ตอนที่104ทำข้อตกลง
หลังจากที่รับคำสั่งจากฮ่องเต้เจียเฉิง ว่าต้องตามหาตัวเวินอ๋องให้พบนั้น เริ่มแรกโม่ฉีหมิงก็ได้ไปที่ตำหนักของเวินอ๋อง จากนั้นก็ตรวจค้นทุกพื้นที่ทุกซอกทุกมุม แต่สุดท้ายก็ไม่พบข่าวคราวของเวินอ๋องเลย แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เขาหยุด
ทุกคนต่างก็ไม่เข้าใจว่าเหตุใดโม่ฉีหมิงต้องทำเช่นนี้ด้วย ในใจของโล่หวินหลานได้แต่คาด หรือเป็นเพราะว่าต้องการทำให้ตำหนักของเวินอ๋องวุ่นวาย แล้วโมโหกลับมา แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ทำให้เวินอ๋องโมโหจนทนไม่ได้ เขาไม่เพียงไม่กลับมา แต่ไม่มีข่าวคราวอันใดเลย
"ท่านอ๋อง ตอนนี้เราก็ได้ตามหาทั้งเมืองหลวงแล้ว แต่ก็ไม่พบร่องรอยของเวินอ๋องเลย บางทีท่านเวินอ๋องอาจจะออกไปจากเมืองหลวงแล้วก็ได้" ในมือของสวินโม่มีจดหมายนับไม่ถ้วนที่ส่งให้กับนกพิราบ กำลังรอการตอบกลับมา จากนั้นก็รีบบอกความคืบหน้าให้กับโม่ฉีหมิง
โม่ฉีหมิงวางมือไว้ด้านบน ชายเสื้อที่ยาวของเขาพริ้วไหวไปตามแรงลม เขาเปิดกระดาษขึ้นอ่าน สีหน้าของเขาไม่มีอารมณ์ใดๆ จากนั้นก็เผากระดาษนั้นกับเปลวไฟจากเทียนที่จุดเอาไว้
"คนที่ตั้งใจซ่อนตัว ไม่ไว้จะหาอย่างไรก็ไม่มีวันพบหรอก นอกจากจะมีหนทางให้เขาปรากฏตัวขึ้นมาเอง" โม่ฉีหมิงพูดเสียงเรียบ แววตาของเขามองไปยังสวินโม่ที่นั่งไว้
สวินโม่ครุ่นคิดสักพัก แววตาของเขานิ่งเฉย“ท่านอ๋อง ข้ารู้แล้วว่าเราควรทำอย่างไร"
เขาติดตามโม่ฉีหมิงมานาน ทำให้สวินโม่พอจะเดาได้ว่าเขาคิดอย่างไร โล่หวินหลานมองหน้าสวินโม่อย่างสงสัย ไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่
ยังไม่ทันได้เดินออกไป พ่อบ้านก็รีบวิ่งเข้ามาพูดแทรกพวกเขาทั้งสอง เขายืนนิ่งอยู่ตรงหน้าของโม่ฉีหมิงแล้วรีบพูดขึ้น“ท่านอ๋อง มีหญิงชายแปลกหน้ายืนอยู่ด้านนอกพวกเขาต้องการที่จะพบท่าน ชายหนุ่มคนนั้นเขาแบกสมุนไพรมาขอโทษท่าน แต่ว่าหญิงอีกนางที่มาด้วยนั้นดูไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่ นางจับที่ท้องด้านซ้ายของนางอยู่ตลอดเวลา และยังบอกอีกว่าหากท่านอ๋องไม่ไปพบพวกเขา ก็ให้ข้านำสิ่งนี้ให้ท่านอ๋องดู"
หลังจากที่ท่านอ๋องพูดจบ ก็นำกระดาษที่ด่องห้วนมอบให้กับโม่ฉีหมิง
คนที่ต้องการจะพบคือด่องห้วนและด่องหย่าแน่ๆ โล่หวินหลานมองไปทางสวินโม่ แววตาของนิ่งๆ เหมือนไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก ด่องห้วนมาขอโทษถึงที่นี่ แสดงว่าเขาต้องรู้แล้วว่าตนเองเข้าใจผิดแล้วทำร้ายโล่หวินหลาน เสียดายที่นางพยายามจะปิดบังโม่ฉีหมิง ตอนนี้ทุกอย่างก็จะเปิดเผย
