ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก นิยาย บท 120

ตอนที่120ดื้อรั้นเพราะว่ารัก

นางพูดว่าเร็วเกินไปมันแปลว่าอะไร?เพราะว่านางไม่อยากหรือไม่ได้เตรียมพร้อม?

โล่หวินหลานรู้ว่าคำพูดของนางบาดใจเขามากแต่ว่านางไม่สามารถปล่อยชีวิตของโลกปัจจุบันของนางไปได้ลืมทุกอย่างไปแล้วใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ตลอดไป

“ข้าไม่ได้คิดอะไรก็แค่เร็วเกินไป”โล่หวินหลานกัดปากตัวเองพูดอะไรที่ไม่ตรงกับปากตนเอง

ใจของโม่ฉีหมิงค่อยๆรู้สึกแย่ถึงแม้สีหน้าของเขาเหมือนจะไม่เป็นไรแต่ว่าข้างในจิตใจโกรธตั้งนานแล้ว

“ดีงั้นข้าจะให้เวลาเจ้า ถ้าเจ้ารู้สึกว่ามันเร็วเกินไปข้ารอได้รอถึงเวลาที่เจ้าเต็มใจ”เขาค่อยๆปล่อยมือของตัวเองออกจากเอวของนางน้ำเสียงฟังดูเย็นชา

คำพูดของเขาทำให้ล่หวินหลานฟังแล้วเหมือนจะทรมานนางพยายามทำอารมณ์ของตัวเองให้สงบและควบคุมฝีเท้าของนางเดินจากไป

ดูจากเงาของนางที่เดินจากมาก่อนโม่ฉีหมิงแค่รู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกบีบคอจนหายใจไม่ออกอากาศในปอดของตนเริ่มหมดไป

ในค่ำคืนที่แสนดึกลมแรงจากข้างนอกกำลังพัดแล้วกระทบหน้าต่างทำให้มีเสียงดังขึ้นเป็นพักๆโล่หวินหลานนอนมุดตัวอยู่บนเตียงไม่ขยับเลย

ในสมองของนางรื้อฟื้นขึ้นแต่สีหน้าที่โม่ฉีหมิงเป็นวันนี้และคำพูดที่ฟังดูไม่สบายของเขานางไม่รู้ว่าตนเองทำผิดหรือไม่แต่ว่านางไม่สามารถตอบรับคำขอจากเขาได้นางค่อยๆยื่นมือออกมาลูบหน้าท้องของตนถ้าที่นี่มีชีวิตน้อยๆขึ้นมา……

“ปึ๋ง”เสียงเดียวประตูถูกผลักออกมาร่างสูงใหญ่ของโม่ฉีหมิงกระทบกับฟ้ามืดๆข้างนอกค่อยๆเดินเข้ามาประตูทั้งสองบานถูกลมพัดไปพัดมาทำให้เกิดเสียงตีไปตีมาโม่ฉีหมิงเดินเซไปเซมาเข้าประตูหลังแล้วปิดประตูลง

“หวินหลานหลับหรือยัง?”เขาตั้งใจกดเสียงให้ต่ำลงแล้วพูดขึ้น

ผ่านไปสักพักก็ไม่ได้ยินโล่หวินหลานออกเสียงใดๆเขาพยายามเดินเสียงเบาและเดินไปข้างเตียงมองเรือนร่างที่กำลังนอนขดตัวอยู่มือใหญ่ๆของเขาค่อยๆจับนาง

จูบที่เต็มไปด้วยกลิ่นเหล้าทำให้ริมฝีปากของนางเปียกนางที่ยังหลับไม่ลึกถูกลิ้นอันดุร้ายของเขาเข้ามาให้โพรงปากของนางอย่างอยู่ไม่เป็นสุขนางยื่นมือไปผลักแผงอกเขาแต่เขาเหมือนภูเขาที่ผลักยังไงก็ผลักไม่ออก

จนกว่าอากาศในปอดของนางใกล้หมดเขาถึงจะถอนจูบตนออก

“หวินหลานเจ้าต้องจำไว้เจ้าเป็นพระชายาของข้าชีวิตนี้นอกจากข้าแล้วอย่าคิดไปรักผู้อื่นถ้าจะมีลูกเลี้ยงบุตรก็ต้องกับข้าเท่านั้นเข้าใจไหม?”เสียงที่เต็มไปด้วยความอันตรายและการตักเตือนส่งมาข้างหูของนาง

“เจ้าดื่มมาหรือไง?”โล่หวินหลานขมวดคิ้วเป็นปมแล้วออกห่างจากเขาแต่ว่าตัวของนางแค่ขยับเบาๆเขารีบจับคางนางไว้และดึงนางเข้ามาอยู่ต่อหน้าเขา

“ตอบข้ามาก่อนเจ้าเข้าใจหรือยัง?”โม่ฉีหมิงทำน้ำเสียงโหดร้ายดังข้างหูนาง

คางที่ถูกเขาจับไว้เจ็บมากๆเหมือนกำลังต่อสู้โล่หวินหลานอดทนต่อความเจ็บปวดมองตาของเขาไว้และพูดด้วยความลำบาก“เจ้าจะให้ข้าเข้าใจอะไร?ข้าไม่ได้ตั้งใจมาที่นี่เพื่อคลอดลูกเลี้ยงบุตรให้เจ้าได้สืบทอดทายาทตอนที่ข้าไม่อยากและไม่ยอมไม่มีใครมาบังคับข้าได้หญิงอื่นมากมายที่อยู่ข้างนอกก็สามารถทำเพื่อเข้าได้”

ใจของโม่ฉีหมิงเหมือนกำลังถูกบีบจนสลายจนรู้สึกทรมาน เขาได้ยินเสียงในใจที่กำลังแตกสลายในใจยิ่งอยู่ยิ่งแย่ไม่รู้จะเป็นอย่างนี้อีกนานแค่ไหน”ร่างของเขาได้ลุกขึ้นยืนร่างที่สูงใหญ่จ้องมองนางอยู่ข้างเตียง

“เจ้าไม่เข้าใจจริงๆหรือไง?หญิงสาวเยอะขนาดนั้นโล่หวินหลานตอนที่เจ้าพูดคำพูดพวกนี้เคยมีจิตใต้สำนึกไหม?นี่เป็นคำพูดจากใจจริงหรือ?”โม่ฉีหมิงพูดเป็นคำๆมาเขาไม่เคยสัมผัสถึงความรู้สึกที่อะไรมาจะยากขนาดนี้มาก่อนเลย

“ไม่ไม่ใช่……”โล่หวินหลานรู้สึกว่าตัวเองพูดผิดไปสักทีนางจับปลายเสื้อของเขาไว้อย่างตึงเครียดแต่ว่าเขาหลบหน้าหนี

“งั้นคืออะไร?อย่าบอกข้าว่าเจ้าพูดคำพูดแบบนี้ออกมาเพราะโกรธเจ้าไม่อยากและไม่ยอมงั้นข้าเคยบังคับทำอะไรไหม?”

เหมือนอากาศกดลงโล่หวินหลานจับปลายเสื้อของเขาไว้แน่นๆไม่รู้ว่าใช้แรงแค่ไหนนางเองยังสัมผัสไม่ได้

หายใจไม่สะดวกปอดสูดอากาศไม่เข้าคำพูดที่อยากพูดกลับติดไว้ในคอพูดไม่ออกสักคำ

เขาเหมือนจะรอไม่ไหวแล้วสายตาที่ผิดหวังสะท้อนอยู่ในนัยน์ตาของนางอย่างทุกข์ทรมานนางก็ได้แต่มองเงาของเขาจากไปและหายไปในที่มืด

“อย่าไป……”เสียงนางสั่นไหวไม่มีใครได้ยินเสียงอันอ่อนเบาของนาง

“ล้อเล่นอะไรเจ้าจะบอกเจ้า เจ้าจะแต่งหรือไม่แต่งก็ต้องแต่งเจ้าไม่มีทางเลือกอื่น”

ในห้องโถงเต็มไปด้วยความสงบได้ยินแค่เสียงลมพัดดังจากหน้าต่างด้านซ้ายของห้องมีโต๊ะวางอยู่บนโต๊ะวางกระดาษสีแดงไว้คือเมื่อครู่ที่ผู้เฒ่าได้เตรียมมาเพื่ออธิบายการเตรียมงานพิธีสมรส

