หยุนซวนเดินกลับไปกลับมาสองครั้งและกล่าวอย่างร้อนใจว่า “ท่านชาย ท่านดูรายชื่อนี้มาเป็นเวลานานแล้ว เป็นเพียงแค่ชื่อคนเองใช่ไหมหรือ? มีอะไรให้ดูกันขอรับ?”
ฟู่ลั่วเฉินวางรายชื่อในมือลงบนโต๊ะ ใช้นิ้วโต๊ะเบา ๆ “เจ้าพูดผิดแล้ว ข้างในนั้นมีความรู้มากมาย”
“แค่รายชื่อยังสามารถมองเห็นความรู้ได้ ชื่อของคนเหล่านี้ตั้งได้ดีเป็นพิเศษหรือขอรับ?” หยุนซวนงงงวยมาก
“ต่อไปถ้าเจ้าเจอเฟิงฉิ้นหว่าน อย่าคุยกับนางตัวต่อตัว”
“ฮ่าฮ่า แม่นางเฟิงเป็นคนของท่านชาย แน่นอนว่าข้าจะไม่คุยกับนางตัวต่อตัว ท่านชายไม่จำเป็นต้องหึง”
ฟู่ลั่วเฉินมองกลับมา “ข้ากังวลว่าเหมือนเจ้าอย่างนี้ นางสามารถขายออกไปได้สิบกว่าคนได้อย่างง่ายดาย”
“เป็นไปได้อย่างไร? ท่านชาย ท่านดูถูกข้าต่ำไปแล้ว”
“เจ้าได้ดูรายชื่อของสองวันนี้มาแล้ว เจ้าเห็นอะไรแปลกๆรจากในนี้บ้าง?”
“ข้าเห็นปัญหาที่ใหญ่ที่สุดอย่างหนึ่ง"
“พูดออกมาให้ข้าฟัง”
หยุนซวนส่งเสียงฮึดฮัด “ท่านชาย ท่านไม่มีชื่ออยู่ในรายชื่อในคำเชิญมาสองวันแล้ว!”
ฟู่ลั่วเฉินที่เคาะนิ้วอยู่บนโต๊ะหยุดกะทันหัน “ใครบอกให้เจ้าดูสิ่งนี้กัน? ข้าเปรียบเทียบทั้งสองรายชื่อนี้อย่างละเอียด แขกที่ได้รับเชิญจากเฟิงฉิ้นหว่านนั้นพิเศษมาก ส่วนหนึ่งคือนักปราชญ์ สามารถกระจายชื่อเสียงของหอหญิงงามเมืองออกไป ตัวอย่างเช่นเปิดงานวันแรกของเมื่อวานนี้ วันนี้ก็มีกลอนที่ชื่นชมสรรเสริญกระจายออกไป”
“หา แล้วที่เหลือล่ะขอรับ?” หยุนซวนไม่ค่อยเข้าใจ
“ส่วนที่เหลือเป็นนักค้าขายที่ร่ำรวย คนเหล่านี้มีเงินเพียงพอในมือ ถ้าได้ความชื่นชอบจากพวกเขา ก็เพียงพอที่จะให้เงินทองแก่หอหญิงงามเมืองได้”
“ใต้เท้าจ้าว เพราะเหตุใดเล่า?”
“คนเหล่านั้นแม่นางเฟิงเชิญในวันแรก มีนิสัยสบายๆไปตามกระแส นักปราชญ์เหล่านั้นชื่นชมสรรเสริญหอหญิงงามเมือง พวกเขาจะไม่ออกตัวไปหาเรื่องด้วยการเขียนกลอนแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างออกไป มีแต่จะสรรเสริญชื่นชมตามพวกเขาด้วยกันเท่านั้น ชื่อเสียงของหอหญิงงามเมืองก็จามมาแล้วไม่ใช่หรือ? และคนเหล่านั้นที่เชิญมาในวันที่สอง บางคนเป็นคู่แข่งกันและสร้างปัญหาให้แก่กันและกัน ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็จะแข่งกันตลอด โดยเฉพาะคราวที่แล้วพวกเขาให้ทุนและจัดงานกวีนิพนธ์ คนนี้ชื่นชมดอกบ๊วยมีบุคลิกตรงไปตรงมาและแข็งแกร่ง คนนั้นต้องสนับสนุนดอกเบญจมาศว่าดอกเบญจมาศเป็นราชาแห่งดอกไม้...เอาคนเหล่านี้เข้าไปอยู่ในหอหญิงงามเมือง แค่ดอกไม้นับร้อยในโลกที่ก็เพียงพอทำให้พวกเขาทะเลาะกันขึ้นมาได้ ข้าแย่งเจ้าแย่ง สุดท้ายจบลงด้วยการแข่งขันว่าผู้ใดมีเงินมากกว่ากันไม่ใช่หรือ?”
“อ้อ อย่างนี้นี่เอง”
“และข้ายังได้ยินด้วยว่าหลังจากชื่อเสียงของหอหญิงงามเมืองแพร่กระจายออกไป มีหลายคนไม่พอใจ ไม่เข้าใจว่าทำไมพวกเขาถึงไม่ได้รับเชิญไปที่นั่นในวันแรก วันนี้ยังมีคนแอบกระจายชื่อเสียงของตนออกไป อยากได้รับคำเชิญจากหอหญิงงามเมือง! ตามสถานการณ์แบบนี้ ชื่อเสียงของหอหญิงงามเมืองยิ่งกระจายไปไกลและยิ่งได้รับความสนใจมากขึ้น ผู้คนที่อยากจะได้รับคำเชิญก็มากขึ้นกว่าเดิม และในที่สุดกลัวว่าคำเชิญใบหนึ่งก็หายากแล้ว”
หยุนซวนก้มลงมองลงรายชื่อ “แค่รายชื่อสองแผ่นสามารถเห็นอะไรได้มากมายจริงๆหรือ?”
จ้าวยี่หัวเราะ “องครักษ์หยุนซวน เพียงต้องการรู้ว่าไม่ควรประมาท หอหญิงงามเมือง แม่นางเฟิงยิ่งไม่ควรประมาทก็พอ!”
“งั้นข้ารู้ว่าจะเขียนความรู้สึกอย่างไรแล้ว ขอบพระท่านใต้เท้าจ้าว”
หยุนซวนก้าวจากไปอย่างรวดเร็ว จ้าวยี่ส่ายหัวเข้าไปขอเข้าพบฟู่ลั่วเฉิน “กราบทูลท่านชาย”
“ใต้เท้าจ้าว ไม่ต้องทำความเคารพมากเกินไป”
“ท่านชาย ตามคำสั่งของท่าน ข้าน้อยให้คนคอยเฝ้าดูคนที่หลี่หยวนพามาอย่างละเอียด เขาแอบติดต่อกับคนสมาคมการค้าหนานเจียงเหล่านั้นอย่างลับๆจริงๆ”
ดวงตาของฟู่ลั่วเฉินมีความเย็นชาแวบขึ้นมา “หลายปีมานี้ องค์ชายสามได้พัฒนาผู้ติดตาม และถึงกับยอมให้ขุนนางที่ติดตามเขาแอบอำนวยความสะดวกให้กับพ่อค้า เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการสะสมเงิน ไม่สนใจกฎหมายของราชวัง เดิมทีข้าคิดว่า การกระทำดังกล่าวก็กล้ามากพอแล้ว แต่ข้าคาดไม่ถึงว่าเขาจะสั่งคนสร้างหอเซียวเซียงจุ๋น!”
“ท่านชาย หอเซียวเซียงจุ๋นเป็นเราที่สืบออกมาได้ แต่น่าจะยังมีสถานที่ที่คล้ายกับหอเซียวเซียงจุ๋นหลายแห่งในความมืดที่เราสืบไม่ได้”
“หาพบแห่งหนึ่ง ก็ทำลายลง! หากยังไม่ได้ผล…” ดวงตาเรียวของฟู่ลั่วเฉินเย็นชาราวกับน้ำแข็ง “ถ้าอย่างนั้นก็จับต้องหัวหน้าก่อน ทำลายองค์ชายสาม!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาบุปผาซ่อนพิษ