โม่ฉีหมิงเปิดกระดาษขึ้นอ่าน บนนั้นเขียนประโยคสั้นๆไว้
"สวินโม่ เจ้าอย่าพึ่งไป พ่อบ้าน เรียกพวกเขาเข้ามา" โม่ฉีหมิงเก็บกระดาษเอาไว้ จากนั้นก็เอ๋ยปากรับสั่ง
ด่องหย่ากับด่องห้วนนัน้คือคนที่เขาและโล่หวินหลานพบเจอตอนที่ไปท่องเที่ยวที่เมืองอู ไม่คิดเลยว่าวันนี้จะได้พบเจออีก
โล่หวินหลานกระชับผ้าพันคอของนาง นางไม่ได้มองดูสีหน้าของโม่ฉีหมิงเลย แล้วค่อยๆยกชาเข้าไป
ไม่นาน ด้านนอกก็มีเสียงเท้าเดินเข้ามา ประตูถูกเปิดออก ด่องห้วนก็ปรากฏกายขึ้นมาต่อหน้าทุกคน เขาสวมชุดสีดำ สะพายสมุนไพรเอาไว้ ใบหน้าเรียบเฉย แล้วเดินตรงมาที่ห้องหนังสือ ด้านหลังของเขามีด่องหย่าที่เดินเข้ามาอย่างไม่ค่อยยินดีนัก ตั้งแต่เดินเข้ามานางเอาแต่พื้น ไม่กล้าสบตาใครเลย
"ทำความเคารพหมิงอ๋อง พระชายา" ด่องห้วนคุกเข่า จากนั้นก็ดึงด่องหย่าลงมาด้วย ทั้งสองคุกเข่าตรงหน้าของโม่ฉีหมิง
ด่องห้วนเองตกใจมาก ครั้งที่แล้วที่เขาพบเจอท่านหมิงอ๋องนั้นเขายังต้องอาศัยรถเข็นในการเดิน แต่ตอนนี้ท่านอ๋องสามารถลุกขึ้นยืนได้แล้ว ข่าวลือต่างก็พูดกันหนาหูว่าเขาไม่สามารถเดินได้มาสิบปีแล้ว ไม่ว่าจะหาหมอดีจากที่ไหนก็ไม่สามารถรักษาเขาได้ แต่ตอนนี้เขากลับยืนอยู่ตรงหน้าของเขา
โม่ฉีหมิงปรายตามองทั้งสอง นอกจากครั้งที่แล้วที่พบเจอกันที่เมืองอู ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกัน นัยน์ตาสีดำมองไปยังด่องห้วน แล้วพูดขึ้น“คุณชายด่อง ท่านอย่าทำเช่นนี้ข้ามิอาจรับไว้ได้"
ด่องห้วนก้มหน้าลงมองพื้น มีเงาของทั้งสองสะท้อนมาที่พื้น เขาครุ่นคิดอยู่ในใจ หรือว่าโม่ฉีหมิงจงใจถามเช่นนี้? หรือเขาไม่รู้จริงๆ?
ในใจของเขากำลังคิดหาคำตอบ ถึงแม้ว่าจะไม่รู้ว่าท่านอ๋องจะตกลงหรือไม่ แต่ก็ถามขึ้น“ท่านอ๋อง ข้าขอคุยกับท่านตามลำพังได้หรือไม่?
โม่ฉีหมิงพยักหน้า แล้วโบกมือเป็นความหมายให้คนอื่นๆออกไป แต่กลับให้โล่หวินหลานอยู่ต่อ เพราะเขาไม่มีอะไรต้องปิดบังนาง และไม่มีความจำเป็นต้องปิดบังนางด้วย
หลังจากที่ทุกคนออกไปแล้วนั้น ภายในห้องก็เงียบขึ้นมาทันที ด่องห้วนก็ถูกเรียกให้ลุกขึ้น เขาเองก็ยังเป็นห่วงด่องหย่าจึงช่วยพยุงด่องหย่าขึ้นมา“ท่านอ๋อง เรื่องเมื่อวานที่เกิดขึ้นนั้นเป็นความผิดของข้าเอง ข้าไม่ควรที่จะหวาดระแวงความสามารถทางด้านการแพทย์ของพระชายา และไม่ควรที่จะทำร้ายนาง วันนี้ข้ามาที่นี่เพื่อมาขอโทษท่าน"
โม่ฉีหมิงเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง เขามองไปยังโล่หวินหลาน เมื่อวานต้องเกิดเรื่องขึ้นแน่ๆ แต่นางจงใจที่จะปิดบังเขา หากวันนี้ด่องห้วนไม่มาที่นี่ เขาก็จะเป็นเพียงกบในกะลา
"ท่านอ๋อง ตอนนี้มีเพียงท่านเท่านั้นที่สามารถช่วยพวกเราได้ ข้าได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของท่านมาช้านาน ถึงแม้ว่าท่านจะร่างกายไม่สู้ดีนัก แต่ทุกอย่างที่ท่านทำนั้น มีชื่อเสียงไปทั่วก้องหล้า ข้าเองก็ชื่นชมท่านนัก ตอนนี้ท่านพ่อของข้าป่วยหนัก เมืองอูก็ถูกเจ้าเมืองอื่นๆจ้องจะเล่นงาน พวกเขาต้องการที่จะให้อาหย่าตาย ข้าไม่มีทางเลือกเพียงแต่สิ่งที่ข้าทำนั้นก็เพื่อเมืองอู ข้ามาที่นี่เพื่อหวังให้ท่านช่วยพวกเราสักครั้ง!”ด่องห้วนร่ายยาว
นี่เป็นครั้งแรกที่ด่องหย่าเห็นด่องห้วนเป็นเช่นนี้ ไม่ว่าจะเวลาใดก็ตาม ด่องห้วนก็จะดูมีอำนาจเก่งกาจทุกครั้ง เขาสามาถรับสั่งให้ทหารเชื่อฟังเขาได้ ให้ทุกคนฟังสิ่งที่เขาพูด ถึงแม้ว่าบางครั้งอาจจะเข้มงวดไปบ้าง แต่นี่ก็เพราะเขารักและเป็นห่วงนาง ครั้งนี้ด้วยสาเหตุที่ท่านพ่อป่วย ในเมืองเองก็มีคนเริ่มคิดแผนการที่ไม่ดี เขามาที่นี่ก็เพื่อที่จะขอร้องให้โม่ฉีหมิงช่วย
แต่คนเย็นชาอย่างโม่ฉีหมิง จะยอมช่วยพวกเขาได้อย่างไร?
"ท่านพี่ ลุกขึ้นเถอะ พวกเราไปกัน ใต้ฟ้านี้มีคนอีกตั้งมากมาย เหตุใดจึงต้องขอร้องเขาด้วย?" ด่องหย่าพยายามที่จะลากด่องห้วนออกไป แต่กลับถูกเขาสะบัดมือทิ้ง
"หลบไป เจ้าเป็นผู้หญิงจะไปรู้อะไรเล่า!” ดวงตาของด่องห้วนเริ่มแดง เขายังคงคุกเข่า
โล่หวินหลานเองก็ไม่ได้พูดอะไร รอเพียงการตัดสินใจของโม่ฉีหมิง แต่นางก็หวังให้โม่ฉีหมิงช่วยพวกเขา เพราะมันก็ไม่ได้ทำให้ตนเองเดือดร้อนอะไร
เพียงแต่ ด่องหย่าเหมือนคนที่สติไม่ดี นางมองโล่หวินหลานด้วยแววตาที่ดร้าย ลืมไปว่าเมื่อวานคนที่ช่วยชีวิตนางก็คือโล่หวินหลาน นางเอาปิ่นบนผมออกแล้วพุ่งไปหาโล่หวินหลานเพื่อที่จะฆ่าดวงใจของโม่ฉีหมิง
โม่ฉีหมิงมองดูสิ่งที่ด่องหย่าทำ นางกำลังรนหาที่ตายชัดๆ ขณะที่เขากำลังจะเข้าไปห้าม ก็ได้ยินเสียงโลหะทิ่มไปบนเนื้อ ภาพที่เห็นคือด่องห้วนมารับปิ่นที่กำลังพุ่งเข้ามาแทนโล่หวินหลาน ปิ่นนั้นปักลงไปลึกบนไหล่ของเขา
เลือดสีแดงสดไหลลงตามมือของด่องหย่า โชคดีที่นางไม่ค่อยมีแรงมากนักและของที่ใช้ก็เป็นแค่ปิ่น จึงทำให้ลมหายใจของด่องหย่าไม่คงที่ก็เท่านั้น แต่เขาก็ยังคงมีสติครบถ้วน เขาคุกเข่าลงอีกครั้ง
"ท่านอ๋องได้โปรดช่วยพวกเราด้วย!”
เขาไม่ได้ต้องการให้โม่ฉีหมิงมาช่วยเพื่อได้ตำแหน่งผู้ครองเมือง และไม่ต้องการให้โม่ฉีหมิงสังหารคนพวกนั้น เพียงแต่เขาต้องการทำตามคำมั่นสัญญาของตนเองที่เขาเคยพูดเอาไว้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก