ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก นิยาย บท 412

ตอนที่ 412 เจ้าคือหนึ่งเดียว

โม่ฉีหมิงยื่นมือไปกอดนางแน่น กอดร่างที่สั่นเทาของนาง

เขาไม่เคยคิดเลยว่าจะมีวันนี้ คนที่เข้มแข็งอย่างโล่หวินหลานจะอ่อนแอขนาดนี้ เขาอยาจะโอบกอดนางเอาไว้ อยากจะปกป้องนางเอาไว้

"เรากลับกันเถอะ ยังมีหลายอย่างที่ยังทำไม่เสร็จ" โม่ฉีหมิงโอบไหล่นางแล้วพานางเดินกลับ

"วันเข้าพิธีของทั้งสองนั้น กลับกลายเป็นวันนองเลือด ตอนที่พวกเขากลับไปยังตำหนักนั้น ผู้คนมากมายต่างสลบอยู่ที่พื้น แม้แต่ชิวโม๋ไป๋และฉินหยิ่นเองก็เช่นเดียวกัน

โล่หวินหลานรีบเข้าไปดูลมปราณของชิวโม่ไป๋ นางจับชีพจรของเขา จากนั้นก็รีบให้คิดหาสูตรยาถอนพิษ

นางถอดชุดเจ้าสาว แล้วม้วนผมขึ้นโดยใช้ปิ่นปักตรงมวผม ทำให้นางคล่องตัวมากยิ่งขึ้น

หลังจากที่เข้าไปในห้องยาแล้วนั้น นางก็ถือตำราแพทย์ออกมา นางตั้งใจค้นควาสูตรยาถอนพิษ

นางมีความเชี่ยวชาญด้านการแพทย์ก็จริง แต่ด้านพิษต่างๆนั้นนางไม่มีความชำนาญ นางพลิกดูอยู่ครู่หนึ่ง จึงเจอพิษที่ชื่อชิวเอ่อ พิษนั้นมีส่วนผสมที่ทำให้คนเกิดภาพมโน

แสงแดดด้านนอกสาดส่องเข้ามาตรงหน้าของนาง ใบหน้าของนางซีดเซียว นางวางตำราแพทย์ลง

โม่ฉีหมิงส่งยิ้มให้นาง “หากต้องการสิ่งใดก็บอกกับข้า ข้าคือมือซ้ายและขวาของเจ้า"

ในห้องยานี้มีเพียงทั้งสอง โล่หวินหลานหันไปสบตากับเขา และส่งยิ้มให้

"เปิดลิ้นชักชั้นที่สองด้านซ้ายสุด ด้านในมียาที่หม่อมฉันต้องการ" โล่หวินหลานพูดโดยไม่เงยหน้า

เขาหยิบยาสมุนไพรลงมา แล้วฟังสิ่งที่นางพูดต่อ “ด้านซ้ายสุดแถวที่ห้า มียาที่หม่อมฉันต้องการ"

เขานับตามแนวของลิ้นชัก จากนั้นก็หยิบยาให้นาง มองดูความตั้งใจของนางแล้วนั้น เขาก็กระซิบที่ข้างหู “มีสิ่งใดให้ข้ารับใช้อีกหรือไม่? พระชายาองค์รัชทายาท?"

ริมฝีปากเย็นของเขากระซิบผ่านหูของโล่หวินหลาน จนหน้าของนางร้อนผ่าว นางจึงดันตัวเขาออกไปด้วยความขุยเขิน

"ไร้สาระ" โล่หวินหลานอ้อมตัวเขา แล้วไปหยิบยาทั้งหมดใส่ลงไปในครกหิน

นางผสมตัวยาอีกหลายชนิด จากนั้นก็ตำออกมา ด้านในห้องเต็มไปด้วยกลิ่นยา ยาสมุนไพรหลายชนิดถูกหลอมรวมกัน ทำให้ส่งกลิ่นฉุน

"แล้วต้องทำสิ่งใดเล่าจึงจะไม่สาระ? เจ้าพูดมาสิ หากข้าทำได้ ข้าก็จะทำตามที่เจ้าพูด" โม่ฉีหมิงเดินไปด้านหลังของนาง แล้วพูดเสียงยาว

เขายืนพิงลิ้นชักอันใหญ่ แววตาของเขาเต็มไปด้วยความรัก

"งั้นก็รบกวนองค์รัชทายาท ต้มยาให้หม่อมฉันทีเพคะ ต้องใช้เวลากว่าสองชั่วยาม" นางเอ๋ยขึ้นพร้อมวางยาไว้ตรงหน้าเขา จากนั้นก็ไปยุ่งเรื่องของตนเองต่อ

