แต่ว่าองค์ชายห้าหยุนจุนเย่ามีนิสัยเจ้าเล่ห์แต่กำเนิด ตอนนี้เพื่อที่จะได้รับความประทับใจต่อหน้าฮ่องเต้ กลับว่าพยายามแสดงออกมาอย่างสุดความสามารถ
คำพูดนี้ของหยุนฝู้เฉินทำให้คนเขาโกรธจนใบหน้าแดงก่ำ กลับว่าไม่สามารถคัดค้านได้
ในแง่ของผู้อาวุโสในครอบครัวเขาเป็นญาติผู้ใหญ่ ในฐานะที่เป็นรุ่นหลังแน่นอนว่าไม่มีสิทธิ์มาสั่งสอน
ในใจของหยุนฝู้เฉินมีเรื่องสำคัญ ไม่ต้องการเข้าไปเกี่ยวพันกับเรื่องเล็กน้อยพวกนี้กับพวกเขา พูดตรงๆออกไปว่า : "แม้ว่าเซี่ยจินอานสามารถไปบริเวณแนวตะเข็บชายแดนที่ติดกับศัตรูได้เพียงลำพัง แต่ว่าเรื่องของการขายชาติเกิดขึ้นในเทศกาลไหว้พระจันทร์ แต่ว่าวันนั้น เซี่ยจินอานยังอยู่ในหมู่บ้านชนบท"
"ทำไมเจ้าถึงตัดสินว่าวันนั้นเซี่ยจินอานยังอยู่ที่หมู่บ้านชนบท?" หยุนเทียนยิ่นพูดถาม
"เพราะว่ากระหม่อมหาพยานบุคคลเจอแล้ว!" หยุนฝู้เฉินพูดกล่าว
เมื่อพูดคำนี้ออกมา กลับว่าที่ท้องพระโรงเกิดการถกเถียงขึ้นมาแล้ว
เรื่องขายชาติในตอนแรก ทำให้ราชวงศ์ฉีสุ้นเสียทหารไปสามแสนนาย สูญเสียสามคูเมืองและกำแพงเมือง นี่สำหรับผู้คนแล้วเป็นการโจมตีที่หนักหน่วง !แต่ว่าตอนนั้นคดีถูกตัดสินเร็วเกินไป โยนข้อกล่าวหาให้เซี่ยจินอานเลย
ตอนนั้นพวกเขาทุกคนต่างก็เชื่อกันหมด แต่คิดไม่ถึงว่าวันนี้สถานการณ์พลิกผัน!
สีหน้าของหยุนเทียนยิ่นจริงจังทันที พูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า : "นำตัวประกันเข้ามา"
หลังจากนั้นไม่นาน หญิงสาวชนบทที่สวมใส่เสื้อผ้าหยาบเดินขึ้นมาแล้ว เดินเข้ามาด้วยท่วงท่าที่ไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ ร่างกายสั่นคลอนเพราะความหวาดกลัว
วันนี้นางต้องเจอฝ่าบาทนะ!นี่เป็นครั้งแรกของชีวิตที่นางได้เจอฝ่าบาท!แถมยังมาในที่ที่ทันสมัยเช่นนี้
"หม่อมฉันเข้าพบฝ่าบาท" สาวชาวนาคุกเข่าลงเคาะศีรษะหนึ่งครั้งแล้ว พูดกล่าวอย่างสั่นๆ
"อยู่เพคะ แม้ว่าคุณหนูเซี่ยมักจะไม่ค่อยอยู่บ้าน แต่ว่าวันไหว้พระจันทร์วันนั้นกลับว่าอยู่" หญิงสาวชาวนาพูดอย่างมั่นใจ
"ทำไมเจ้าถึงได้จดจำได้ชัดเจนขนาดนี้?" ฮ่องเต้ถามอย่างสงสัย
"คุณหนูเซี่ยค่อนข้างน่าสงสาร ตอนที่นางมายังหมู่บ้านของหม่อมฉันก็มีอายุเพียง 6-7ขวบเท่านั้น อยู่ในกระท่อมมุงจากเพียงลำพัง ผู้ใหญ่บ้านของหม่อมฉันทนมองต่อไปไม่ไหว ก็ช่วยหาบ้านที่รกร้างให้แก่นาง เก็บกวาดสักหน่อยให้นางอยู่ อยู่ที่นี่ก็สิบปีแล้ว ใช้ชีวิตเพียงลำพังอย่างโดดเดี่ยว นิสัยของเด็กผู้หญิงคนนี้ก็กลายเป็นสันโดษ ไม่กระตือรือร้นอบอุ่นกับใคร แต่ว่าคนในหมู่บ้านก็ไม่มีใครโทษนาง มีอะไรดีๆก็จะมอบให้นางสักหน่อย วันไหว้พระจันทร์วันนั้นในปีนี้ หม่อมฉันทำขนมไหว้พระจันทร์จำนวนมาก ก็ส่งไปให้นางแล้ว คุณหนูเซี่ยรับเอาไว้ แถมยังยิ้มกับหม่อมฉันอีกด้วย นั่นเป็นยิ้มครั้งแรกของนาง หม่อมฉันจำได้อย่างชัดเจน เหมือนนางฟ้าเลย"หญิงสาวชาวนาพูดกล่าว ในน้ำเสียงก็สงสารเอ็นดูเซี่ยจินอาน
เมื่อหยุนฝู้เฉินได้ยินคำพูดเหล่านี้ นัยน์ตาก็เปลี่ยนเป็นลึกและเงียบ
สันโดษ?ไม่กระตือรือร้นอบอุ่น?
คิดถึงท่าทางที่นางถอดเสื้อเขา ไม่กล้าเห็นด้วยแบบขอไปทีจริงๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาหมอเซี่ยจินอาน
น่าติดตาอ่าน แต่ตอนหลัง จบคือจบ ขอขอบคุณที่สรุปให้...
ทุกคนไม่ต้องเสียอารมณ์ที่ตัดจบแบบนี้เข้าไปดูเรื่องนี้ในแอปเสียตังค์แล้ว...ตัดจบแบบนี้เหมือนกัน...
เรื่องนี้สนุกมากก ทั้งความฟิน ตลก ไม่ปวดตับ แต่เสียตรงที่ตอนจบ ตัดจบง่ายไป ยังมีหลายอย่างที่ไม่กระจ่าง 1. พระเอกหน้าเป็นยังไง? ทำไมต้องใส่หน้ากากตลอดเวลา หน้าตาไม่ดี? เป็นแผลเป็นบนใบหน้า? หรือเกิดจากปมอะไร 2. ครอบครัวของเซี่ยจินอาน น่าจะมีบรรยายต่ออีกหน่อย สมควรได้รับกรรมมากกว่านี้ 3. เสิ่นหลีซู องค์หญิง และหมอผู้หญิงที่ชอบพระเอก ควรบรรยายว่าจะมีจุดจบเป็นแบบไหน 4. จุดจบของฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน...
กำลังลุ้นอยู่ดีๆ ตัดจบจนปวดใจ แต่ก็ขอบคุณที่แปลให้อ่านนะคะ...
จบแบบรีบไปหน่อยเลยหรือเปล่า....สุกมาตั้งแต่ต้น..น่าจะแปลข้ามฟากไปเลยอ่ะ...
เป็นเรื่องที่สนุก เนื้อเรื่องตลก น่ารักดี แต่ตอนจบคือหักมุมจบแบบง่ายเกินไปหน่อยนะคะ...