ชายาหมอเซี่ยจินอาน นิยาย บท 207

เมื่อม่านราตรีเยื้องกรายมาถึง เมืองหลวงก็ถูกปกคลุมไปด้วยแสงจันทร์ ดูคล้ายกับคนงามที่สวมใส่ผ้าชีฟองบางๆ ซึ่งดูมีเสน่ห์และน่าหลงใหลเป็นอย่างมาก!

รถม้าที่หรูหราคันหนึ่งหยุดอยู่หน้าประตูวัง องครักษ์ที่กำลังเฝ้าอยู่หน้าประตูวังจึงยื่นมือออกไปสกัดกั้นเอาไว้

ร่างที่ขาวและอรชรอ้อนแอ้นร่างหนึ่งก้าวลงมาจากรถม้า เมื่อองครักษ์ได้เห็นผู้มาเยือนก็ทำความเคารพอย่างนอบน้อมและพูดว่า "คารวะหลิวหลีจวิ้นจู่"

เสิ่นหลีซูพูดอย่างเมินเฉยโดยไม่ได้ชำเลืองมองด้านข้างเลยว่า "ไม่จำเป็นต้องมากพิธี"

แล้วสาวใช้ที่คอยรับใช้อยู่ข้างๆก็ได้หยิบป้ายแขวนเอวป้ายหนึ่งออกมาแสดงอยู่ตรงหน้าองครักษ์

เมื่อเห็นดังนั้น องครักษ์ก็ถอยหลังกลับและปล่อยให้พวกนางเดินผ่านไปทันที แต่ทว่าภายในวังกลับห้ามไม่ให้รถม้าผ่านเข้าไป เสิ่นหลีซูจึงทำได้เพียงเดินเท้าเข้าไปในวัง เดินผ่านทางเดินเล็กๆที่ราบเรียบ และหลังจากที่เดินผ่านมุมโค้งไปหลายมุมแล้ว นางจึงเดินมาจนถึงตำหนักขององค์หญิงสาม

เสิ่นหลีซูหยุดยืนอยู่หน้าประตูตำหนักและมองไปที่แผ่นป้ายชุบทองที่แขวนไว้ด้านบน ซึ่งเขียนตัวอักษรตัวใหญ่ๆสามตัวว่าตำหนักฝูเหยา

ฝูเหยาเป็นราชทินนามขององค์หญิงสามหยุนฉีฝู จากการตั้งชื่อตำหนักด้วยราชทินนามนี้ก็พอที่จะแสดงให้เห็นได้ถึงระดับของการเป็นที่โปรดปรานขององค์หญิงสามพระองค์นี้แล้ว!

เสิ่นหลีซูยกฝีเท้าเดินเข้าไปในตำหนัก หลังจากที่นางกำนัลเห็นเสิ่นหลีซูเข้า นางก็รีบกลับมารายงานหยุนฉีฝูที่ห้องในทันที

ตำหนักนี้ใหญ่กว่ามาตรฐานตำหนักขององค์ชายคนอื่นๆมาก ฝ่าบาทได้ทรงขยายให้พระธิดาพระองค์นี้เป็นสองเท่าโดยเฉพาะ ซึ่งตำหนักนี้ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าพระตำหนักของไท่จื่อเลย

ไม่นานหลังจากนั้น ผู้หญิงที่สวมชุดสีชมพูคนหนึ่งก็ยกชายกระโปรงขึ้นและวิ่งมาหาพร้อมกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม "น้องหลีซู!"

ชายกระโปรงพลิ้วไสว จี้หยกที่แขวนเอาไว้บริเวณเอวจึงกระทบกันจนทำให้เกิดเสียงที่ดังกังวานและไพเราะขึ้นมา ซึ่งมันได้ขับดุลซึ่งกันและกันกับระย้าที่ประดับอยู่ตรงเส้นผม และบนใบหน้าที่คล้ายคลึงกับฮ่องเต้เจ็ดแปดส่วนนั้น ก็ได้ปรากฏรอยยิ้มที่จริงใจออกมา

หลังจากที่วิ่งไปจนถึงข้างกายเสิ่นหลีซูแล้ว องค์หญิงสามก็จูงมือของนางเดินออกไปจากภายในตำหนัก และพูดด้วยความไม่พอใจเล็กน้อยว่า "เมื่อสองสามวันก่อนข้าก็เชิญเจ้ามา ทำไมเจ้าถึงเพิ่งมาวันนี้ล่ะ"

เสิ่นหลีซูวางถ้วยน้ำชาที่อยู่ในมือลงบนโต๊ะ และแสร้งทำเป็นพูดอย่างใจกว้างว่า "ก็ไม่มีอะไรหรอกเพคะ แค่เมื่อไม่กี่วันก่อนหม่อมฉันได้พบเห็นคนกลุ่มหนึ่งเข้าตอนที่ไปเดินซื้อของกับฝ่าบาทไท่จื่อน่ะเพคะ"

พอหยุนฉีฝูได้ยินว่าเรื่องนี้มีความเกี่ยวข้องกับเสด็จพี่ไท่จื่อของนางด้วย นางก็หยุดมือทันที แล้วขมวดคิ้วแน่น และพูดอย่างโกรธเคืองว่า "เป็นผู้ใดกันถึงได้ไม่มีตาขนาดนี้!"

เสิ่นหลีซูลู่สายตาลง สีหน้าแห่งความภาคภูมิใจก็ปรากฏขึ้นมาแวบหนึ่ง นางอยู่ร่วมกันกับหยุนฉีฝูมานานมาก และนางก็รู้จักหยุนฉีฝูเป็นอย่างดี!

นางจึงรู้ว่าพูดอย่างไรถึงจะสามารถทำให้เธอโกรธจนไม่สามารถยั้งอารมณ์เอาไว้ได้

"ก็ไม่ใช่คนที่มีความสำคัญอะไร แต่คำพูดฟังไม่เข้าหูมากเลยนะเพคะ" เสิ่นหลีซูพูด

สีหน้าของหยุนฉีฝูแย่ยิ่งกว่าเดิมแล้ว! คำพูดที่ฟังไม่เข้าหูคือคำไหน? หรือว่าเสด็จพี่ไท่จื่อของนางถูกคนสบประมาทเหยียดหยามไปเสียแล้ว? !

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาหมอเซี่ยจินอาน