"คำอะไร?"
ซูหยาวเอียงหัวคิดไปด้วยแล้วพูดไปด้วยว่า: "เขาบอกว่า ถ่านไม่อบอุ่นเท่าคน"
เซี่ยจินอาน:???
หมายความว่าไง นี่หยุนฝู้เฉินไม่อยากเผาถ่านแต่อยากเผาคน?
เซี่ยจินอานกำลังครุ่นคิดและจู่ ๆซูหลานที่อยู่ข้างๆนั้นก็โน้มตัวเข้าใกล้แล้วกระซิบว่า:"ใช่แล้ว เรื่องที่คุณหนูให้ข้าจับตาดูการเคลื่อนไหวของในลาน ช่วงนี้บ่าวไม่พบอะไรที่ผิดปกติเลยเจ้าค่ะ"
เซี่ยจินอานก็ถูกดึงดูดความสนใจทันที นางครุ่นคิดไปครู่หนึ่ง
คงจะตระหนักถึงการเคลื่อนไหวทางด้านนางแล้วสินะ เอาแต่จับตามองดูอีกฝ่ายพวกเขาก็คงจะไม่กล้าทำอะไรแน่ ใช้วิธีล่อเสือออกจากถ้ำดีกว่า
"อืม งั้นก็ไม่ต้องจับตามองแล้ว"
เซี่ยจินอานกล่าวจบก็หันหลังเดินออกจากห้องและกลับเข้าห้องนอนของตัวเองโดยตรงเลย ตอนนี้ทั้งตัวของนางนั้นมีแต่กลิ่นคาวเลือด จึงรีบให้ซูหลานและอีกคนต้มน้ำและอาบน้ำ จากนั้นก็นอนลงบนเตียงเลย
ส่วนจุดประสงค์ที่หยุนฝู้เฉินให้คนมาส่งถ่านนั้น ก่อนนอนเซี่ยจินอานก็คิดแล้วว่าจะตอบแทนเขาอย่างไร วันไหนกลับไปค่อยไปช่วยเขาตรวจสุขภาพร่างกายละกัน เพื่อเขามีความคิดที่อยากเผาคนจริง
อีกด้านหนึ่ง----
ภายในจวนเซ่อเจิ้งหวาง หยุนฝู้เฉินที่พึ่งกลับมาจากข้างนอกนั้นรอบตัวเย็นไปหมด และพึ่งเดินเข้าไปในลาน ก็เสวียนเฟิงเดิมมาอย่างเร่งรีบและบอกว่า: "ท่านอ๋อง ข้าน้อยได้สั่งให้คนนำถ่านไปส่งที่จวนเซี่ยแล้ว"
เขายังบอกให้คนบอกเป็นนัยให้คุณหนูเซี่ยด้วย! คิดว่าคุณหนูเซี่ยคงเข้าใจน้ำใจของท่านอ๋องแล้วสินะ?
"อืม"
หยุนฝู้เฉินตอบอย่างเฉยชาและไม่ได้หยุดเดิน
"ใช่แล้วท่านอ๋อง ข้าน้อยได้ยินมาว่าคุณหนูเซี่ยถูกลอบสังหารที่ประตูพระราชวัง"
เมื่อได้ยินคำนี้ หยุนฝู้เฉินก็หันหลังกลับมาอย่างเร็ว สีหน้าเย็นชา ดวงตากระหายเลือด และภายใต้แสงสะท้อนของแสงจันทร์นั้นหน้ากากอสูรดุร้ายก็ดูเย็นชาเป็นพิเศษ เหมือนดั่งปีศาจที่หยุดนิ่ง
"นางได้รับบาดเจ็บหรือไม่?"
ความอาฆาตในน้ำเสียงนี้ทำให้เสวียนเฟิงกลัวจนขาสั่น ก้มหน้าและกล่าวต่อว่า: "โชคดีที่ไม่ได้เป็นไร
คุณหนูเซี่ยได้กลับไปยังจวนแม่ทัพอย่างปลอดภัยแล้ว"
"หาผู้ที่อยู่เบื้องหลังเจอหรือยัง?"
"ทูลท่านอ๋อง คือไท่จื่อขอรับ"
เมื่อหยุนฝู้เฉินได้ยินคำนี้ ก็กำหมัดไว้แน่นๆ ในดวงตานั้นมีแสงสีแดงเล็กน้อย แต่เพียงครู่หนึ่งก็สลายไปแล้ว เพียงแต่ว่าบนหน้ากากนั้นเหมือนถูกปกคลุมไปด้วยหิมะพันปีที่ยังไม่ละลาย เหน็บหนาวจนทำให้ไม่อาจเข้าใกล้
"สี่องครักษ์คนสนิทเทียน ตี้ เสวียน หวง ออกไปกับข้า"
มองดูสีหน้าที่จริงจังของเพ้ยจิ่วชวน สีหน้าของเซี่ยจินอานก็เริ่มจริงจังขึ้น ในใจมีการคาดเดาที่คลุมเครือเกี่ยวกับการสนทนานี้อยู่เล็กน้อย
"ได้"
นางสั่งให้ซูหยาวและอีกคนให้ทั้งสองเฝ้าอยู่นอกประตู แล้วพาเพ้ยจิ่วชวนข้ามธรณีประตูเข้าไปในห้องโถงและนั่งลงบนที่นั่งสูง
"เจ้าจะพูดอะไร ก็พูดมาตรงๆเลย"
ดวงตาทั้งสองเพ้ยจิ่วชวนจ้องมองนาง และก็พูดว่า:"ประมุข ช่วงนี้ข้าน้อยได้แอบสืบท่านอยู่เสมอ"
สีหน้าของเซี่ยจินอานอึ้งไปแป๊บ จากนั้นก็ยิ้ม:"ผลเป็นไงบ้าง?"
"ข้าน้อยสงสัยว่าท่านไม่ใช่ประมุข แต่ข้อมูลทั้งหมดที่ตรวจสอบออกมาก็ชี้ให้เห็นว่าท่านก็คือเซี่ยจินอาน และไม่ได้ถูกคนอื่นสวมรอย"
เพ้ยจิ่วชวนก้มหัวลงมองดูน้ำในถ้วย ตอนนี้ถ้วยนี้ใส่น้ำถ้วยนี้ไว้ แต่ถ้วยถัดไปก็สามารถเปลี่ยนเป็นถ้วยใหม่ได้แล้ว
"แน่นอนว่าข้าไม่ได้ถูกใครสวมรอยอยู่แล้ว เพราะในใต้หล้านี้ไม่มีผู้ที่มีใบหน้าที่เหมือนกันอยู่แล้ว"
เซี่ยจินอานดื่มชาด้วยสีหน้าที่สงบ เพราะใครจะไปคิดได้ว่าดวงวิญญาณของร่างนี้นั้นได้ถูกเปลี่ยนไปแล้ว
"แต่ข้ารู้ว่า เจ้าไม่ใช่นาง"
เพ้ยจิ่วชวนกล่าวอย่างมั่นใจ เงยหน้าขึ้นแล้วกล่าวอย่างเย็นชาว่า "เจ้าเป็นใครกันแน่?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาหมอเซี่ยจินอาน
น่าติดตาอ่าน แต่ตอนหลัง จบคือจบ ขอขอบคุณที่สรุปให้...
ทุกคนไม่ต้องเสียอารมณ์ที่ตัดจบแบบนี้เข้าไปดูเรื่องนี้ในแอปเสียตังค์แล้ว...ตัดจบแบบนี้เหมือนกัน...
เรื่องนี้สนุกมากก ทั้งความฟิน ตลก ไม่ปวดตับ แต่เสียตรงที่ตอนจบ ตัดจบง่ายไป ยังมีหลายอย่างที่ไม่กระจ่าง 1. พระเอกหน้าเป็นยังไง? ทำไมต้องใส่หน้ากากตลอดเวลา หน้าตาไม่ดี? เป็นแผลเป็นบนใบหน้า? หรือเกิดจากปมอะไร 2. ครอบครัวของเซี่ยจินอาน น่าจะมีบรรยายต่ออีกหน่อย สมควรได้รับกรรมมากกว่านี้ 3. เสิ่นหลีซู องค์หญิง และหมอผู้หญิงที่ชอบพระเอก ควรบรรยายว่าจะมีจุดจบเป็นแบบไหน 4. จุดจบของฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน...
กำลังลุ้นอยู่ดีๆ ตัดจบจนปวดใจ แต่ก็ขอบคุณที่แปลให้อ่านนะคะ...
จบแบบรีบไปหน่อยเลยหรือเปล่า....สุกมาตั้งแต่ต้น..น่าจะแปลข้ามฟากไปเลยอ่ะ...
เป็นเรื่องที่สนุก เนื้อเรื่องตลก น่ารักดี แต่ตอนจบคือหักมุมจบแบบง่ายเกินไปหน่อยนะคะ...