โม่ฉีหมิงมองนิ่งไปที่แผ่นหลังของนาง จากนั้นก็นำยาไปต้ม

ฉินหยิ่นที่อยู่ด้านหลังของเขาไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น เขาเดินไปด้วยพร้อมรายงานองค์รัชทายาทไปด้วย “องค์รัชทายาทยอมรับ ตอนนี้คนอยู่ในห้องแล้ว และได้รายงานเรื่องนี้ไปยังวังหลวงแล้วขอรับ"

พิษนี้ช่างร้ายแรงนัก แต่เห็นผลช้า ส่วนคนที่มีพลังภายในสูงก็จะไม่เป็นสิ่งใด ฉินหยิ่นเองก็ได้จัดการตำหนักให้เรียบร้อยแล้ว

"อื้ม" โม่ฉีหมิงกล่าว จากนั้นก็เดินไปที่โรงครัว

ฉินหยิ่นที่เดินตามเขาไปนั้นเต็มไปด้วยความสงสัย เหตุใดโม่ฉีหมิงจึงเข้าไปในโรงครับ? เขาบ้าหรือทำสิ่งใดผิด?

อุปกรณ์ทุกอย่างในห้องครัว เขาล้วนไม่คุ้นชิน เขามองดูซ้ายทีขวาที แล้วเหลือไปเห็นหม้อต้มยา

เขานำฟืนมาก่อไฟ ฉินหยิ่นอดไม่ได้จึงถามขึ้น “องค์รัชทายาท นี่ทำกำลังทำสิ่งใดหรือขอรับ?"

"เจ้าไม่เห็นหรือ? ข้ากำลังก่อไฟ" เขาก่อไฟด้วยความยากลำบาก

ก่อไฟ? เขาแปลกใจนัก “องค์รัชทายาท เรื่องเล็กแค่นี้ให้ข้าทำเถอะขอรับ"

"เจ้าออกไป ข้าทำได้" โม่ฉีหมิงยังคงจัดการกับกองฟืนตรงหน้า ท้ายที่สุดเขาก็จุดมันได้

ฉินหยิ่นนิ่งไปครู่หนึ่ง แล้วเดินออกไป

เขานำมาใส่ลงไปในหม้อต้ม จากนั้นก็ใช้พัดคอยพัดไฟ ยานี้ต้องใช้เวลาต้มกว่าสองชั่วยาม เขาจึงหาเก้าอี้อันเล็กมานั่ง แล้วตั้งหน้าตั้งตาต้มยา

บทสรุปของพวกเขานั้น เย่เซียวหลัวตายอย่างหดหู่ ส่วนโม่ฉีหานก็ตายเพราะช่วยโล่หวินหลาน แม้แต่ตัวเขาเองก็แทบจะไม่อาจปกป้องคนรักของตนเอาไว้ได้

เสียง "บุ๋ม บุ๋ม บุ๋ม" น้ำเดือดแล้ว มีน้ำมากมายไหลออกมา เขารีบไปจับที่ฝาปิด แต่กลับลวกโดนมือของตนเอง

ไม่คิดเลยว่าองค์รัชทายาทอย่างเขา จะกลัวหม้อต้มยานี้ได้

"ลวกโดนมือท่านหรือไม่? ให้หม่อมฉันดูที" โล่หวินหลานที่พึ่งเดินเข้ามา เมื่อเห็นเช่นนั้นก็รีบวิ่งไปหาเขา

มีเพียงเจ้าบ่าวเจ้าสาวที่ตอนนี้ยังอยู่ในโรงครัว เพื่อปรุงยาทอนพิษ วันมงคลเช่นนี้ถูกทำลาย แต่เขายังทำหน้ายิ้มอย่างมีความสุขได้

"วางใจเถอะ ไว้ข้าจะเลือกวันมงคลใหม่ที่ดีที่สุด ครั้งนี้ถือเป็นเพียงการซ้อมดีหรือไม่?" โม่ฉีหมิงจับที่มือของโล่หวินหลาน แล้วดึงตัวนางเข้ากอด

โชคดีที่เขารู้ตัวก่อน มิเช่นนั้นนางต้องคิดว่าเขาไม่ใส่ใจแน่

แต่ว่า โม่ฉีหมิงได้แย่งผ้ามาจากมือของนาง เขายกหม้อยาขึ้น แล้วเทลงในถ้วยสิบกว่าถ้วย จากนั้นก็ให้สาวรับใช้นำไปป้อนให้กับคนที่ถูกยาพิษ

โล่หวินหลานเองก็ได้ยกมาให้ชิวโม่ไป๋ นางป้อนยาให้เขา ยาค่อยๆออกฤทธิ์

นางไปนั่งตรงเก้าอี้ด้านหน้าแล้วพูดคุยกับโม่ฉีหมิง มองดูต้นไม้เขียวขจีในสวน ทำให้นางรู้สึกสบายใจขึ้นมา

หรือเพราะว่านางเคยชินแล้ว หรือเพราะว่านางคิดเอาไว้ว่าต้องมีวันนี้ โล่หวินหลานค่อยๆคุ้นชินกับโลกใบนี้ และนางก็เติบโตขึ้นบนโลกใบนี้

นางเอนตัวไปพิงไหล่ของโม่ฉีหมิง สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นของเขา แล้วถามขึ้น “ท่านจะมีสนมหรือไม่?"

ยุคสมัยโบราณนี้ไม่เหมือนกับยุคปัจจุบัน ที่ต้องมีแค่สามีคนเดียวหรือภรรยาคนเดียว และเขาเองก็เป็นถึงองค์รัชทายาท ซึ่งเป็นฮ่องเต้ในอนาคต จึงไม่แปลกที่เขาจะมีสนม

แต่นาง ไม่อาจยอมที่จะแบ่งปันความรักของตนให้กับหญิงอื่นได้ นางคงต้องคอยหึงหวงเขาทุกวัน และคอยจ้องทำร้ายและเอาผิดสนมคนอื่นๆ ซึ่งนางก็จะแก่ตัวลงในทุกวัน และก็คงมีวันหนึ่งที่เขาเบื่อนาง แล้วถึงเวลานั้น เขาจะยังอยู่เคียงข้างนางเช่นนี้หรือไม่?

นางรู้สึกได้ว่าโม่ฉีหมิงสะดุ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็เคาะที่หน้าผากของนาง แล้วพูดขึ้น “พูดจาเหลวไหล? เจ้าไม่เชื่อใจข้าหรือ?"

โล่หวินหลานเอามือกุมหน้าผากเอาไว้ “ไม่ใช่ว่าหม่อมฉันไม่เชื่อท่าน แต่หม่อมฉันไม่เชื่อในตัวเอง ท่านพี่เป็นองค์รัชทายาท และจะเป็นฮ่องเต้ในอนาคต หลายสิ่งท่านพี่ก็ไม่อาจตัดสินใจด้วยตนเองได้"

ที่แท้นางก็เป็นห่วงเรื่องนี้นั่นเอง โม่ฉีหมิงรู้สึกอุ่นใจนัก เขาโอบกอดนางเอาไว้แน่น แล้วถอนหายใจเล็กน้อย “เจ้ากำลังคิดสิ่งใดอยู่? ข้าไม่มีวันปล่อยให้เจ้าจากข้าไปหรอก และข้าก็จะไม่มีวันมีสนมด้วย มีเจ้าเพียงคนเดียวก็พอแล้ว"

นางไม่ได้พูดสิ่งใด นางรู้ดีว่าอย่างไรเขาก็ไม่มีวันมีสนม แต่นางก็อยากได้ยินจากปากของเขา

"หวินหลาน เจ้ากำลังกลัวสิ่งใด? ข้ารู้ว่าเจ้าอาจจะไม่เชื่อ แต่ว่าข้าจะแสดงให้เจ้าเห็นเอง ว่าข้าจะไม่รักใครนอกจากเจ้า" โม่ฉีหมิงลูบไปที่ผมของนาง

"หม่อมฉันเชื่อท่านพี่เพคะ" โล่หวินหลานกล่าว ในที่สุดนางก็พูดบางอย่าง

นางรู้ว่าเขารักนางมากเพียงใด นางเองก็เช่นเดียวกัน แต่ไม่มีใครสามารถรับประกันได้ว่าความรักจะไม่มีวันหมดอายุ

"มองดูเจ้าในตอนนี้สิ ต้องไม่เชื่อข้าแน่ แต่อย่างไรเสีย วันหนึ่งข้าจะพิสูจน์ให้เจ้าเห็น ว่าสิ่งที่ข้าพูดทั้งหมดนั้น ไม่ใช่เพียงลมปาก" โม่ฉีหมิงกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก