ตอนที่316 คำพูดในฝัน
โล่หวินหลานลืมเเล้วว่านี่คือครั้งที่เท่าไหร่ที่นางฝันเห็นโม่ฉีหมิง
ทุกครั้งกลางดึกเข้าสู้ช่วงความฝัน ในสมองก็จะมีภาพใบหน้าที่ไร้ความรู้สึก หรือใบหน้าที่เย็นชาของเขา
นางลืมไม่ได้ ทำได้เเค่คิดถึง ทุกครั้งที่นางจะเข้าใกล้เขา ใกล้จะอยู่ในอ้อมกอดของเขา ก็จะมือมาดันพวกเขาออกจากกันอย่างเเรง ไม่ให้พวกเขาใกล้กัน
“อย่าไป…..” โล่หวินหลานหันไปอย่างเเรง โม่ฉีหมิงก็หายไปเลย
“เป็นอะไร?” โม่ฉีหมิงได้ยินไม่ชัดเจนเกี่ยวกับคำพูดในฝันของนาง เข้าไปใกล้ๆอย่างไม่รู้ตัว
เหงื่อไหลลงมาจากหัวของโล่หวินหลาน ที่คงตัวมืดมิด เหมือนกับนรกที่กำลังค่อยๆที่จะกลืนเข้าไป
นางกอดตัวเองไว้ กอดตัวเองไว้เเน่ๆ หลับไว้ตรงมุมนึง
“ช่วยข้า….ไม่เอา….”
ในใจของโม่ฉีหมิงตกใจ นางฝันถึงอะไร ในฝันเจอเรื่องอะไร? ทำไมถึงมีเหงื่อไหลเยอะขนาดนี้? ตกลงจะให้ใครช่วยนาง?
เขายื่นมือไปจับมือเล็กๆของนาง ข้างบนมีเหงื่อที่เปียกชื้น เขารู้สึกสงสาร “หวินหลาน อย่ากลัว ข้าอยู่นี่ ไม่มีใครกล้าทำร้ายเจ้า”
เสียงของเขาเหมือนจะมีอำนาจ นางค่อยๆนิ่งลง คิ้วที่ชนกันก็ค่อยๆเเยกออกปกติ เหมือนกับหลับเจ้าไปในฝันอย่างสนิท
โม่ฉีหมิงถึงค่อยสบายใจ ผ่านไปเเล้วนะ
ตามด้วยผ้าขุนหนูร้อนที่บิดน้ำมาเช็ดเหงื่อบนหัวนาง ในขณะที่โดนหัวนาง คิ้มของนางก็ค่อยๆชนกัน รู้สึกไม่สบายอยากจะยื่นมือปัดสิ่งที่อยู่บนหัวนางออก
“อย่าขยับ” โม่ฉีหมิงจับมือนางค่อยๆวางเข้าไปผ้าห่ม บนหน้ามีรอยยิ้ม เหมือนกับตอนที่เห็นนางเท่านั้น ถึงจะเเสดงด้านที่ดีของตัวเองออกมา
“ตกลงเจ้าฝันถึงอะไรกันเเน่?” โม่ฉีหมิงถามเสียงต่ำ
เวลาผ่านไปนาน นางก็ไม่ได้พูดอะไร เหมือนกับหลับสนิทเเล้ว
มองดูนางนอนนิ่ง โม่ฉีหมิงรู้สึกว่าหลายปีมานี้ ไม่เคยสบายเเบบนี้มาก่อน
เเค่นางอยู่ข้างๆ เขาก็เหมือนกับครอบครองโลกทั้งใบ
ค่อยๆห่มผ้าห่มให้นาง โม่ฉีหมิงเก็บความรู้สึกที่มีต่อนางไม่ได้ ทับตัวเองลงไป จูบลงบนหน้าผากของนาง
เเล้วก็ออกจากห้องไป หิมะด้านนอกเหมือนกับดับความร้อนในใจเขา เเต่ก็ไม่สามารถปิดเขาอยากได้ใจของโล่หวินหลานได้
เข้าใจเเล้ว ว่าทำยังไงถึงจะเเย่งนางกลับมาคืนได้อีกครั้ง?
“ไซ่เย่ว” โม่ฉีหมิงมองไปด้านนอก พูดเสียงต่ำ
สักพัก ร่างของไซ่เย่วก็เดินออกมาจากด้านข้าง
“ท่านอ๋องมีอะไรจะรับสั่ง?” ไซ่เย่วถาม
“ช่วงนี้นางนอนไม่ค่อยหลับ ใส่ใจด้วย”โม่ฉีหมิงเหมือนไม่มีเรื่องสำคัญต้องพูด เเค่พูดคำนี้เสร็จเเล้วก็หันหลังไปเลย
ในใจของไซ่เย่วก็จำคำที่เขาพูดไว้ นานขนาดนี้เเล้ว นางถึงรู้ ว่าหมิงอ๋องที่เงียบเย็นชา จะมีเรื่องความรักเเบบนี้
ข้างนอกค่อยๆหายไปจนไม่เห็น เเค่มีหิมะที่ตกนิดหน่อย
โล่หวินหลานหันข้างนานมาก ในสมองก็มีเเต่ภาพเมื่อกี้ เขาที่อบอุ่นเอาใจใส่ ปลอบนางในฝันที่ไม่สงบ สุดท้ายก็จูบลงบนหัวของนาง
ตั้งเเต่เขาเอาผ้าขนหนูอุ่นวางลงหัว นางก็ตื่นเเล้ว ไม่อยากลืมตามาทำลายความสงบที่มียากนี้ เเละความอบอุ่นที่เขามีให้
ความอบอุ่นนี้ จะสามารถเก็บได้ถึงเมื่อไหร?
เขารู้ตัวตนที่เเท้จริงของนาง เเต่ก็ยังปฎิบัติกับนางเหมือนเดิม ไม่เคยเปลี่ยนไปเลย
ตัวของโล่หวินหลานขดอยู่ตลอด กอดเข่าของตัวเองไว้ ขดตัวไว้ในมุมของเตียง ในสมองคิดถึงภาพที่ทั้งสองเริ่มรู้จักกัน จนถึงชีวิตตอนนี้
ถึงเเม้จะเป็นคนที่รู้จักกัน เเต่ตอนนี้เวลานี้ นางก็ไม่สามารถบอกรักก็รักได้
นางยังมีเรื่องสำคัญที่ต้องทำ เเละเรื่องนี้ มีเเค่เวินอ๋องเท่านั้นที่ช่วยนางได้ เพราะฉะนั้น นางต้องเเต่งงานกับเวินอ๋อง
เกิดเรื่องเเบบนี้ขึ้นกับฮองเฮาเย่อย่างกะทันหัน เป็นการให้เวลานางวางเเผนที่ดี ก่อนที่นางจะเเต่งงานเข้าไปในตำหนักของเวินอ๋อง ควรทำยังไงให้เย่เซียวหลัวพูดเรื่องที่เกิดขึ้นในปีนั้นออกมา
นี่ต้องไปคิดดีๆ นางเชื่อว่า โม่ฉีหมิงต้องเข้าใจนาง
ทุกเช้า ในวังก็จะมีเสียงต่างๆ เสียงร้องไห้ต่างๆ สาวใช้กับขันทีทุกคนต่างก็ร้องทุกข์กัน เเต่ว่าหวายยาวๆก็ตีลงบนหลังของพวกเขาอย่างเลือดเย็น เป็นการประกาศว่าจะไม่ปล่อยเด็ดขาด
“หุบปาก อยู่ในวังห้ามร้องไห้” มีคนที่เเต่งเป็นสาวใช้คนนึงพูดอย่างโมโห
เเต่ว่า ประตูบานที่นางชี้นั้นค่อยๆปิดลง ในสวนนี้เหลือเเค่สี่คน
โล่หวินหลานจับที่อุ่นมือไว้ พูดอย่างยิ้มๆ “ฮองเฮาถูกขังในตำหนักหลิ่งกง นางสนมทั้งหมดก็ไม่ให้มาเยี่ยม ข้าคิดว่าฮองเฮาก็ยิ่งใหญ่มานาน ได้มาอยู่ในตำหนักหลิ่งกงอย่างกะทันหันคงยังไม่สะดวก ก็เลยอยากจะมาอยู่เป็นเพื่อนท่านเท่านั้นเอง”
อยู่เป็นเพื่อนนาง? ฮองเฮาเย่เงยหน้าเเล้วยิ้ม หิมะตกลงบนขนตานาง หนาวจนทำให้นางสั่น
มันน่าตลกยิ่งนัก คนอื่นอาจจะไม่รู้ถึงเป้าหมายที่นางมาครั้งนี้ เเต่ในใจของฮองเฮาเย่นั้นรู้ดี
นี่ก็คือผลกรรมสินะ!
“องค์หญิงเหอซื่อเป็นคนฉลาด มีอะไรก็พูดเถอะ ไม่ต้องมาเย้ยข้าเเบบนี้ อยู่ในตำหนักหลิ่งกงนี้ ในใจข้าก็เย็นเเล้ว ไม่มีอะไรที่สามารถมากระทบต่อใจข้าอีกเเล้ว” ฮองเฮาเย่พยายามทำให้ใจตัวเองเย็นลง
นางดูเเลคุมเรื่องในวังมานานหลายปี ไม่กลัวที่ต้องสู้กับสาวน้อยคนนึง โล่หวินหลานตอบอ่อเเค่คำเดียว “ข้าลืมไปเลยว่าฮองเฮามีใจที่น่าตกใจ จะสนใจเรื่องความต่างของตำหนักกับตำหนักหลิ่งกงทำไม ขอเเค่คนยังอยู่ ฮองเฮาท่านก็คิดว่ามีสักวันก็คงจะลุกขึ้นได้อีกครั้ง”
โดนคนเปิดโปงสิ่งที่คิดในใจ ฮองเฮาเย่กลับไม่ได้คิดอะไร เพราะมันเป็นไปตามที่นางคิดไว้
“ใช่เเล้วยังไง ขอเเค่ข้ายังอยู่ ข้าก็จะเหยียบคนอย่างพวกเจ้าไว้ใต้ข้า วันนี้พวกเจ้าวางเเผนกับข้าไว้ยังไง ต่อไป ข้าจะเอาคืนให้สาสม” ฮองเฮาเย่กัดฟันมองโล่หวินหลานด้วยความเกลียด
พูดถึงลุกขึ้นอีกครั้ง โล่หวินหลานก็เย็นชาขึ้นมา สายตาที่ดูเลือดเย็นเเล้วยิ้มขึ้นมา
“ดูเหมือนว่าฮองเฮาดูจะมั่นใจในตัวเองมาก เเต่น่าเสียดาย ที่ทั้งหมดต่อจากนี้ ต้องพึ่งท่านทำคนเดียวทั้งหมด อาจาร์ยของท่านก็คงช่วงอะไรท่านไม่ได้” โล่หวินหลานค่อยๆพูดทีละคำๆค่อยๆเข้าไปในหูของฮองเฮาเย่
ทุกคำก็ทำให้ ตาของนางก็โตขึ้น สีหน้าก็ขาวซีดลง ฝีเท้าค่อยๆถอยหลังไปหลายก้าว เหมือนกับมีอะไรกระทบที่รุนเเรงมาก
สาวใช้ที่อยู่ด้านหลังนางอยากจะไปพยุงนาง เเต่กลับถูกสะบัดออกอย่างรุนเเรง
“เจ้า เจ้าหมายความว่าอะไร? ข้าไม่เข้าใจว่าเจ้าพูดอะไร ไป ที่นี่ไม่ต้อนรับเจ้า ไป ไป!” ฮองเฮาเย่ตะคอกเสียงดัง จับประตูด้านข้างจะเดินเข้าไป
เเต่ว่า ทำไมโล่หวินหลานถึงยอมให้นางเข้ามาง่ายๆเเบบนี้ เป้าหมายที่นางมาวันนี้ ก็คือขู่ให้นางพูดออกมาเอง ว่าทำไมต้องทำร้ายตัวเองทำร้ายหมิงซี
“เมื่อยี่สิบปีที่เเล้ว เขาหวู่ซิง เจ้าไหว้หลิงซงเป็นอาจาร์ย ฝึกมารยาทเเละคิลปะป้องกันตัวก่อนเข้าวัง หลังจากนั้นสองปี ลูกศิษย์คนอื่นของเขาก็เรียนจบลงจากเขา เเต่ท่านยังอยู่ฝึกฝนต่อที่เขาหวู่ซิง ไม่รู้ว่าในเวลาสองปีที่ท่านทั้งสองอยู่ด้วยกันเกิดอะไรขึ้น ?
ข้าคิดว่า ถ้าวันหลังเขายอมตามท่านออกวัง วางเเผนการต่างๆให้ท่าน ระหว่างพวกท่านทั้งสองคนคงไม่ใช่เเค่ความสัมพันธ์ระหว่างอาจาร์ยกับลูกศิษย์
คำของโล่หวินหลานเเทงลงกลางใจของฮองเฮาเย่ทีละคำ นางพูดทุกคำ เรื่องที่เกิดขึ้นในปีนั้น
ฮองเฮาเย่หลับตาลง ไม่อยากฟังต่อ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก