ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก นิยาย บท 397

ตอนที่ 397 ความผิดใหญ่หลวง

จิ่นซื่ออีกแล้ว นอกจากแม่นางจิ่นซื่อ นางไม่รู้เลยว่าใครจะมีปัญญาเรียกองค์รัชทายาทออกไปเยี่ยงนี้ได้

เย่ฮองเฮาถอนหายใจหนักๆ อยากจะหาสองสามคนที่เชื่อใจได้มาช่วย แต่ไม่รู้ว่าควรหาใครดี

“ไม่ว่าองค์รัชทายาทจะอยู่แห่งใด ตอนนี้เจ้ารีบบอกให้คนอื่นไปทูลให้เขารีบเข้าวัง แค่เห็นองค์รัชทายาทแล้วก็บอกเรื่องที่เกิดขึ้นในวังให้เขาให้หมด” เย่ฮองเฮาคิดใคร่ครวญไปสักพัก แค่ต้องรอองค์รัชทายาทกลับจึงจะหาวิธีได้

บ่าวคนนั้นพยักหน้า เห็นนางรีบร้อนเยี่ยงนี้ จึงรีบออกไปหาคน

โล่หวินหลานก็ได้เข้าไปในห้องเรียบร้อย ต้วนกุ้ยเฟยนอนอยู่บนเตียง ในปากไม่รู้ว่ามัวแต่บ่นอะไรอยู่

บ่าวผู้หนึ่งได้ยกถ้วยยาเข้ามา และร้องขอให้นางดื่มอย่างทุกข์ใจ “เหนียงเหนียงดื่มยาหนึ่งคำเถอะเจ้าคะ”

ต้วนกุ้ยเฟยไม่สนใจนาง และกลับขดตัวอยู่ตรงมุม แล้วท่องอะไรอยู่ไม่รู้

เหมือนจะรู้ว่าจุดจบมันคือเยี่ยงไร บ่าวจึงหันกลับไปเดินออกจากที่นั่น และเอายาวางไว้บนโต๊ะข้างๆ ไม่กล้าจากไปไหน แค่ต้องรอดูนางอยู่ที่ไกลๆ

“เหนียงเหนียงกลายเป็นเยี่ยงนี้ตั้งแต่เมื่อใด?” โล่หวินหลานเดินเข้าไปตามบ่าวที่อยู่ข้างๆ

บ่าวทูลกลับด้วยเสียงต่ำ “ตั้งแต่เมื่อคืนกลายเป็นเยี่ยงนี้เจ้าคะ”

บรรยากาศในห้องรู้สึกแปลกๆหน่อยๆ ฮ่องเต้เจียเฉิงมองต้วนกุ้ยเฟยจากที่ไกลๆ เขาทำคิ้วขมวด ไม่รู้ว่าทำไมถึงเป็นเยี่ยงนี้ไปได้

ในบรรรยากาศที่เต็มไปด้วยความโดดเดี่ยวและรู้สึกกดดัน โล่หวินหลานค่อยๆเข้าใกล้ต้วนกุ้ยเฟย นางกัดนิ้วมือตนเองไว้ หัวอยู่ตรงข้างๆของเสา เดี๋ยวๆหัวของนางก็ได้ไปชนกับเสา

โล่หวินหลานหันกลับไปมองหาโม่ฉีหมิง เขาก็ยืนอยู่ที่ไม่ไกลจากนาง และพยักหน้าให้นาง

“กุ้ยเฟยเหนียงเหนียง ท่านมองข้า” โล่หวินหลานสูดลมหายใจเข้าลึกๆ และหันไปมองต้วนกุ้ยเฟย

ผู้ที่ขาดสติไปอย่างต้วนกุ้ยเฟยตอนนี้กลับตอบกลับ ผมอันยุ่งเหยิงของนางได้มีนัยน์ตาที่น่ากลัวโผล่ออกมา ทันใดนั้น นางกลับลืมตาโตขึ้นแล้วตะโกนอย่างน่าตกใจ

“ออกไป!ออกไป!ข้าไม่อยากเห็นเจ้า!บอกให้ออกไป!” ต้วนกุ้ยเฟยตะโกนเสียงดังจนน่าตกใจมาก เหมือนนางได้เจอคนที่น่ากลัวมากๆ

โม่ฉีหมิงกำมือเป็นหมัด และกำลังจะขยับเขยื้อยแต่ถ้านางกล้าทำอะไรกับโล่หวินหลาน เขาจะไม่ให้อภัยนางแน่ๆ

“กุ้ยเฟยเหนียงๆ เวินอ๋องกลับมาแล้ว ท่านไม่อยากเห็นเวินอ๋องหรือ? ท่านไม่อยากเจอเวินอ๋องหน่อยหรือ? เขาบอกว่าเขาคิดถึงท่านมากๆ และอยากจะพาท่านออกไปเดินเล่นท่องโลกข้างนอก ครั้งนี้ที่กลับมาเขาเติบโตขึ้นเยอะ” โล่หวินหลานค่อยๆกดเสียงต่ำลง เพื่อโน้มน้าวนาง

เป็นตามที่คาดการไว้ ต้วนกุ้ยเฟยได้ยินเวินอ๋องสองคนนี้ นางก็หยุดท่าทีของนางทันที และค่อยๆสงบสติลง

“เวินอ๋องกลับมาแล้วหรือ? อยู่ที่ไหน?” ต้วนกุ้ยเฟยยื่นมือออกไป และนางก็ได้ปัดผมที่บังหน้านางออก แล้วปริตามองข้างนอกมีเวินอ๋องอยู่หรือไม่

ทันใดนั้น นางก็ตะโกนขึ้นมาอย่างเสียงดัง “รีบบอกให้เวินอ๋องออกจากที่นี่เดี๋ยวนี้ นางกลับมาแก้แค้นแล้ว นางจะแก้แค้น ต้องทำร้ายเวินอ๋องแน่ๆ เจ้าบอกว่าเวินอ๋องรีบออกจากที่นี่!”

พอพูดคำนี้ออกมา ฮ่องเต้เจียเฉิงที่คอยฟังอยู่ข้างๆทำคิ้วขมวดมากขึ้น

คำๆนี้เหมือนคำพูดเมื่อคืน ต้วนกุ้ยเฟยกับเฉินเฟยเกิดอะไรขึ้นกันแน่?

มันเกี่ยวข้องกับเรื่องแต่ก่อนหรือไม่?

พอเห็นว่าเรื่องนี้มีแววขึ้นมาหน่อยๆ โล่หวินหลานจึงไม่ยอมปล่อยโอกาสนี้ไป นางจึงฉวยโอกาสเอาป้ายออกจากเอวของนาง

และเอาป้ายนั้นหมุนไปหมุนมาต่อหน้าต้วนกุ้ยเฟย และพูดขึ้นเสียงเบา “กุ้ยเฟย ตอนนี้ท่านกำลังอยู่ในทุ่งหญ้ากว้างใหญ่แห่งหนึ่ง ที่นี่เต็มไปด้วยกลิ่นหอมของดอกไม้ เวินอ๋องกำลังค่อยๆเดินเข้ามาหาเจ้า ตอนนี้เจ้ารู้สึกมีความสุขมากๆ…….”

ฮ่องเต้เจียเฉิงได้ยินคำพูดของโล่หวินหลานกลับชมวดคิ้วรุนแรงมากขึ้น แล้วมองโม่ฉีหมิงอย่างมีข้อสงสัย กำลังเตรียมจะเอ่ยปากถามอะไรบางอย่าง แต่กลับสังเกตเห็นว่าสายตาของเขาจดจ่ออยู่บนตัวของโล่หวินหลาน

จ้าวกงกงจับจ้องฮ่องเต้เจียเฉิงตลอดเวลา เห็นเขากำลังจะเอ่ยปากถาม จึงทูลถามเขาก่อน “ฮ่องเต้ขอรับ ท่านเป็นอะไรหรือไม่ขอรับ?”

“เจ้า เจ้าว่าองค์หญิงเหอซื่อกำลังท่องอะไรอยู่?” ฮ่องเต้ถามขึ้นอย่างไม่เข้าใจและสงสัย

จ้าวกงกงก็ไม่รู้ด้วยเช่นกัน แต่ว่าถ้าฮ่องเต้เป็นคนถาม ไม่ตอบไม่ได้ จึงลังเลไปสักพัก แล้วค่อยทูลกลับ “บ่าวคิดว่านี่น่าจะเป็นวิธีการสะกดจิตอย่างหนึ่ง ฮ่องเต้ขอรับ ท่านดูไปก่อนก็จะรู้เองขอรับ”

พึ่งพูดจบ ข้างๆพวกเขาก็ได้เงียบเหงาขึ้นทันที มันเงียบสงบจนทำให้คนทำงานรู้สึกตื่นเต้น

ค่อยเป็นค่อยไป ได้ยินแค่เสียงของโล่หวินหลานพูดต่ำลงๆ “ เหนียงๆ รอบข้างของท่านได้เงียบสงบลงแล้ว ตอนนี้ข้าจะถามอะไร เจ้าก็แนะนำเป็นอะไร”

ต้วนกุ้ยเฟยพยักหน้าขึ้นมาอย่างเต็มใจ

โล่หวินหลานเห็นนางถูกตนเองสะกดจิต นางก็ได้ควบคุมดีๆ ไม่สามารถเกิดข้อผิดพลาดอะไรขึ้นอีก และหมุนคอไปมองฮ่องเต้เจียเฉิง

“ฮ่องเต้เจ้าค่ะ ท่านอยากถามอะไรหรือเจ้าค่ะ” โล่หวินหลานถามขึ้น

เห็นนางถามเยี่ยงนี้ ฮ่องเต้เจียเฉิงก็ตกใจเหมือนกัน ทีแรกยังทำเยี่ยงนี้ได้

ถูกนางถามเยี่ยงนี้ ฮ่องเต้เจียเฉิงตื่นตระหนกอีกครั้ง ที่นี่มันทำเยี่ยงนี้ได้ นี่มันคือวิชาสะกดที่อัศจรรย์เสียแค่ไหนเชียว?

“ถ้าเป็นเช่นนี้ นั้นถามหน่อย ทำไมนางถึงได้ตั้งป้ายบูชาวิญญาณเฉินเฟยกลางห้องนอนของตนเองเยี่ยงนี้?”เสียงน่าเกรงขามของฮ่องเย้ได้ดังขึ้นท่ามกลางพวกเขา

เย่ฮองเฮาที่อยู่ข้างๆตื่นตระหนกไปสักพัก ถามเยี่ยงนี้ ถ้าเกิดต้วนกุ้ยเฟยตอบขึ้นมา คงทำให้ตนต้องลำบากไปด้วย?

นางเป็นคนพูดถึงเรื่องของเฉินเฟยต่อหน้าต้วนกุ้ยเฟยก่อน ยิ่งคิดก็ยิ่งไม่ถูก นางจับผ้าเช็ดมือของตนเองไว้ ไม่รู้ว่าต้องทำเยี่ยงไร?

วันนี้องค์รัชทายาทก็ไม่ได้อยู่เคียงข้างนาง แค่ต้องพึ่งตัวนางเอง อย่าให้เรื่องของต้วนกุ้ยเฟยมานำตนเองต้องฮวยตาม

ต้วนกุ้ยเฟยขมวดคิ้วขึ้นเบาๆ เหมือนสถานการณ์ทุกครั้งที่ผ่านมา ถ้าเรื่องที่นางไม่อยากจะพูดนางก็จะไม่ยอมเอ่ยปากพูด กลับทำให้นางควบคุมสติยากขึ้น

โล่หวินหลานที่เคยเจอสถานการณ์เยี่ยงนี้ก็ตั้งรับไว้ทัน ยื่นมือไปจับคางของนางไว้ และกระซิบอยู่ข้างหูนาง แล้วนางก็ค่อยๆสงบสติลง

ฮ่องเต้เจียเฉิงรู้สึกอึ้งมากๆ เหอซื่อพูดอะไรกับต้วนกุ้ยเฟยกันแน่? วิชาสะกดจิตของนางช่างอัศจรรย์จริงๆ

“แน่นอนว่าถ้าดูจากความกล้าและแผนการต่างๆของเฉินเฟย นางจะไปกล้าลงมือกับองค์รัชทายาทได้เยี่ยงไร? เรื่องที่องค์รัชทายาทถูกวางยา จริงๆข้าเป็นคนสั่งคนไปทำเอง หลังจากนั้นก็ใส่ร้ายเฉินเฟย เพื่อจะที่ให้ฮองเฮาจัดการเฉินเฟย ไม่เช่นนั้น หมิงอ๋องกับเฉินเฟยจะเป็นเยี่ยงนี้หรือ?” ต้วนกุ้ยเฟยพูดออกมาเป็นคำๆจริงๆ และพูดได้ชัดเจนมากๆ

เสียงของหล่นได้ดังขึ้นข้างหูของทุกคน โล่หวินหลานหันไปมองอย่างตกใจ เห็นฮ่องเต้เจียเฉิงได้กวาดทุกอย่างบนโต๊ะลงพื้น และทำให้เกิดเสียงที่ทำให้หนวกหู

จ้าวกงกงรีบคุกเข่าลง ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร

เย่ฮองเฮาที่ยืนอยู่ข้างๆเขาได้เงียบไม่พูดไม่จาใดๆ และรู้สึกทึ่งจนพูดอะไรไม่ออกเหมือนกัน

นางกลับถูกปิดหูปิดตามาเยี่ยงนี้สิบกว่าปี?

ต้วนกุ้ยเฟยเป็นผู้อยู่เบื้องหลังทั้งหมด และนางก็ได้เอาทุกคนมาอยู่ในกำมือของตนเอง เหมือนให้นางเป็นเฒ่าประมงนั่งนิ่งแต่ได้รับผลประโยชน์?

“เจ้า เจ้ามันนางงูพิษ!เสียดายที่ข้ารักใคร่เจ้ามาหลายปีมานี่ แล้วยังแต่งตั้งเจ้าเป็นกุ้ยเฟย แต่เจ้ากลับ เจ้ากฃลับ……. เอ่อๆ……..” ฮ่องเต้เจียเฉิงไม่ได้พูดให้จบ ก็ไอขึ้นมา

เขาจับโต๊ะไว้ และกลับไอไม่หยุด มือของเขากุมหน้าอกไว้ นัยน์ตาเริ่มแดงแล้วพูดอะไรไม่ออก

“ท่านพ่อ……”

ทุกคนต่างตะโกนออกมาอ่างตกใจ

ฮ่องเต้เจียเฉิงสะบัดมือของพวกเขาออก และล่มๆลุกๆเดินไปอยู่ต่อหน้าต้วนกุ้ยเฟย แล้วชี้หน้านาง “หลายปีที่ผ่านมาข้าถือว่าดีกับเจ้า แต่เจ้ากลับทำเรื่องต่ำชั่วเยี่ยงนี้ออกมา มันทำผิดร้ายแรงเกินไปจริงๆ!เจ้ามีอะไรไม่พอใจหรือ? เจ้าพูด เจ้าพูดมาสิ!”

คนที่ถูกสะกดจิตจะฟังแค่คนที่สะกดเท่านั้น แค่ถ้าตอนนี้โล่หวินหลานไม่ได้พูดออกเสียงใดๆ ต้วนกุ้ยเฟยก็จะไม่ได้ยินเสียงอะไรใดๆ

โล่หวินหลานรวบรวมความกล้าอย่างกล้าหาญแล้วทวนคำพูดของเขาอีกครั้ง

ต้วนกุ้ยเฟยหยุดชะงักไปสักพัก สีหน้าที่ดูยิ้มแย้มอย่างมีความสุข ตอนนี้สีหน้าของนางไม่สบอารมณ์ใดๆ

“ข้ามีอะไรไม่พอใจอีกไหม? ข้าไม่ได้มีอะไรไม่พอใจจริงๆ ข้าเป็นกุ้ยเฟย และอยู่เหนื่อว่าเฟยๆทั้งหมด และมีลูกชายสองคน แต่ว่าข้าจะเอาสิ่งที่ไปเพื่ออะไร?

ศักดิ์ของข้าสูงกว่าฉินเฟย แต่กลับไม่ได้รับการโปรดปรานเหมือนดั่งนาง ข้ามีลูกชายสองคน แต่กลับเปรียบกับหมิงอ๋องเพียงคำเดียวไม่ได้ สุดท้ายยังต้องให้ลูกชายอีกคนแก่ผู้อื่น

คอนนี้เวินอ๋องได้ถูกปลดเป็นชาวบ้านธรรมดา องค์รัชทายาทยังคงเป็นองค์รัชทายาท หมิงอ๋องก็เป็นหมิงอ๋อง มีเพียงข้าที่ตกอับเยี่ยงนี้ ท่านว่าเรื่องที่ข้าทำมันมีความผิดร้ายแรง? นั้นเรื่องที่ฮ่องเต้ทำไม่มีความผิดใหญ่หลวงหรือไง?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก