ได้ฟังคำปลอบประโลมของเฟิงฉิ้นหว่าน เสิ่นเยว่ชะงัก: “แม่ไม่ได้กลัว แค่เพียงไม่อยากทำให้เจ้าผิดหวัง”
เฟิงฉิ้นหว่านส่ายหน้าอย่างหนักแน่น: “ท่านแม่ยอมรับข้าใหม่ได้ ทั้งยังยิ้มร่าตลอดเวลา คือความปรารถนาสูงสุดของข้า”
ไม่ว่าจะเป็นชาติก่อนหรือว่าชาตินี้ ท่านแม่ไม่เคยทำให้นางผิดหวังมาก่อน
“ให้ข้ากลับไปคิดก่อนเถอะ”
“เจ้าค่ะ”
เสิ่นเยว่เดินออกไปจากโถงหน้าด้วยจิตใจที่ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
เฟิงฉิ้นหว่านหันไปมองแม่นมโจว: “แม่นมโจว รบกวนแม่นมช่วยพูดให้ท่านแม่กระจ่างด้วย”
“คุณหนูโปรดวางใจเถอะ ข้าน้อยจะช่วยพูดกับฮูหยินอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ” แม่นมโจวตื้นตันใจยิ่งนัก รีบเดินตามเสิ่นเยว่ไป
ตอนที่ฮูหยินเพิ่งเข้ามาในจวน ไม่รู้แม้กระทั่งหนังสือ แต่ว่าเพื่อให้คู่ควรกับนายท่าน ฮูหยินตั้งใจร่ำเรียน รู้หนังสือ ดูบัญชี ใช้ลูกคิด ไม่รู้ว่าต้องอดหลับอดนอนนานเพียงใด
นางที่มองอยู่ข้างๆ ยังรู้สึกปวดใจ แต่ว่านายท่านกลับไม่สนใจแม้แต่น้อย ถึงขั้นที่ว่าเพราะฮูหยินร่ำเรียนด้วยความตั้งใจ ชั่วขณะหนึ่งจึงเลินเล่อ ไม่ทันสังเกตเห็นว่าเสื้อผ้าของคุณหนูมีเส้นด้ายหลุดลุ่ย ทำให้คอเสียดสีจนแดงแล้วส่งผลให้นายท่านก็โมโหอย่างมาก
หลังจากนั้นนางก็เห็นฮูหยินวางพู่กันลง เก็บลูกคิด แล้วมุ่งมั่นกับการตัดเย็บเสื้อผ้าให้คุณหนูด้วยความตั้งใจ
เวลานี้คุณหนูยังเล็ก ยังไม่ถูกแม่นมฉีเสี้ยมสอน ทุกครั้งยามสวมชุดที่ฮูหยินตัดเย็บให้ ก็จะมีความสุขเป็นพิเศษ นายท่านพอใจมาก ดังนั้นฮูหยินจึงทำเช่นนี้มาโดยตลอด
ทว่าไม่เคยมีผู้ใดถามว่า ฮูหยินพอใจหรือไม่
กระทั่งในตอนคุณหนูอายุมากขึ้น ฟังคำเสี้ยมสอนของแม่นมฉี ถึงขั้นไม่ยอมใส่เสื้อผ้า ฮูหยินจึงมักจะนั่งถือเข็มแล้วเหม่อลอย
เมื่อคิดได้เช่นนี้ แม่นมโจวขอบตาร้อนผ่าวอย่างไม่อาจหักห้ามใจได้: “คุณหนู เช่นนั้นบ่าวขอตัวก่อนเจ้าค่ะ”
คุณหนูส่งคืนสิ่งที่ฮูหยินเคยทิ้งไป ไม่ว่าอย่างไรครั้งนี้นางก็จะเกลี้ยกล่อมให้ฮูหยินคว้าโอกาสนี้ไว้ เพราะถึงอย่างไรนายท่านก็ไม่อยู่แล้ว ฮูหยินควรจะทำในสิ่งที่ตนอยากทำจริงๆ
“อืม”
รอกระทั่งฟ้ามืด ก็ไม่เห็นแม่นมโจวกลับมารายงานแต่อย่างใด เฟิงฉิ้นหว่านรู้ดีว่าไม่อาจรีบร้อน หยิบด้ายแดงขึ้นมา แล้วถักเป็นกำไล
นิ้วมือของนางคล่องแคล่วยิ่งนัก ใช้เวลาไม่นานก็ทำเสร็จ แล้วมองเส้นด้ายสีแดงเหล่านั้น เม้มปากเล็กน้อย
วันเทศกาลเทพเจ้าดอกไม้ สตรีสวมกำไลที่ถักร้อยจากด้ายแดง ส่วนบุรุษพกพู่ห้อยพัดที่ทำจากด้ายแดง
เช่นนั้นนางควรจะทำพู่ห้อยพัดให้ท่านชายเย่หนึ่งอันหรือไม่?
หลังจากทำเสร็จ นางควรจะส่งถึงมือท่านชายเย่อย่างไร?
เพราะถึงอย่างไรชาตินี้ พวกเขาไม่เคยพบเจอกันมาก่อน ด้วยความเป็นสุภาพบุรุษของท่านชายเย่ ย่อมไม่มีทางรับของขวัญจากสตรีที่ไม่รู้จักอย่างแน่นอน
เฟิงฉิ้นหว่านครุ่นคิด พร้อมกับทำพู่ห้อยพัด
นั่งจับพู่ห้อยพัดในมือ นึกถึงเย่ลั่วหานที่สวมชุดขาว มุมปากของนางยกขึ้นเล็กน้อย
ปกติแล้วท่านชายเย่สวมชุดสีขาวเรียบๆ เมื่อพู่ห้อยพัดสีแดงอยู่ในมือของเขา ราวกับลูกพลับผลสีแดงท่ามกลางหิมะขาวโพลน ต้องงดงามแน่นอน
การมาเยือนของเทศกาลเทพเจ้าดอกไม้ ทำให้นครหลินผิงครึกครื้นแต่เช้า
บนท้องถนน ชาวบ้านมากมายถือดอกไม้เพื่อไปกราบไหว้ สองข้างทางเต็มไปด้วยดอกไม้หลากหลายสีสัน
เฟิงฉิ้นหว่านตื่นแต่เช้า จากนั้นก็เห็นบนโต๊ะและขอบหน้าต่างมีดอกลิลลี่สีชมพูวางไว้
ดอกลิลลี่ส่งกลิ่นหอม ทำให้ทั่วทั้งห้องฟุ้งไปด้วยกลิ่นหอมจากที่ไกลๆ
ขณะที่เฟิงฉิ้นหว่านขยับเข้าไปใกล้ดอกลิลลี่ ด้านนอกมีเสียงฝีเท้าดังขึ้น นางคิดว่าเป็นแม่นมโจว จึงไม่ได้ใส่ใจ: “แม่นมโจว ผ้าสีแดงที่ข้าต้องการเตรียมพร้อมแล้วหรือยัง?”
“เตรียมพร้อมให้เจ้าแล้ว”
เสียงของเสิ่นเยว่ดังขึ้น
เฟิงฉิ้นหว่านรีบเงยหน้าขึ้น พูดด้วยความดีใจ: “ท่านแม่?”
เมื่อชาติก่อนท่านชายเย่ช่วยป้องตนจากการถูกเย้ยหยันและความอับอาย ชาตินี้ นางย่อมตอบแทนน้ำใจให้เขา
เมื่อคิดได้เช่นนี้ แววตาของเฟิงฉิ้นหว่านฉายความตื่นเต้นเล็กน้อย หลังจากสวมกำไลด้ายแดงของตนและพกพู่ห้อยพัดแล้ว นางก็ออกจากจวน
เสิ่นเยว่หันไปมองแม่นมโจว: “แม่นม เมื่อครู่ท่านเห็นหรือไม่? สีหน้าของฉิ้นหว่านไม่เพียงแต่ดีใจ ทว่ายังมีการคาดหวังอีกด้วย?”
แม่นมโจวพยักหน้า: “เป็นจริงเช่นนั้นเจ้าค่ะ”
นัยน์ตาของเสิ่นเยว่แสดงความดีใจ ในเวลาเดียวกันก็เปี่ยมไปด้วยความเป็นห่วง: “เจ้าว่าฉิ้นหว่านชอบท่านชายฟู่คนนั้นหรือไม่?”
หากสามารถชอบคนคนหนึ่งได้ เช่นนั้นก็หมายความว่าความเจ็บปวดที่ฉิ้นหว่านได้รับก่อนหน้านี้หายดีแล้ว เช่นนั้นนางก็ไม่ต้องคอยกังวลตลอดเวลาแล้ว
“คง......คงเป็นไปไม่ได้กระมังเจ้าคะ?”
“แม้ท่านชายฟู่จะเป็นคนทำตามอำเภอใจตนเอง แต่ถึงอย่างไรเขาก็รูปหล่อ ทั้งยังมีฐานันดรศักดิ์สูงส่ง มีความโดดเด่น การที่ฉิ้นหว่านชอบเขาก็ไม่ได้แปลกแต่อย่างใด ข้าเพียงเป็นห่วง กลัวสุดท้ายนางจะเสียใจ”
“ฮูหยิน เมื่อครู่บ่าวเห็น คุณหนูทำพู่ห้อยพัดจริงๆ เจ้าค่ะ”
“พวกเราแกล้งทำเป็นไม่รู้ อย่าให้ฉิ้นหว่านแตกตื่นเด็ดขาด”
“เจ้าค่ะ”
เสิ่นเยว่ทอดถอนหายใจ มือทั้งสองประสานกันแล้วยกขึ้นไหว้: ขอให้ท่านเทพเจ้าดอกไม้ช่วยคุ้มครองให้ชีวิตคู่ของฉิ้นหว่านราบรื่น คิดสิ่งใดก็สมปรารถนา
อีกด้านหนึ่ง ฟู่ลั่วเฉินกำลังเดินหมากกับเย่ลั่วหาน เห็นหยุนซวนวิ่งเข้ามาด้วยความรีบร้อน
“ท่านชายขอรับ แม่นางเฟิงมาแล้วขอรับ! ข้าน้อยบอกแล้ว แม่นางเฟิงต้องมาเชิญท่านชายไปร่วมงานเทศกาลเทพเจ้าดอกไม้อย่างแน่นอน”
ฟู่ลั่วเฉินชะงักเล็กน้อย วางหมากในมือผิดตำแหน่ง
เย่ลั่วหานที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามคลี่ยิ้มบางๆ นิ้วมือเรียวยาววางหมาก: “ข้าชนะแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาบุปผาซ่อนพิษ