เย่เซียวหลัวใช้สายตาเย็นชามองเย่กั๋วกงแล้ะเดินมุ่งหน้าไปฟังโต๊ะตัวนั้นฉีกกระดาษสีแดงนั้น

“ท่านพ่อถ้าท่านเขียนหนึ่งชุดข้าก็จะฉีกหนึ่งชุดถ้าท่านพ่อไม่ทูลฝ่าบาทเรื่องที่ข้าไม่เห็นด้วยถือว่าชาตินี้ข้าไม่มีโชคชะตาที่ได้เป็นลูกของท่านพ่ออีกต่อไป”เย่เซียวหลัวก้มหัวลงมองกระดาษที่กระจัดกระจายไปทั่วและพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเหนื่อยๆ

เย่กั๋วกงสีหน้าเริ่มเศร้า“ลูกหลัวให้เจ้าสมรสกับองค์รัชทายาทถือว่าเป็นเรื่องดีเพื่อความเจริญของตระกูลเย่เจ้าลองคิดดูอีกหน่อยเขาก็ได้เป็นฝ่าบาทผืนแผ่นดินนี้เป็นของเขาและเจ้าก็เป็นคนของเขาเป็นฮองเฮาของคนมากมาย…..”

เย่เซียวหลัวไม่สนใจเรื่องพวกนี้และพูดแทรกเย่กั๋วกงขึ้น“ท่านพ่อท่านพ่อเคยคิดเผื่อข้าไหมชีวิตทั้งชีวิตของข้าความสุขของข้าเปรียบไม่ได้กับตำแหน่งฮองเฮาหรือ?สิ่งที่ท่านพ่อต้องการคือคนในครอบครัวหรืออำนาจที่กินไม่ได้กันแน่?ข้าไม่เคยรู้เลยว่าท่านพ่อจะเป็นคนแบบนี้ข้าผิดหวังจริงๆ”

“เพี๊ยะ”เสียงดังอย่างชัดเจนในห้องนี้เย่เซียวหลัวจบหน้าแดงๆที่เป็นรอยตบไว้ในใจของนางเต้นตึกๆ

เสียงพูดจบประตูก็ถูกผลักออกเย่วิ๋นกว่างปรากฏขึ้นตรงประตูเย่กั๋วกงมองเขาด้วยความแปลกใจที่แท้ไอ้นี่มันหลบอยู่ที่นอกประตูคอยแอบฟังอยู่ตลอดเวลาเขาถึงได้มองไม่ได้

เย่วิ๋นกว่างยื่นมือไปพยุงเย่เซียวหลัวไว้มองหน้าแดงๆของนางและรู้สึกเจ็บใจเบาๆและยิ้มหวานๆมองเย่กั๋วกง“ท่านพ่อใจเย็นลงหน่อยท่านพ่อข้าจะคุยกับน้องสามเองน้องสามต้องฟังข้าแน่นอน”

เย่เซียวหลัวหลบอยู่อ้อมกอดเขาอย่างเงียบๆตั้งแต่เล็กจนโตมีแค่อ้อมกอดนี้ที่อบอุ่นใส่ใจและเป็นที่พึ่งมากที่สุดพวกเขารู้สึกอย่างนี้มาโดยตลอดเขามักจะออกตัวปกต้องนาง

เย่กั๋วกงก็รู้ว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองดีมากรู้ว่าเย่เซียวหลัวฟังแค่เย่วิ๋นกว่างแค่ก่อนที่เขาจะจากไปจ้องตาเย่วิ๋นกว่างไว้เตือนให้เขาอย่าพูดอะไรไปเรื่อยเปื่อย

พาเย่เซียวหลัวออกไปตรงสวนอย่างเร่งรีบและควักสิ่งของสี่เหลี่ยมที่ห่อด้วยกระดาษสีเหลืองพอแกะออกก็คือขนมพายอย่างนึงปรากฏค่อหน้านาง

“กินสิพายลูกท้อที่เจ้าชอบที่สุดพี่สองออกไปข้างนอกไปซื้อให้เจ้ากิน กินแล้วจะได้มีความสุขขึ้นหน่อยอย่าเป็นเพราะเรื่องนี้แล้วไม่มีความสุขเข้าใจไหม?”เย่วิ๋นกว่างใช้ความอ่อนโยนลูบผมของนาง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก